xs
xsm
sm
md
lg

แฟรนไชส์แรงได้อีก! เทรนด์คนรุ่นใหม่อยากเป็นเถ้าแก่ เมินชีวิตมนุษย์เงินเดือน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมาคมแฟรนไชส์ไทย บริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน)ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อ 7-11 และสสว. ร่วมแถลงข่าวการจัดโครงการ Franchise Guide 2014 ที่จะขึ้นในวันที่ 31 พฤษภาคม 2557 ณ ชั้น 11 อาคารซีพีทาวเวอร์ ถนนสีลม
เผยอัตราเติบโตแฟรนไชส์ปีที่แล้วเพิ่มกว่า 20% ตามการขยายตัวของภาคอสังหาฯ ใน ตจว. ทั้งห้างสรรพสินค้าและหมู่บ้านเกิดใหม่ ระบุปีนี้แม้การเมืองป่วนแต่เชื่อยังโตได้อีกเพราะเทรนด์คนรุ่นใหม่อยากจะเป็นเถ้าแก่ พร้อมจับมือ 7-11 และ สสว.จัดโครงการ Franchise Guide 2014 ในวันที่ 31 พ.ค.นี้ เติมความรู้ และแนะแนวทางเลือกซื้อแฟรนไชส์

นางสาวสมจิตร ลิขิตสถาพร นายกสมาคมแฟรนไชส์ไทย กล่าวในการแถลงข่าวการจัดโครงการ Franchise Guide 2014 ว่า จากการสำรวจ ปัจจุบันมีผู้ลงทุนซื้อธุรกิจแฟรนไชส์ หรือแฟรนไชซี ประมาณ 80,000 ราย โดยข้อมูลเมื่อปีที่แล้ว (2556) มีอัตราการเติบโตประมาณ 20% จากปัจจัยสนับสนุนสำคัญคือ การขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัด โดยเฉพาะห้างสรรรพสินค้าต่างๆ ที่ตั้งขึ้นใหม่ และหมู่บ้านเกิดใหม่ในพื้นที่ต่างจังหวัด จึงเป็นโอกาสให้ผู้สนใจอยากมีอาชีพตัดสินใจลงทุนซื้อธุรกิจแฟรนไชส์เพื่อจะไปลงในทำเลและพื้นที่ธุรกิจเกิดใหม่ต่างๆ

นอกจากนั้นยังมีปัจจัยเอื้ออื่นๆ ประกอบด้วย นโยบายการสนับสนุนเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่องของภาครัฐ เช่น สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นต้น อีกทั้งสถาบันการเงินต่างๆ ให้ความสำคัญปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอี ซึ่งหลายแห่งมีสินเชื่อเพื่อลงทุนแฟรนไชส์โดยเฉพาะ รวมถึงภาคเอกชนขนาดใหญ่หลายแห่ง เช่น บริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) มีกิจกรรม CSR ให้ความสำคัญเป็นพี่เลี้ยงแก่ผู้ประกอบการหน้าใหม่ขนาดเล็กเหล่านี้ประกอบกันช่วยให้ภาคธุรกิจแฟรนไชส์ยังมีแนวโน้มเติบโตเสมอ

นางสาวสมจิตรกล่าวต่อว่า สำหรับแนวโน้มธุรกิจแฟรนไชส์ในปีนี้ (2557) แม้ว่าจะเกิดความไม่สงบทางการเมือง แต่จากการทำสำรวจพบว่าธุรกิจแฟรนไชส์ที่ได้รับผลกระทบจะเป็นเฉพาะจุด หรือเฉพาะพื้นที่ และเฉพาะบางสาขาธุรกิจ แต่โดยภาพรวมแล้วธุรกิจแฟรนไชส์ยังมีทิศทางจะเติบโตได้อีก นอกจากปัจจัยเอื้อดังกล่าวข้างต้นแล้ว จากการสำรวจพบว่าคนรุ่นใหม่ นักศึกษาจบใหม่ อายุ 20-30 ปี มีความสนใจอยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจของตัวเองมากกว่า 50% ต่างจากอดีตที่คนจบใหม่ส่วนใหญ่มักอยากเป็นพนักงานบริษัท และคนอยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจมักจะมีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป

นอกจากนั้น จากการสำรวจพบด้วยว่าผู้ลงทุนทำธุรกิจแฟรนไชส์อยู่แล้วกว่า 80% พอใจต่อการประกอบอาชีพจากการซื้อแฟรนไชส์ และ 90% ระบุด้วยว่าถ้าจะลงทุนใหม่อยากจะซื้อแฟรนไชส์อีกมากกว่าลงทุนทำธุรกิจเอง เพราะแฟรนไชส์ถือเป็นการเริ่มต้นธุรกิจที่ง่ายและสะดวก จากปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาทำให้เชื่อว่าอัตราการเติบโตธุรกิจแฟรนไชส์ในปีนี้ (2557) คาดเพิ่มไม่ต่ำกว่า 20%

นายกสมาคมแฟรนไชส์ไทยกล่าวด้วยว่า สำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ที่เป็นดาวเด่น ผู้ประกอบการมีความสนใจอยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจมากที่สุดกว่า 70% คือกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ส่วนสาขาที่มาแรงได้แก่ กลุ่มการศึกษา เนื่องจากปัจจุบันคนต้องการเพิ่มศักยภาพให้ตัวเอง และลูกหลาน รวมถึงเตรียมพร้อมรับเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)

ทั้งนี้ จากการเติบโตดังกล่าว ทางสมาคมแฟรนไชส์ไทยได้ร่วมกับบริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อ 7-11 และ สสว. จัดโครงการ Franchise Guide 2014 ขึ้น ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2557 ณ ชั้น 11 อาคารซีพีทาวเวอร์ ถนนสีลม เพื่อให้ความรู้ และเตรียมความพร้อมให้แก่ผู้สนใจอยากจะลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ โดยเปิดให้ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการได้ฟรี

ภายในงานมีกิจกรรม ได้แก่ 1. การสัมมนาความรู้ แนวทางเลือกซื้อแฟรนไชส์ 2. การโชว์เคสของผู้ประกอบการแฟรนไชส์ไม่ต่ำกว่า 20 ราย และ 3. การจับคู่ธุรกิจ ระหว่างผู้สนใจซื้อแฟรนไชส์กับบริษัทเจ้าของแฟรนไชส์ ซึ่งผู้สนใจสามารถลงทะเบียนร่วมได้ที่ www.franchisefocus.co.th หรือโทร. 0-2321-7701-4 โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

ด้านนายชาวันย์ สวัสดิ์-ชูโต รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า จากการศึกษาของ สสว.ตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน และจากฐานข้อมูลเอสเอ็มอีประเทศไทยในปี 2555 กลุ่มธรุกิจหลักที่ดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจอาหาร เครื่องดื่ม และไอศกรีม การศึกษา โอกาสทางธุรกิจ บริการ ความงาม เบเกอรี่ งานพิมพ์ ค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์และหนังสือ วิดีโอ โดยมีจำนวนธุรกิจแฟรนไชส์ปี 2555 รวมทั้งสิ้น 40 ธุรกิจ รวมสาขาธุรกิจ แฟรนไชส์ไทย 83,133 สาขา มีมูลค่าการลงทุนกว่า 287 ล้านบาท โดยกระจายในหลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มของการขายปลีกอาหารและเครื่องดื่มคิดเป็นร้อยละ 43.38 รองลงมาอยู่ในกลุ่มการขายปลีกอื่น ๆ ร้อยละ 28.62 โดยมูลค่า GDP SME ประจำปี 2556 มีรายได้เฉลี่ยกว่า 1,934 ล้านบาท โดยในอีก 3 ปีข้างหน้า คาดว่าจะมีจำนวนผู้ประกอบการธุรกิจแฟรนไชส์เพิ่มขึ้นเป็น 850 บริษัท และตลาดแฟรนไชส์ จะมีมูลค่าประมาณ 200,000 ล้านบาท

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น