xs
xsm
sm
md
lg

“แม่เอย” รุกขนมไทยพร้อมกิน ฉีกซองลิ้มรสต้นตำรับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ดิสรณ์ มาริษชัย กรรมการผู้จัดการบริษัท ขนมแม่เอย - เปี๊ยะ แอนด์ พาย (2003) จำกัด
หากเอ่ยถึงแบรนด์ “ขนมแม่เอย” หลายคนต้องนึกถึงขนมเปี๊ยะ เพราะเป็นสินค้าที่สร้างชื่อให้เจ้าของธุรกิจ แต่วันนี้จากการไม่หยุดพัฒนาสินค้าทำให้แม่เอยในวันนี้กลายเป็นขนมไทยพร้อมรับประทาน ยืนหยัดสูตรขนมไทยแบบดั้งเดิมที่นับวันเริ่มสูญหาย
ข้าวต้มมัดเก็บได้นาน 1 ปี มีจำหน่ายแล้วที่ king power
ขนมไทยพร้อมรับประทานบรรจุในถุงฟอยล์ภายใต้แพกเกจชวนลิ้มลองของ “ดิสรณ์ มาริษชัย" กรรมการผู้จัดการบริษัท ขนมแม่เอย - เปี๊ยะ แอนด์ พาย (2003) จำกัด หมัดเด็ดที่ยังไม่ทิ้งลายคือ การคงรสชาติขนมไทยไว้ได้อย่างเหนียวแน่น เฉกเช่นธุรกิจขนมเปี๊ยะที่ทำมาก่อนหน้านี้และครองใจลูกค้ามาหลายปี
แพคเกจเหมาะซื้อเป็นของฝาก
'ธุรกิจต้องขายความแท้จริง' เป็นปณิธานที่ผู้บุกเบิกขนมเปี๊ยะแม่เอยยึดถือ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เราเห็นนวัตกรรมใหม่กับวงการขนมไทยภายใต้แบรนด์นี้ และนี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ขนมแม่เอยลงมาเล่นกับขนมไทยพื้นๆ แต่กรรมวิธีการผลิตถือว่าไม่ธรรมดาเลย เพราะเขาต้องการให้ขนมไทยไปไกลกว่าที่เป็นอยู่ โดยเชื่อว่าวัตถุดิบพื้นฐานอย่าง กะทิ เผือก มัน กล้วย เป็นวัตถุดิบที่ทั่วโลกรู้จักกันดีอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อนำมาผสมผสานกันกลายเป็นขนมไทย ก็น่าจะถูกปากชาวต่างชาติไม่น้อย แต่อาจต้องมีการปรับความหวาน ความเข้มข้นของกะทิ ตามพฤติกรรมผู้บริโภคของแต่ละประเทศบ้าง

“เมื่อขนมแม่เอย คิดจะทำขนมไทยก็ต้องคงสูตรความเป็นไทยไว้อย่างเหนียวแน่น โดยเราต้องศึกษาสูตรดั้งเดิมของขนมประเภทแกงบวดทั้งหลาย เช่น เผือกแกงบวด มันแกงบวด ถั่วดำ เน้นรสชาติดั้งเดิม และศึกษารากเหง้าของขนมไทยจริงๆ จากนั้นก็หากรรมวิธีการเก็บรักษาที่ยาวนาน โดยไม่ใช้สารกันบูด กันเสียใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อให้ผู้บริโภครับประทานง่ายขึ้น สุดท้ายขนมไทยเหล่านี้ก็ถูกบรรจุลงในถุงฟอยล์ ภายใต้แพกเกจที่สวยงามอีกชั้นหนึ่ง เก็บได้นาน 1 ปีโดยไม่ต้องแช่เย็น ขณะที่เนื้อของวัตถุดิบไม่ร่วนซุย หรือแตกหัก แต่หากต้องการรับประทานร้อนๆ เพียงอุ่นในเตาไมโครเวฟก็จะได้ลิ้มรสขนมไทยต้นตำรับร้อนๆ กันได้แล้ว”
แกงบวดมัน
นอกจากขนมไทยประเภทแกงบวดแล้ว เขายังทำ “ข้าวต้มมัด” พร้อมรับประทานที่คงความสดใหม่ตลอดเวลา ในแพกเกจที่พร้อมจัดเป็นของฝากอย่างดี หิ้วขึ้นเครื่องบินได้สบาย ซึ่งล่าสุดสินค้าชนิดนี้ไปเข้าตาร้าน King Power สั่งไปจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ กลายเป็นหนึ่งในของฝากที่สื่อถึงความเป็นไทย และเป็นครั้งแรกที่มีการทำข้าวต้มมัดที่มีอายุนานถึง 1 ปีเช่นกัน
แกงบวดเผือก
“สำหรับข้าวต้มมัดความยากอยู่ที่การนึ่งอย่างไรให้ข้าวเหนียวนิ่ม ขณะที่ใบตองหุ้มด้านนอกไม่ดำ ยังคงความเขียวไว้ได้เพื่อชวนรับประทาน ขั้นตอนเหล่านี้เราใช้เวลาลองผิดลองถูกด้วยตนเองมาประมาณเกือบปี เพราะยังไม่เคยมีตำราเขียนกรรมวิธีทำข้าวต้มมัดในแพกเกจสุญญากาศมาก่อน กลายเป็นความท้าทายที่น่าลองเสี่ยง หากทำได้ก็ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของแบรนด์ขนมแม่เอย ซึ่งสุดท้ายเราก็ทำได้จริงๆ”
แกงบวดถั่วดำ
ด้านราคาถือเป็นตัวแปรหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าหรือไม่ เบื้องต้นเขาตั้งราคาขนมประเภทแกงบวดที่กล่องละ 50-55 บาท ส่วนข้าวต้มมัดขายใน King Power อยู่ที่ 250 บาท/กล่อง (5 คู่) พร้อมซื้อเป็นของฝากได้ไม่อายใคร
แกงบวดฟักทอง
ส่วนแผนในอนาคตเรียกได้ว่าเป็นความตั้งใจตั้งแต่แรกที่มองไกลถึงตลาดส่งออก โดยต้องการทำให้ขนมไทยในรสชาติแบบดั้งเดิมเป็นที่รู้จักในระดับสากล ซึ่งข้าวต้มมัด และขนมประเภทแกงบวดก็ถือเป็นความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจ ขณะที่ตลาดในประเทศก็ได้รับการทาบทามจากห้างสรรพสินค้าชั้นนำให้นำสินค้าไปวางในซูเปอร์มาร์เกตหลายสาขา ส่วนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อไปมองไปที่อาหารไทยที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีบรรจุลงในซองพร้อมรับประทานได้ทันทีอย่าง กะเพรา แกงเขียวหวาน มัสมั่น ผัดขิง โดยทุกเมนูปราศจากผงชูรสและเก็บได้นาน 1 ปี
หน้าตาแกงบวดเผือกเมื่อแกะออกจากซอง
ถือเป็นความพยายามพัฒนาขนมและอาหารไทยในรสชาติแบบต้นฉบับเอาไว้ให้นานที่สุด เพื่อให้ลูกหลานได้รู้จักรสชาติที่แท้จริง แถมยังเผยแพร่สู่ตลาดโลก ธุรกิจแบบนี้คนไทยด้วยกันไม่ควรมองข้าม
แกงบวดถั่วดำชวนรับประทาน
ขนมเปี๋ยะแม่เอย ธุรกิจที่ยังครองตลาด



***สนใจติดต่อ 0-2622-0588-9, 08-1702-5955 หรือที่ www.kanommaeoey.com***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น