สำหรับผู้สัญจรผ่านถนนสายนครนายก-นางรอง จ.นครนายก อาจจะเคยเห็นร้านขายส้มยำไก่ย่างขนาดใหญ่ริมทาง ชื่อร้าน “ไก่ย่างน้องเล็ก” ซึ่งเป็นเจ้าแรกในย่านนี้อยู่มากว่า 15 ปี เติบโตจากเป็นร้านกระท่อมเล็กๆ ข้างทาง บุกเบิกทำกันแค่สองแม่ลูก ค่อยๆ ขยาย จนปัจจุบัน กลายเป็นร้านดังประจำท้องถิ่น รองรับลูกค้าได้มากกว่าพันคน
กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ “มลิวัลย์ หนูสว่าง” หรือชื่อเล่นว่า “แดง” และแม่ของเธอ อาศัยความวิริยะอุตสาหะอย่างสูงยิ่ง ประกอบการปรับรสชาติเมนูอาหารอีสานให้ถูกปากลูกค้าคนเมืองโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวกรุงฯ และที่สำคัญ ได้อานิสงส์จากการท่องเที่ยวในท้องถิ่นเติบโตอย่างสูง หนุนให้จากร้านเล็กๆ ริมทางสามารถมาสู่ร้านขนาดใหญ่ และยังเป็นอาชีพที่มั่นคงของสมาชิกทุกคนในครอบครัว และน่าจะเป็นตัวอย่างที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่คนทั่วไปที่กำลังดิ้นรนทำมาหากินอยู่ขณะนี้
เส้นทางอาชีพ เริ่มจากคุณแดงเป็นลูกชาวสวนอยู่ที่ จ.นครนายก ช่วยพ่อและแม่นำผลไม้จากสวน ไปขายแถวๆ ทางขึ้น “วังตะไคร้” ทว่า จากภัยธรรมชาติเกิดน้ำป่ารุนแรงเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว ทำให้ลูกค้านักท่องเที่ยงลดลงไปอย่างมาก จึงตัดสินใจเปลี่ยนอาชีพมาขายไก่ย่างส้มตำแทน โดยมาตั้งร้านอยู่ที่ริมทางถนนสายนครนายก-นางรอง จ.นครนายก
คุณแดง เล่าว่า ที่คิดจะขายไก่ย่างส้มตำ เกิดจากความคิดง่ายๆ เนื่องจากเป็นเมนูทำกินเองในครอบครัวอยู่แล้ว และต้องการหาอาชีพสร้างรายได้หาเลี้ยงชีพ หลังปรึกษากับแม่แล้ว ลงทุนหลักพันบาท ทำเป็นกระท่อมเล็กๆ เริ่มแรกช่วยกันทำสองคนกับแม่ ซึ่งในเวลานั้น ถนนเส้นนครนายก-นางรอง ยังไม่มีร้านขายส้มตำไก่ย่างอยู่เลย
“ตัวดิฉันเอง ไม่ได้เป็นคนชอบทำอาหารมากนัก ส่วนสูตรส้มตำ ไก่ย่างก็เป็นสูตรที่พ่อทำให้กินอยู่แล้วที่บ้าน ซึ่งก็ไม่ได้เป็นสูตรลับพิเศษแต่อย่างใด เป็นไก่ย่างส้มตำแบบบ้านๆ ที่หากินได้ทั่วไป แต่ปรากฏว่า ลูกค้าที่มากินแล้ว เขาบอกว่าอร่อย หลังจากนั้น ก็เกิดการบอกต่อ ลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆ” เจ้าของร้าน เผย และเสริมต่อว่า
“ที่ร้านเราเติบโตมาได้ ส่วนหนึ่งมาจากการเติบโตของการท่องเที่ยวในท้องถิ่นด้วย เพราะในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยว จ.นครนายก เติบโตอย่างมาก และถนนเส้นนี้ ก็เป็นทางผ่านไปยังแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ขณะที่อาหารพวกไก่ย่างส้มตำเป็นอาหารที่คนไทยชอบกินอยู่แล้ว ซึ่งในช่วงแรกมีร้านเราร้านเดียว คนที่ขับรถผ่านไปมา มักแวะกิน แล้วไปช่วยบอกต่อจนร้านขายดีขึ้นเรื่อยๆ” คุณแดง กล่าว
สิ่งสำคัญที่ช่วยให้จากร้านเล็กๆ สามารถเติบโตขึ้นมาได้ เธอบอกว่า อยู่ที่วินัยในการจับจ่าย ผลกำไรที่ได้มา ไม่เคยนำไปใช้จ่ายซื้อสินค้าฟุ่มเฟื่อยจนเกินตัว ทว่า ส่วนใหญ่จะนำกลับมาพัฒนาร้าน โดยเฉพาะการปรับปรุงสถานที่และขยายร้านให้กว้างขวางยิ่งขึ้น นับถึงปัจจุบัน ปรับปรุงร้านมาแล้วถึง 6 ครั้ง จากเบื้องต้นมีโต๊ะแค่ 2-3 ตัว ทุกวันนนี้ เพิ่มเป็นกว่า 70 โต๊ะ นอกจากนั้น ยังมีโซนห้องแอร์สำหรับรองรับการจัดเลี้ยง สามารถรับลูกค้าได้สูงสุดถึง 1,200 คน
มลิวัลย์ เสริมในจุดนี้ว่า เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว พื้นที่ร้านระดับต่ำกว่าพื้นถนนมาก ไม่สะดวกที่รถจะเข้ามาจอด ดังนั้น การปรับปรุงร้าน เงินส่วนใหญ่ต้องลงทุนเกี่ยวกับการปรับพื้นที่ ซึ่งบางครั้งลำพังเงินเก็บก็ไม่เพียงพอ ซึ่งส่วนนี้ ทางสถาบันการเงิน อย่างธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) มาช่วยเหลือ
สำหรับเมนูอาหารภายในร้าน “ไก่ย่างน้องเล็ก” รวมแล้วกว่า 50 รายการ ส่วนใหญ่เป็นเมนูประจำตามร้านอาหารอีสานทั่วไป เช่น ส้มตำ จิ้มจุ่ม ลาบ น้ำตก ปลาเผา เนื้อแดดเดียว ฯลฯ ส่วนที่ขายดีที่สุด คือ ไก่ย่าง เฉลี่ยยอดขายประมาณ สัปดาห์ละ 200 ตัว
ทั้งนี้ ในส่วนรสชาติอาหารนั้น คุณแดงบอกว่า ช่วยกันกับแม่ คิดค้นขึ้นเอง พยายามปรับปรุงมาเรื่อยๆ จนได้สูตรลงตัว เป็นอาหารอีสานเพื่อคนเมือง คือ เป็นรสกลาง ไม่เผ็ดจัดจนเกินไป เนื่องจากลูกค้าหลักของร้านคือนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะจากกรุงเทพฯ
ส่วนเคล็ดลับความอร่อยนั้น เธอบอกว่า อยู่ที่วัตถุดิบต้องคุณภาพดี และเลือกใช้ให้เหมาะกับแต่ละเมนู อย่างส้มตำ วัตถุดิบหลักที่ต้องเจาะจงใช้ของคุณภาพดีที่สุด ได้แก่ น้ำปลา มะนาว และน้ำตาลปิ้ก แม้ว่าบางช่วงเวลา วัตถุดิบบางตัวอย่างมะนาวจะราคาสูงมาก แต่เลือกจะคงคุณภาพ ใช้มะนาวสดเช่นเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงไปใช้มะนาวเทียม ทว่า แก้ปัญหาต้นทุนเพิ่ม ด้วยการขอขึ้นราคาอาหารเป็นพิเศษแทน
“การทำร้านอาหารดิฉันเชื่อว่า เรื่องความอร่อย มีความสำคัญมากกว่าราคา ถ้าของดีราคาสูง ลูกค้าก็พร้อมจะยอมรับ อย่างช่วงที่มะนาวราคาลูกละ 10 บาท ทางร้านก็จะบอกกับลูกค้าตรงๆ ว่า ช่วงนี้ส้มตำเราจะปรับราคาขึ้นพิเศษจานละ 10 บาท ซึ่งลูกค้าก็เข้าใจได้ เพราะราคาวัตถุดิบมันแพงจริงๆ ดีกว่า เราขายราคาเดิมแต่ลดคุณภาพ ลูกค้าก็จะได้กินของไม่ดี” มลิวัลย์ บอกแนวคิดในการทำร้านอาหารของตัวเอง
จะเห็นได้ว่า ในความเป็นจริง ร้านนี้ไม่ได้มีอาหารที่แปลกแตกต่างจากร้านอาหารอีสานทั่วไปแต่อย่างใด นอกจากปัจจัยเรื่องทำเลร้านที่เปิดได้อย่างเหมาะสมกับการเติบโตของการท่องเที่ยวในท้องถิ่นแล้ว อีกสาเหตุที่ผู้ประกอบการรายนี้ ประเมินตัวเองถึงความสำเร็จที่เกิดขึ้น มาจากความเมตตาของลูกค้าที่เห็นถึงความตั้งใจของเธอและครอบครัว ในการทำมากินสุจริต ขยันและทุ่มเทมาตลอดกว่า 15 ปี
“ลูกค้าหลายราย เห็นเรามาตั้งแต่เป็นกระท่อม เวลาเขาขับรถผ่าน ก็มาแวะกินให้กำลังใจ เพราะเห็นว่าเราเป็นคนตั้งใจทำมาหากินจริงๆ ซึ่งทุกวันนี้ ดิฉันก็ยังลงมือปรุงอาหารด้วยตัวเองตลอด ไม่เคยทิ้งให้คนอื่นทำแทน เพราะกลัวว่า ลูกค้าจะได้กินอาหารที่ไม่อร่อยเหมือนเดิม นอกจากนั้น ตั้งแต่เปิดร้านสิบกว่าปี แต่ละปีจะหยุดแค่ไม่เกิน 3 วัน เหตุผลสำคัญ ไม่ใช่เรื่องเสียดายรายได้ แต่ไม่อยากให้ลูกค้าที่อุตสาห์เดินทางมาไกลๆ ต้องผิดหวัง เพราะร้านปิด” คำบอกเล่าของคุณแดง บ่งบอกถึงการเป็นแม่ค้าที่ดี ในสายเลือดแท้จริง
ด้วยการท่องเที่ยว จ.นครนายก เติบโตอย่างสูง ทุกวันนี้ หากขับรถเส้นทางถนนสายสาริกา-นางรอง ที่มีระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร จะพบเห็นร้านอาหารเปิดเรียงรายเต็มไปแล้ว ไม่ต่ำกว่า 100 ราย ทว่า สำหรับร้าน “ไก่ย่างน้องเล็ก” คุณแดง บอกว่า ยังขายดีสม่ำเสมอ แม้จะมีร้านใหม่ๆ เปิดขึ้นจำนวนมากก็ตาม เพราะมีฐานลูกค้าดั้งเดิมค่อนข้างมาก และพยายามคงรักษาคุณภาพความอร่อย ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ทำอาหารให้เหมือนตัวเองและคนในครอบครัวกิน
แม่ลูกคู่นี้ ถือเป็นอีกตัวอย่างของคนตั้งใจทำมาหากิน เริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ไม่ได้อาศัยฝีมือ หรือความสามารถพิเศษอย่างใด หากแต่ใช้ความขยันทุ่มเท และมีใจรักงานบริการอย่างแท้จริง ความสำเร็จในวันนี้ จึงเป็นรางวัลที่เหมาะสมอย่างยิ่งแล้ว
สนใจอยากไปลิ้มอาหารอีสานรสแซบ ติดต่อที่ 08-1295-0831
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *