xs
xsm
sm
md
lg

ผ่าตัดใหญ่อัปใบหน้าต้องมีวิสัญญีฯ ช่วยชีวิต ห่วงหมอผ่าตัดเสริมสวยชุบตัวเพียบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หมอชี้เคสสาวทำศัลยกรรมหน้าเรียวแพ้ยาสลบตาย อาจเป็นการผ่าตัดใหญ่ เพราะต้องใช้การดมยาสลบ ระบุต้องมีวิสัญญีแพทย์และเครื่องมือช่วยชีวิตช่วยดูแลใกล้ชิด โอกาสเกิดแพ้ยาจนตายมีต่ำ เหตุสามารถช่วยได้ทัน ห่วงหมอศัลยกรรมเสริมสวยชุบตัวเพียบ ไม่ผ่านการเรียนเฉพาะทาง ด้าน สบส. เร่งตรวจสอบ

นพ.ชลทิศ สินรัชตานันท์ นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย ​กล่าวถึงกรณีสังคมออนไลน์เผยแพร่ข้อมูลพริตตี้สาวสวยคนหนึ่ง ไปทำศัลยกรรมให้ใบหน้าเรียวเป็นวีไลน์ ที่คลินิกแห่งหนึ่ง แต่สุดท้ายเกิดอาการแพ้ยาสลบ (Malignant Hyperthermia) จนเสียชีวิต ว่า ตนไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจน แต่เรื่องนี้ต้องแยกออกเป็น 3 ประเด็นคือ 1. การผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้า ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อที่บอบบางนั้น แพทย์จะแนะนำให้คนไข้ทำทีละรายการ เช่น จมูก ปาก คาง หรือกราม ซึ่งถือเป็นการผ่าตัดเล็ก แต่ถ้าทำหลายๆ อย่างพร้อมกันถือเป็นการผ่าตัดใหญ่ ไม่นิยมทำพร้อมกัน เพราะเสี่ยงเกิดอาการบวมจนปิดทางเดินหายใจ อย่างไรก็ตาม การศัลยกรรมต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง จะช่วยให้คนไข้ไม่บวมช้ำ แต่หากใช้เวลาในการผ่าตัดนานจะยิ่งทำให้เกิดอาการบวมช้ำ​ นอกจากนี้ หลังการผ่าตัดยังต้องมีระบบการดูแลให้ความช่วยเหลือ จึงควรทำในโรงพยาบาลเพื่อความปลอดภัย

นพ.ชลทิศ กล่าวว่า 2. การดมยาในการผ่าตัดใหญ่ ต้องดำเนินการโดยวิสัญญีแพทย์​ ซึ่งจะควบคุมปริมาณยา และดูแลคนไข้หากเกิดภาวะฉุกเฉิน โดยจะต้องมีอุปกรณ์ช่วยชีวิต อาทิ เครื่องมือสอดท่อช่วยหายใจ การให้ออกซิเจน การให้น้ำเกลือ ปรับความดัน เป็นต้น โดยวิสัญญีแพทย์จะดูแลระหว่างผ่าตัดไปจนถึงหลังผ่าตัด ดูแลการเต้นของหัวใจ ความดัน จนกว่าคนไข้จะปลอดภัย ซึ่งการแพ้ยาสลบมีโอกาสเกิดขึ้นได้ แต่หากมีวิสัญญีแพทย์อยู่ร่วม โอกาสที่คนไข้จะเสียชีวิตเกิดขึ้นได้ต่ำมาก เพราะเทคโนโลยีทางการแพทย์สามารถช่วยกู้ชีพคนไข้ได้แม้จะแพ้ยา

นพ.ชลทิศ กล่าวว่า และ 3. ประเด็นทางสังคม ถือว่าน่าห่วงมาก โดยธุรกิจความงาม การผ่าตัดศัลยกรรมของไทยเติบโตผิดปกติ มีแพทย์เข้ามาทำวิชานี้โดยบางครั้งไปชุบตัวเกาหลี 1 - 2 เดือน ก็กลับมาเป็นผู้เชี่ยวชาญ ทั้งที่ควรผ่านการฝึกอบรม ต้องได้วุฒิบัตรที่เกี่ยวข้องกับการผ่าตัด ซึ่งใช้เวลาเรียน 3 ปี จะทำให้เกิดความเชี่ยวชาญและแก้ปัญหาในการผ่าตัด สามารถช่วยชีวิตคนไข้ได้ เพราะแพทย์ก็เหมือนนักบิน หากมีชั่วโมงบินมากจะทำให้เกิดความปลอดภัยสูง

ปัจจุบันการเรียนต่อวุฒิบัตร หรือ แพทย์เฉพาะทางมีอยู่ประมาณ 20 - 30 สาขา แพทย์ที่จะทำศัลยกรรมตกแต่งควรผ่านแพทย์เฉพาะทางสาขาใดสาขาหนึ่ง เช่น ออโธปิดิกส์ ช่องท้อง ทรวงอก หู ตา จมูก ทางเดินปัสสาวะ เป็นต้น เพราะจะถูกฝึกความเชี่ยวชาญในการผ่าตัด การช่วยชีวิต แต่ปัจจุบันพบว่าแค่จบแพทยศาสตร์และไปอบรมสั้นๆ 1 - 2 เดือน ก็กลับมาผ่าตัด ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อคนไข้ อยากให้แพทยสภา และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จัดการในเรื่องนี้อย่างจริงจัง มิเช่นนั้นจะส่งผลเสียต่อประชาชน กระทบต่อเมดิคัล ฮับ ซึ่งการปล่อยให้เกิดลักษณะแบบนี้ที่​ใช้แต่การตลาด และโซเชียลมีเดียในการเรียกลูกค้า อัตราการเกิดโรคแทรกซ้อนโดยรวมของประเทศจะเพิ่มขึ้นจำนวนมาก” นพ.ชลทิศ กล่าว

ด้าน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้ข้อมูลเบื้องต้นแล้ว โดยนายแพทย์สาธารณสุขเชียงใหม่ได้พูดคุยกับญาติผู้เสียชีวิต เพื่อขอข้อมูลเบื้องต้นแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดย สบส. จะได้ดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดไม่ว่าจะเป็นการให้บริการ เครื่องมืออุปกรณ์ในการรักษาและช่วยชีวิต แพทย์ผู้ให้บริการ ว่าได้ดำเนินการตามมาตรฐานหรือไม่ ซึ่งการผ่าตัดไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลรัฐ หรือเอกชน ก็ต้องดำเนินการตามมาตรฐานเดียวกัน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ผู้ป่วย

ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่





“อี ฟอร์ แอล เอม” ปิดดีลซื้อหุ้น “วุฒิศักดิ์คลินิก” 4.5 พันล. เมินเพิ่มทุน
“อี ฟอร์ แอล เอม” ปิดดีลซื้อหุ้น “วุฒิศักดิ์คลินิก” 4.5 พันล. เมินเพิ่มทุน
อี ฟอร์ แอล เอม ปิดดีลซื้อหุ้น “วุฒิศักดิ์คลินิก” ผู้บริหาร เผยบอร์ดไฟเขียวตั้งบริษัทย่อยเข้า ถือหุ้น “วุฒิศักดิ์คลินิกอินเตอร์กรุ๊ป ร่วมกับพันธมิตร มูลค่าลงทุนรวม 4.5 พันล้านบาท เตรียมนำวาระเข้าสู่การประชุม วิสามัญผู้ถือหุ้นวันที่ 22 ต.ค.นี้ มั่นใจศักยภาพ “วุฒิศักดิ์ คลินิก” โดดเด่นมีสาขาครอบคลุม 120 สาขา แถมยังมี แฟรนไชส์ในประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมผงาดรับเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ดันรายได้ธุรกิจความงามโตควบคู่ ธุรกิจหลักนำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์
กำลังโหลดความคิดเห็น