xs
xsm
sm
md
lg

“โขน” สบู่แฮนด์เมดเกษตรอินทรีย์จากผักสมุนไพรริมรั้ว โอทอปของดีนครนายก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สบู่จากสมุนไพร ผักริมรั้ว เกษตรอินทรีย์ 4 สี 4แบบ
“โขน” แบรนด์หนึ่งของสบู่สมุนไพรที่เกิดจากไอเดียของ “กรรณิการ์ ศรีวิจารณ์” เธอต้องการที่จะนำสิ่งที่อยู่ตามธรรมชาติ ปราศจากสารเคมีมานำเสนอแก่คนไทย เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดี และเพื่อปลูกฝังสร้างจิตสำนึกให้คนรุ่นใหม่กับเรื่องราวของธรรมชาติในรูปแบบของเกษตรอินทรีย์
กล่องไม้ เพิ่มมูลค่าขายของฝากนักท่องเที่ยว
กรรณิการ์ (ครูอ๊อด) เป็นครูอาสาสมัคร ของศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก ซึ่งถ้าใครได้มีโอกาสเดินทางมาอำเภอบ้านนา และได้สัมผัส หรือพูดคุยกับคนท้องถิ่น จะได้เห็นว่าคนในท้องถิ่นต่างดำเนินรอยตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการมุ่งมั่นพยายามพลิกฟื้นพื้นที่การเกษตรในแบบเกษตรไร้สารพิษ หรือเกษตรอินทรีย์ รวมถึงครูอาสาผู้นี้ มุ่งมั่นที่จะนำความรู้เรื่องของเกษตรอินทรีย์ไปเผยแพร่สู่คนในท้องถิ่น ให้ได้เห็นว่าเกษตรอินทรีย์นั้นดีอย่างไร และทำไมเราจึงต้องทำเกษตรอินทรีย์
กล่องไม้ 4ก้อน ราคา 300 บาท
ครูอ๊อดเล่าว่า ตนเป็นครูสอน กศน.ในพื้นที่ ซึ่งต้องทำเรื่องเหล่านี้ไปสอนลูกศิษย์อยู่แล้ว ซึ่งการสอน กศน.ต่างจากการสอนนักเรียนทั่วไป เพราะการสอน กศน.เน้นให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติจริง และนำไปใช้ได้และสร้างอาชีพได้จริง ดังนั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของ สบู่สมุนไพร “โขน” ที่เรากำลังพูดถึงในครั้งนี้ คือ จุดเริ่มต้นมาจากเราทำเกษตรอินทรีย์ และสิ่งแรกที่ทำคือ ว่านหางจระเข้ เพราะเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์มากมายต่อร่างกาย และปลูกได้ง่าย

ทั้งนี้ เมื่อมีผลผลิตออกมาแล้วก็ต้องนำมาต่อยอด ซึ่งทาง ผอ.ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนที่ตัวเองทำงานอยู่ได้ให้คำแนะนำว่า ครูอ๊อดจะต้องทำในสิ่งที่ชาวบ้านคนทั่วไปสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้เพื่อลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน เช่น น้ำยาล้างจาน หรือสบู่ จึงเลือกทำสบู่ เพราะสมุนไพรเหล่านี้จะมีประโยชน์ ถ้าเรานำมาแปรรูปเป็นสบู่ทำให้เราได้สบู่ที่มาจากธรรมชาติจริง โดยปราศจากสารเคมีในทุกขั้นตอนการผลิต
ถุงผ้าของฝากจากนครนายก
หลังจากนั้นเริ่มมองหาสมุนไพรตัวอื่นๆ ที่เหมาะต่อการนำมาทำสบู่ และพัฒนาต่อยอด เรื่องของเกษตรอินทรีย์ ตัวต่อมาเป็นสมุนไพรริมรั้ว อย่างดอกอัญชัน ผสมว่านหางจระเข้ สรรพคุณช่วยต้านอนุมูลอิสระ ว่านหางจระเข้ช่วยเรื่องของสิวอุดตัน และตัวต่อมา มะละกอ ช่วยในเรื่องของฝ้าแดด หลังจากนั้นมองเห็นว่ากลุ่มลูกค้าของเราอยู่ในตัวเมืองปัจจุบัน เต็มไปด้วยมลพิษในอากาศ จึงได้ทำตัวสบู่ถ่านไม้ไผ่ขึ้นมา ซึ่งถ่านที่ได้มาจากไม้ไผ่ มีการปลูกเป็นจำนวนมากในพื้นที่ และตัวสุดท้ายคือ ฟักข้าว คุณสมบัติฟักข้าวนั้นมีประโยชน์อย่างมากในเรื่องการต้านอนุมูลอิสระมากกว่าแครอทถึง 10 เท่า และฟักข้าวมีคุณสมบัติช่วยทำให้ใบหน้าขาวใส ซึ่งได้รับความนิยมในกลุ่มของวัยรุ่น หนุ่มสาว ที่ต้องการใบหน้าขาวใส
กรรณิการ์  ศรีวิจารณ์ เจ้าของ
ครูอ๊อดเล่าถึงที่มาของชื่อ โขน เกิดจากตนเองมีบุตรบุญธรรมอยู่ในต่างประเทศ ชื่อโขน ก็เลยนำมาตั้งเป็นชื่อแบรนด์ และโขน สื่อถึงความเป็นไทยได้ดี เพราะตั้งใจว่าในอนาคตต้องการจะนำสบู่ออกไปขายต่างประเทศ ดังนั้นจึงออกแบบและตั้งชื่อแบรนด์ให้รองรับ ซึ่งการออกสู่ตลาดต่างประเทศของเราจุดมุ่งหมายไม่ได้อยู่ที่ผลตอบแทนกำไรเพียงอย่างเดียว แต่เราต้องการจะนำสิ่งดีๆ ของเมืองไทยไปอวดสายตาชาวโลก ให้เขาได้เห็นว่า ประเทศไทยเรามีแต่สิ่งดีๆ เพื่อจะได้จดจำแต่เรื่องดีๆ ของคนไทย และประเทศไทย

สำหรับแผนการตลาด ที่ผ่านมาขายในกลุ่มของคนที่รู้จัก และบอกต่อกัน เพราะเชื่อว่าการที่เราทำสิ่งดีๆ ถ้าใครได้ซื้อสินค้าของเราไปเขาก็จะได้แต่สิ่งดีๆ เพราะไม่ได้คาดหวังเรื่องของผลกำไรทางธุรกิจมากนัก แต่อยากจะเผยแพร่เรื่องราวของเกษตรอินทรีย์ และสมุนไพรงธรรมชาติที่ดีซึ่งเกิดขึ้นในประเทศไทย จะเห็นได้จากการตั้งราคาขายไม่ได้ขายในราคาที่สูงมากนัก ถ้าหากเทียบสบู่แฮนด์เมดจากธรรมชาติ 100% ในแบบเดียวกับเรา เขาตั้งราคาสูงกว่าเรามาก ราคาขายก้อนละ 40 บาท (ไม่มีแพกเกจจิ้ง) ก้อนละ 50 บาท (รวมแพกเกจจิ้ง)”

ทั้งนี้ ให้ความสำคัญต่อการออกแบบผลิตภัณฑ์ และแพกเกจจิ้ง เพราะสิ่งแรกที่คนเห็นคือ รูปลักษณ์ภายนอก แต่ตัวสบู่ต้องซื้อไปใช้ก่อน ถ้าดีจริงลูกค้าจะกลับมาซื้อเอง ครั้งนี้แพกเกจจิ้งไม่ใช่เรื่องสำคัญ ซึ่งให้ความสำคัญเรื่องของการผลิตค่อนข้างมาก เพราะแต่ละขั้นตอนกว่าจะได้สบู่มาแต่ละก้อนต้องมีกรรมวิธีมากมาย ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ สมุนไพรที่ต้องปลอดภัยจริง ไปจนถึงการเลือกแพกเกจจิ้งที่ออกแบบมาเพื่อให้คนที่ซื้อไปรู้สึกว่า เป็นสบู่ที่ดี และมีคุณค่า มากกว่าสบู่ทั่วๆ ไป ซึ่งจะเห็นได้จากตัวแพกเกจจิ้งแต่ละตัวทำออกมา ใครได้เห็นต้องชื่นชอบและอยากได้เป็นเจ้าของมากพอกับตัวสบู่ที่อยู่ภายใน

ในส่วนของตลาดต่างประเทศเป็นเป้าหมายหลักของเราในอนาคต แต่ปัจจุบันช่องทางที่เราทำได้คือ คนรู้จักหิ้วนำเข้าไปขาย ยังไม่ได้มีการทำตลาดในต่างประเทศอย่างจริงจัง เพราะตอนนี้กลับมามองตลาดคนไทยมากกว่า ส่วนหนึ่งเราเห็นว่าของเราเป็นของดี ก็เลยอยากให้คนไทยด้วยกันได้ใช้มากกว่า แต่ถ้ามีโอกาสก็คงต้องเดินไปตามเป้าหมายของเรา คือ การได้ไปขายต่างประเทศ ภายใต้ชื่อโขน ชื่อแบบไทย สื่อความเป็นไทย ดังนั้นต้องมั่นใจว่าของเราจะต้องดีจริง เพราะจุดมุ่งหมายของเราคือ อยากให้คนต่างชาติได้ชื่นชมประเทศไทยผ่านตัวสินค้า ที่เรานำเสนอ

โทร. 08-7069-0295

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น