จากการคาดการณ์เทรนด์ธุรกิจในปี 2558 ธุรกิจความงามจะมาเป็นอันดับต้น เพราะด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การแพทย์ด้านความงามของไทยนั้นไม่แพ้ชาติใด ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ที่ผ่านมาจะได้เห็นต่างชาติให้ความสนใจเข้ามาใช้บริการด้านความงามในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น และสถานเสริมความงามของไทยเองก็มีการออกไปเติบโตในประเทศเพื่อนบ้านอย่างอาเซียน AEC เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
วันนี้พูดถึง AIC ศูนย์นวัตกรรมความงามกรุงเทพ และ Bangkok Premier Clinic ของ “นพ.พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ” หรือ “หมอบอย” ซึ่งในแวดวงความงามร้อยไหมก็คงจะคุ้นเคยกับชื่อของ “หมอบอย” เพราะถือเป็นเบอร์ต้นๆ ที่เชี่ยวชาญด้านร้อยไหม ขนาดเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดที่คนทั่วโลกยอมรับยังต้องยกให้หมอบอย แพทย์ศัลยกรรมของไทย ดำรงตำแหน่ง สำคัญอย่าง นายกสมาคมแพทย์เกาหลี ด้านศัลยกรรมความงาม
หมอเกาหลี ซูฮกไทยชื่อเบอร์ 1 ร้อยไหม
นพ.พุฒิพงศ์ (หมอบอย) กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจความงามที่ประกอบกิจการโดยแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ ในบ้านเรา นั้นมีการเติบโตอย่างมาก เพราะแค่ปี 2556 เพียงปีเดียวมีศูนย์ความงามที่เปิดให้บริการเฉพาะในกรุงเทพฯ มากถึง 400-500 แห่ง เพิ่มขึ้นจากเดิมที่เปิดให้บริการอยู่ประมาณ 200 แห่ง ส่วนหนึ่งมาจากคนไทยหันมาให้ความสนใจกับเรื่องของความสวยความงามมากขึ้น ประกอบกับ การพัฒนาด้านการให้บริการ เทคโนโลยี ต่างๆ และชื่อเสียงของแพทย์ด้านความงามของไทยก็เป็นที่รู้จักในต่างประเทศมาเป็นเวลานาน เป็นเหตุผลที่ทำให้ต่างชาติให้ความสนใจเข้ามาใช้บริการด้านความงามในประเทศไทย
ในส่วนของ AIC ศูนย์นวัตกรรมความงามกรุงเทพ และ Bangkok Premier Clinic เปิดให้บริการมาประมาณ 3 ปี จุดเริ่มต้นมาจากหมอเองเป็นแพทย์ด้านศัลยกรรมความงามมานาน เคยผ่าตัดเสริมความงามมามากกว่า 400,000 ราย พบว่าพอระยะเวลาผ่านไปคนที่มาเข้ารับบริการกลับมาเป็นอย่างเดิม ดูแล้วการผ่าตัดไม่ได้ช่วยอะไร และทำให้คนที่เข้ารับบริการเจ็บตัว พอมีเทคโนโลยีอื่นๆ เข้ามาช่วย อย่างร้อยไหม ก็เลยตัดสินใจไปเรียนเสริมด้านนี้มาโดยเฉพาะ และพบว่าร้อยไหมมีประสิทธิภาพดีกว่า คนที่มาเข้ารับบริการไม่ต้องเจ็บตัวบ่อย เพราะร้อยไหมครั้งหนึ่งก็อยู่ได้นาน และยังมีบริการอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการฉีด Botulinum Toxin หรือการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งช่วยให้คนไข้ไม่ต้องเจ็บตัวผ่าตัด ทำให้มีคนหันมาใช้บริการความงามเพิ่มมากขึ้น
โดยกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเดิม จะเป็นกลุ่มคนที่มีปัญหา ซึ่งอายุ 40 ปีขึ้นไป แต่ปัจจุบันมีบริการอื่นๆ คนที่มีปัญหาเรื่องใบหน้าก็เข้ามาใช้บริการ เพราะมีนวัตกรรมอื่นๆ ที่ช่วยเสริมความงามให้แก่สาว อย่าง หน้าเรียวเล็ก ใบหน้าที่ขาว หรือมีปัญหาใบหน้าหลุมสิว เหล่านี้ ทำให้กลุ่มคนที่เข้ามาใช้บริการอายุน้อยลง และไม่ใช่แค่ลูกค้าคนไทย หมอบอยเองมีลูกค้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาใช้บริการจำนวนมากเช่นกัน โดยเฉพาะประเทศมาเลเซีย ลาว และกัมพูชา เป็นต้น
มุ่งเป้าตลาดระดับกลาง โตได้อีกมาก ใน ตจว.
ทั้งนี้ เนื่องจากลูกค้าเชื่อใจในตัวหมอเท่านั้น ทำให้หมอไม่สามารถขยายสาขา หรือ ขยายงานได้มากนัก โดยเฉพาะการให้บริการร้อยไหม และกลุ่มลูกค้าของหมอจะเป็นกลุ่มลูกค้าระดับบนเท่านั้น เพราะค่าบริการที่ค่อนข้างสูง ดังนั้น เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดในระดับกลางลงไป หมอบอยจึงได้มีแผนที่จะร่วมทุนกับศูนย์ความงามของเกาหลี เปิดศูนย์ความงามในประเทศไทย โดยตั้งเป้าเปิดในประเทศไทย 10 สาขาในต่างจังหวัด ซึ่งกลุ่มเป้าหมายจะเป็นคนระดับกลาง สามารถเข้ามาใช้บริการได้ เพราะราคาจะไม่สูงเหมือนกับ AIC ส่วนหนึ่งเชื่อว่าทาง เกาหลีเองจะมีเทคโนโลยีใหม่เข้ามาอยู่เรื่อย และเกาหลีมีชื่อเสียงเรื่องของความงาม ซึ่งคนไทยก็ยอมรับและรู้จักกันดี ซึ่งไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทย ศูนย์แห่งนี้ จะกระจายเปิดให้บริการในประเทศอื่นๆ ด้วย เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ พม่า มาเลเซีย ฯลฯ ซึ่งในประเทศไทยการแข่งขันในตลาดนี้มีสูงมากเพราะมีรายใหญ่เปิดให้บริการอยู่แล้ว ซึ่งการแชร์ตลาดตรงนี้ได้ก็คงต้องมีจุดแข็งที่แตกต่าง
ผู้ผลิตเทคโนโลยีด้านความงามดันตลาดความงามโต
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน มีนักลงทุนให้ความสนใจกับการเปิดศูนย์ความงามเพิ่มมากขึ้น ซึ่งบริษัทผู้ผลิตเครื่องมือ และเทคโนโลยีด้านความงามก็มีการแข่งขันกันสูง บางครั้งเกิดการร่วมทุนกันระหว่างนักลงทุน กับบริษัทผู้ผลิตเครื่องมือเหล่านี้ และด้วยเทคโนโลยี เครื่องมือที่ออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ง่าย บางครั้งจึงไม่จำเป็นต้องใช้แพทย์ ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ก็สามารถให้บริการได้ นักลงทุนจึงให้ความสนใจลงทุนในตลาดนี้เพิ่มมากขึ้น
โทร. 0-2108-6165-66, 08-9643-1477 www.aic-clinic.com
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *