ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเผยรายการการวิจัยส่งออกไทยไปจีน 2 เดือนแรกของปีนี้หดตัวร้อยละ 0.8 และการเมืองไทยวุ่นวาย ส่งผลนำเข้าลดร้อยละ 19.8 หดตัวรุนแรงที่สุดในรอบ 4 ปี คาดปีนี้ส่งออกไทยไปจีนโตร้อยละ 3.3 หรือมูลค่า 28,000 ล้านดอลลาร์
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเปิดเผยการวิจัยว่า การส่งออกจากไทยไปจีนในช่วง 2 เดือนแรกปี 2557 ยังคงหดตัวร้อยละ 0.8 (YoY) ส่วนหนึ่งจากผลของฤดูกาลและการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในจีน โดยในเดือนกุมภาพันธ์ 2557 มีมูลค่าส่งออก 2,216 ล้านดอลลาร์ หดตัวต่อเนื่องร้อยละ 0.8 (YoY) รวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทยจากเหตุการณ์ความยืดเยื้อทางการเมืองก็ส่งผลให้การนำเข้าสินค้าจากจีนที่ส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบเพื่อการผลิตปรับตัวสู่ระดับต่ำ 2,222 ล้านดอลลาร์ ปรับลดลงร้อยละ 19.8 (YoY) และเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดในรอบ 4 ปีครึ่ง ส่งผลให้ไทยขาดดุลการค้ากับจีนเพียง 5.56 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับจากเมื่อเดือนตุลาคม 2554 ซึ่งเป็นเดือนที่ไทยเกินดุลการค้ากับจีนเนื่องจากภาวะน้ำท่วมครั้งใหญ่
ทั้งนี้ การส่งออกของไทยไปจีนในช่วงที่เหลือของปี 2557 น่าจะทยอยปรับตัวดีขึ้น ซึ่งในช่วงไตรมาส 2/2557 น่าจะได้แรงหนุนจากฐานเปรียบเทียบในปี 2556 ที่ค่อนข้างต่ำ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านต่างๆ ผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจจีนที่น่าจะรักษาระดับการเติบโตร้อยละ 7.4 ใกล้เคียงกับที่ทางการจีนตั้งเป้าราวร้อยละ 7.5 ซึ่งทางการจีนอาจมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมออกมาอีก และคงต้องจับตาตัวเลข GDP ไตรมาส 1/2557 ของจีนที่จะประกาศในวันที่ 16 เมษายนนี้ ซึ่งจะช่วยประกอบภาพเศรษฐกิจจีนปี 2557 ได้มากขึ้น
อย่างไรก็ดี ความพยายามปฏิรูปเศรษฐกิจจีนอย่างเข้มข้นในด้านต่างๆ อาจส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ขณะเดียวกันก็อาจส่งผลโดยอ้อมเพิ่มความเสี่ยงต่อภาคการเงินซึ่งเป็นผู้ให้กู้แก่ธุรกิจที่อยู่ในโครงข่ายการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของจีน นั่นอาจซ้ำเติมเศรษฐกิจจีนได้ ดังนั้น ผู้ประกอบการที่มีจีนเป็นตลาดส่งออกหลักอาจต้องจับตาทิศทางเศรษฐกิจของจีนในปีนี้อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า เศรษฐกิจจีนในปี 2557 น่าจะสามารถประคองตัวเติบโตได้ที่ร้อยละ 7.4 ใกล้เคียงตามเป้าหมายที่ทางการตั้งไว้ ซึ่งน่าจะประคองให้การส่งออกของไทยในปีนี้เติบโตได้ราวร้อยละ 3.3 มีมูลค่า 28,000 ล้านดอลลาร์ โดยมีกรอบประมาณการอยู่ที่ขยายตัวร้อยละ 0.5-6.0 มีมูลค่าระหว่าง 27,000-29,000 ล้านดอลลาร์
ในด้านการนำเข้าจากจีน ซึ่งปัจจัยฉุดสำคัญคงต้องจับตาความไม่แน่นอนของการเมืองไทย หากสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ภายในกลางปีนี้ก็อาจสนับสนุนการผลิตและการลงทุนในไทยคึกคักมากขึ้น การนำเข้าจากจีนน่าจะขยายตัวราวร้อยละ 0.1 มีมูลค่า 38,000 ล้านดอลลาร์ โดยมีกรอบประมาณการหดตัวร้อยละ 3.0 ถึงขยายตัวร้อยละ 2.0 มีมูลค่าระหว่าง 36,600-38,500 ล้านดอลลาร์ และไทยยังคงเสียเปรียบดุลการค้ากับจีนราว 10,000 ล้านดอลลาร์
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *