xs
xsm
sm
md
lg

กสอ.จับมือเมืองคาวาซากิ เพิ่มศักยภาพเอสเอ็มอีไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอาทิตย์  วุฒิคะโร อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ขวา) จับมือกับนายโนริฮิโกะฟุคุดะนายกเทศมนตรีเมืองคาวาซากิ  ลงนามความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมระหว่างบริษัทของทั้ง 2 ประเทศ (ภาพจากแฟนเพจ กสอ.)
กสอ.จับมือเมืองคาวาซากิ ประเทศญี่ปุ่น ขยายความร่วมมือของเอสเอ็มอีทั้งสองชาติ ทั้งด้านถ่ายทอดความรู้ เชื่อมโยงคลัสเตอร์ เสริมการตลาดระหว่างกัน รวมถึงรักษาฐานลงทุนของญี่ปุ่นให้อยู่ในเมืองไทยต่อไป

นายอาทิตย์ วุฒิคะโร อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กสอ.ได้ร่วมมือกับเมืองคาวาซากิ ประเทศญี่ปุ่น พัฒนาอุตสาหกรรมเอสเอ็มอีของทั้งสองประเทศ ผ่านกรอบของความร่วมมือในด้านเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรม กับเมืองคาวาซากิ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการเอสเอ็มอีระหว่างสองชาติ

อีกทั้งสนับสนุนเอสเอ็มอีของเมืองคาวาซากิและประเทศไทย ขยายธุรกิจระดับสากล และดำเนินกิจกรรมที่สร้างความสัมพันธ์ในด้านเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศให้มีความใกล้ชิด เช่น การจัดโครงการแลกเปลี่ยนด้านอุตสาหกรรม การเชื่อมโยงคลัสเตอร์อุตสาหกรรมซึ่งกันและกัน การจัดสัมมนาการจัดนิทรรศการและการประชุมทางธุรกิจ เป็นต้น

นายปราโมทย์ วิทยาสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า เมืองคาวาซากิเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 9 ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้รับการพัฒนาเป็นศูนย์กลางของพื้นที่อุตสาหกรรมเคฮิน (พื้นที่อุตสาหกรรมตามแนวโตเกียว คาวาซากิ และโยโกฮามา) ที่ประกอบด้วยอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท เช่น เครื่องจักรอิเล็กทรอนิกส์ เหล็กและเคมีภัณฑ์ และเป็นที่ตั้งของบริษัทชั้นนำระดับโลกเป็นจำนวนมาก เช่น ฮิตาชิ โตชิบา แคนนอน และฟูจิสึ เป็นต้น

ทั้งนี้ แม้เมืองคาวาซากิจะเป็นเมืองอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีจำนวนโรงงานกว่า 100 โรงงาน แต่อยู่ร่วมกับประชาชนและสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นมิตร จึงเป็นต้นแบบที่การพัฒนาอุตสาหกรรมไทยควรนำมาใช้ อีกทั้งความร่วมมือกับเมืองคาวาซากิครั้งนี้ยังเป็นการรักษาและส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในประเทศไทย

นอกจากนี้ยังมีการลงนามความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมระหว่างบริษัทของทั้ง 2 ประเทศ คือ บริษัทสามมิตรมอเตอร์ จำกัด กับบริษัท ฟอร์มคอร์ปอเรชั่น จำกัด ในการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการรถไฟฟ้าประหยัดพลังงาน คอมแพกต์ อีวี (Compact EV Car) ที่สามารถลอยน้ำและวิ่งต่อไปได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากหากไทยเผชิญวิกฤตน้ำท่วม รวมทั้งความเป็นไปได้ในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อผลิตและการพัฒนาให้เหมาะสมกับตลาดทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออกยานยนต์ไทย

นายปราโมทย์กล่าวต่อว่า ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.ย. ปี 2557 ที่ผ่านมา มีบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในไทย คิดเป็นมูลค่ากว่า 109,000 ล้านบาท (ข้อมูลจาก สำนักความร่วมมือการลงทุนต่างประเทศ) และคาดว่าภายในสิ้นปี 2557จะมีมูลค่าการลงทุนสูงถึง 1.5 แสนล้านบาท

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น