หลักทรัพย์บัวหลวง เตือนนักลงทุนแห่เก็งกำไร Put Warrant ก่อนหน้าหนึ่งวันขึ้นเครื่องหมาย XD รับเงินปันผลเพื่อหวังกำไรของฟรี ระวังขาดทุนเพราะผู้ออกมีกลไกปรับราคาให้อยู่แล้ว แถมหากราคาหุ้นแม่ลดลงน้อยกว่าปันผลที่จ่ายมีสิทธิขาดทุน พร้อมเสิร์ฟ DW 22 ตัวใหม่ลุยตลาดแล้ววันนี้ อายุ 5-6 เดือน ชู AP, TTA หุ้นอ้างอิงหุ้นใหม่แกะกล่อง
นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลจ่ายเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียนในขณะนี้ พบว่ามีนักลงทุนหลายรายเข้ามาเก็งกำไรโดยซื้อใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrant) ประเภทสิทธิในการขาย (Put Warrant) ในวันก่อนหน้าที่หุ้นอ้างอิงขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อสิทธิจ่ายเงินปันผล เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า ราคาหุ้นอ้างอิงในวันรุ่งขึ้นจะปรับตัวลดลงเท่ากับเงินปันผลที่จะจ่าย ซึ่งจะทำให้ Put Warrant ที่นักลงทุนถืออยู่มีราคาสูงขึ้น ซึ่งกรณีดังกล่าวถือเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง และนักลงทุนอาจขาดทุนได้
ทั้งนี้ เนื่องจากกรณีหุ้นอ้างอิงมีการจ่ายเงินปันผล การจ่ายหุ้นปันผล การเพิ่มทุน และการแตกพาร์ ทางผู้ออก DW ทุกรายจะมีการปรับราคาใช้สิทธิ และอัตราการใช้สิทธิของ DW เพื่อรักษาระดับราคา DW ที่ซื้อขายในกระดานไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นอ้างอิงที่เกิดจากการดำเนินการดังกล่าว ดังนั้น นักลงทุนที่หวังจะถือ Put Warrant ข้ามวันถึงวันที่หุ้นอ้างอิงขึ้น XD แล้วคิดว่าราคาหุ้นจะลง และมีโอกาสทำกำไรจาก Put DW ได้ง่ายๆ จึงอาจเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง นอกจากนี้ หากเป็นแนวโน้มขาขึ้นที่การปรับตัวลดลงของราคาหุ้นน้อยกว่าเงินปันผลที่จ่ายแล้วยังมีโอกาสขาดทุนได้ แต่หากราคาหุ้นอ้างอิงปรับตัวลดลงเท่ากับเงินปันผลที่จ่ายก็ถือว่าเท่าทุน
“ในช่วงที่ผ่านมา เราสังเกตว่าในวันที่หุ้นกำลังจะขึ้น XD พบว่า นักลงทุนเทขาย DW ประเภทสิทธิในการซื้อ (Call Warrant) เพื่อไปซื้อ Put Warrant ในช่วงใกล้จะปิดตลาดค่อนข้างมาก ซึ่งถ้าหากเป็นการซื้อขายที่เป็นผลจากมุมมองที่เห็นการกลับทิศทางของหุ้นก็ถือว่ายอมรับได้ แต่ถ้าไม่ใช่แล้วก็อาจเป็นความเข้าใจผิดของนักลงทุนได้ เพราะทั้ง Call DW และ Put DW จะมีการปรับราคา และอัตราการใช้สิทธิเพื่อสะท้อนการจ่ายเงินปันผลให้อยู่แล้ว บริษัทจึงอยากเตือนเน้นย้ำให้นักลงทุนให้ศึกษาข้อมูลก่อน” นายบรรณรงค์ กล่าว
พร้อมกันนี้ บริษัทเตรียมออก DW01 ชุดใหม่ จำนวน 22 ตัว เข้าซื้อขายในตลาดแล้วตั้งแต่วันนี้ โดยมีอายุ 5-6 เดือน ซึ่งมี DW 3 ตัวที่อ้างอิงหุ้นชุดใหม่ 2 หลักทรัพย์ ได้แก่ บริษัท เอพี ไทยแลนด์ (AP) ซึ่งจะออกประเภท Call Warrant และบริษัท โทรีเซน เอเยนต์ซีส์ (TTA) จะออกทั้ง Call และ Put Warrant เนื่องจากเห็นว่าราคาหุ้นอยู่ในระดับต่ำ และมีปัจจัยสนับสนุนให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นได้ จึงนำเสนอเพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่นักลงทุนส่วนที่เหลืออีก 19 ตัว ออกมารองรับ DW01 ที่จะครบกำหนดอายุในเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งอ้างอิง 10 หลักทรัพย์ ได้แก่ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง (BTS) บริษัท ซีพีออลล์ (CPALL) บริษัท ซีพีเอฟ (CPF) บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิกส์ (DELTA) บริษัท สยามโกลบอลเฮาส์ (GLOBAL) บริษัท อินโดรามาเวนเจอร์ (IVL) บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท (PS) บริษัท ปตท. (PTT) และบริษัท การบินไทย (THAI)
นายบรรณรงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ภาพรวมการซื้อขาย DW ทั้งระบบเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 631 ล้านบาท คิดเป็น 2.33% ของมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งระบบ โดยบริษัทยังครองผู้นำตลาดอันดับ 1 ในการออกผลิตภัณฑ์ DW โดยมีมูลค่าการซื้อขายคิดเป็น 60% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งระบบ นอกจากนี้ ยังมียอดการถือครองโดยนักลงทุนสูงสุดในอุตสาหกรรมคิดเป็น 44% โดย DW ที่มียอดการถือครองสูงสุดอ้างอิงหุ้น AOT, ADVANC, TRUE, KBANK และ PTT ซึ่งมีมูลค่ารวมกันสูงถึง 245 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าจัดสัมมนาเพื่อให้ความรู้ และแนะนำการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด บริษัทได้ร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดสัมมนาในหัวข้อ “เทรด DW อย่างมั่นใจด้วย www.blswarrant.com” ในวันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน 2557 เวลา 18.00-20.00 น. ห้องประชุม 1101 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้ที่ www.set.or.th หรือ SET Customer Service โทร.0-2229-2222
ด้านนายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันหุ้น AP ราคาปรับตัวลงมาค่อนข้างมาก เนื่องจากบริษัทมีความเสี่ยงว่ายอดจองซื้อในอนาคตอาจโตไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ระดับ 31% ในปีนี้ แต่บริษัทยังมีข่าวดีสนับสนุนจากการประกาศจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท คิดเป็นผลตอบแทนเงินปันผลประมาณ 5% ซึ่งจะขึ้น XD ในวันที่ 6 พฤษภาคมนี้ รวมทั้งยังมีแผนเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ 3 แห่งพร้อมกันในเดือนพฤษภาคมนี้ ได้แก่ Rhythm สุขุมวิท Aspire รัชดา-วงศ์สว่าง และ Rhythm อโศก 2
สำหรับผลการดำเนินงานของ AP งวดไตรมาส 4/2556 บริษัทมีกำไรสุทธิ จำนวน 933 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 130% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งผลงานออกมาเป็นไปตามที่ตลาดคาด โดยมีกำไรสุทธิปี 2556 จำนวน 2 พันล้านบาท ลดลง 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนหุ้น TTA มีสัญญาณเชิงบวกจากการไต่ระดับขึ้นของดัชนีค่าระวางเรือเทกอง (BDI) จากปัจจัยบวกตามฤดูกาล ทำให้คงมุมมองเชิงบวกต่อทุกธุรกิจของ TTA ในปี 2557 โดยคาดว่าธุรกิจเรือเทกองเข้าสู่ขาขึ้นรอบใหม่ และผ่านพ้นจุดคุ้มทุนแล้ว ขณะที่ธุรกิจเรือขุดเจาะและพลังงานของ Mermaid ซึ่งเป็นบริษัทย่อย คาดว่ากำไรจะเติบโตสูงกว่าช่วงพ้นจุดคุ้มทุนแล้ว ขณะที่ธุรกิจเรือขุดเจาะและพลังงานของ Mermaid ซึ่งเป็นบริษัทย่อย คาดว่ากำไรจะเติบโตสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการรับรู้รายได้สัญญาระยะยาวกับลูกค้าจากตะวันออกกลางที่มีมาร์จิ้นสูง และรับรู้รายได้ของเรือขุดเจาะทั้ง 3 ลำแบบเต็มปี รวมทั้งยังมีแผนนำบริษัทลูก PMTA เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2557 นี้ ซึ่งจะสนับสนุนให้ราคาหุ้น TTA มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้