ทานาคาพันธุ์ไม้ยืนต้น ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มของสาวพม่า ปัจจุบัน ทานาคาไม่ได้รับความนิยมแค่ในกลุ่มของสาวพม่าเท่านั้น แต่สาวไทย กัมพูชา เวียดนาม และในอีกหลายประเทศทั่วโลก เริ่มหันมาให้ความสนใจ กับเรื่องราวของทานาคา พืชชนิดนี้มากขึ้น
ทั้งนี้ ถ้าถามสาวไทย วันนี้ คงไม่ต้องบอกว่า ทานาคามีคุณสมบัติอะไร เพราะสาวๆ ทุกคน รู้จักกันดี
ศุภชัย จูพาณิชย์ เจ้าของผลิตภัณฑ์ เดอลีฟ ทานาคา เล่าว่า สำหรับทานาคา เป็นพืชยืนต้น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของประเทศพม่า โดยชาวพม่าส่วนใหญ่นิยมนำทานาคามาใช้ทั้งชายและหญิง ซึ่งการใช้ทานาคาแบบดั้งเดิมนั้นมาจากการนำเปลือกของท่อนไม้ทานาคา มาฝนกับหินขัดที่ถูกทำให้ชื้นโดยพรมน้ำเล็กน้อยก่อนฝน จะได้น้ำสีเหลืองนวลที่พร้อมนำมาใช้ทาได้ทั่วผิวกายตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม้ทานาคามีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่สูงมาก ทำให้ทานาคามีคุณสมบัติที่จะต่อต้านความเสื่อมของเซลล์ ช่วยชะลอความชราของผิวได้เป็นอย่างดี ทานาคายังช่วยป้องกันการเกิดสิว ควบคุมความมัน ลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ลดจุดด่างดำและฝ้า ช่วยป้องกันการทำลายผิวจากรังสียูวี นอกจากจะเป็นผลิตภัณฑ์ความงามแล้ว ทานาคายังเป็นไม้เนื้อเย็น ให้ความรู้สึกเย็นสบายอีกด้วย
ทั้งนี้ จากประโยชน์ของทานาคานี่เองเป็นตัวจุดประกายให้ “ศุภชัย” คิดค้น และทำการศึกษาเรื่องราวของทานาคา อย่างจริงจัง ก่อนที่จะนำมาเป็นส่วนผสมหลักเป็นเครื่องสำอาง แบรนด์ "เดอลีฟ ทานาคา" ซึ่งประกอบด้วย แป้งฝุ่นทานาคาแบบกระป๋อง และ เดอ ลีฟ ทานาคา มอยส์เจอร์ไรซิ่งครีม ซึ่งผลิตภัณฑ์ ทั้ง 2 ชนิด ทาง เดอลีฟ ได้มีการนำเข้าไม้ทานาคา ซึ่งคัดสรรเป็นพิเศษ เพื่อให้ได้ไม้ทานาคา ที่มีคุณภาพดี มาผสมกับส่วนผสมอื่นๆ สมุนไพรในประเทศไทย ที่มีคุณสมบัติบำรุงผิวหน้า เช่น ว่านหางจระเข้ เป็นต้น
ศุภชัย เล่าว่า ก่อนที่จะนำไม้ทานาคา มาผลิตเป็นเครื่องสำอางดังกล่าว ได้นำมาวิจัยเพื่อศึกษาถึงคุณสมบัติของไม้ทานาคา และหลังจากนั้น ได้มีการคัดสรรส่วนผสมอื่นๆ ก่อนที่จะนำมาผลิตดภายใต้นวัตกรรมการผลิตที่ทันสมัย ซึ่งผลิตภัณฑ์ ทานาคาที่ได้ แตกต่างจากผลิตภัณฑ์ ทานาคา ที่ผลิตในประเทศพม่า เพราะเน้นวัตถุดิบ และส่วนผสมเกรดเอ เนื่องจากเห็นว่า ประเทศพม่า เองก็ยังไม่มีผู้ผลิตทานาคา ที่เป็นสินค้าเกรดพรี่เมียม ด้วยเหตุนี้ เอง ทางเราจึงได้ทำแบรนด์ดังกล่าวขึ้นมา โดยมุ่งเจาะกลุ่มผู้ใช้ในประเทศพม่า ก่อน 2554 และเริ่มเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย เมื่อปี 2555 ที่ผ่านมา
“สาเหตุที่เลือกทำผลิตภัณฑ์ไม้ทานาคา เพราะเห็นว่า ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ AEC และผมเริ่มมองว่า จะผลิตอะไรออกมาขาย เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในครั้งนี้ สุดท้ายมาจบลงที่ทานาคา เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่น และเป็นที่รู้จัก ไม่เฉพาะในประเทศพม่า แต่รู้จักในประเทศอื่นๆ ด้วย และเห็นว่า ทานาคามีการใช้อย่างแพร่หลายในประเทศพม่า แต่กลับไม่มีสินค้าทานาคาระดับพรีเมียมขายในห้างสรรพสินค้า เราจึงตั้งใจผลิต เดอลีฟ ทานาคา ออกมาเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบนขึ้นมา ”
ในส่วนของการทำตลาด นั้น ปัจจุบัน มีการส่งออกสินค้าของเราไปขายอีกหลายประเทศ เช่น พม่า กัมพูชา ลาว สิงคโปร์ และจีน รวมถึงการมุ่งทำตลาดอย่างจริงจังในประเทศไทย ราคาขายในประเทศไทย แป้งฝุ่น ขนาดน้ำหนัก 100 กรัม ราคา 45 บาท และ ขนาด 200 กรัม ราคา 75 บาท ส่วนมอยเจอไรเซอร์ ราคา 250 บาาท ผลตอบรับในประเทศไทย เริ่มดีขึ้นเรื่อย ส่วนหนึ่งมาจากชื่อของทานาคา ซึ่งเป็นที่รู้จัก มากขึ้น เพราะสาวๆ ไทยบางคน เริ่มได้มีโอกาสใช้ไม้ทานาคากันบ้างแล้ว
ทั้้งนี้ พอเรามีผลิตภัณฑ์ ผ่านการรับรองกระบวนการผลิตที่ทันสมัย ทำให้ สาวๆ ไทย ได้มีทางเลือก และเป็นแบรนด์ของคนไทย ส่วนใหญ่ลูกค้าของเรามาจากการบอกกันแบบปากต่อปาก และไม้ทานาคาเอง ก็มีการพิสูจน์คุณสมบัติการใช้มาแล้ว จากสาวพม่า ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องยากในการทำตลาดแบรนด์ดังกล่าว ซึ่งเมื่อถามถึงคู่แข่งทางการตลาดตอนนี้ถือว่า ยังมีไม่มาก เรายังมีโอกาสและช่องว่างทางการตลาดให้เราได้เติบโตอีกมาก
โทร.08-1808-5534 www.deleafthanaka.com หรือ www.facebook.com/deleafthanaka
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *