คุณเคยนับมั้ยว่า วันนึงคุณก้มหน้ามองโทรศัพท์มือถือวันละกี่ครั้ง? และสังเกตมั้ยว่า เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน คุณใช้โทรศัพท์มือถือเพิ่มมากขึ้นแค่ไหน
ตอนนี้เราอยู่ในยุคของการถดถอยของการใช้คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือโน้ตบุ๊กกันแล้ว แนวโน้มพฤติกรรมของคนไทยและคนทั่วโลก กำลังเปลี่ยนตัวเองเข้าสู่ยุคของการใช้งานมือถือและอุปกรณ์พกพา (Mobile ERA) อย่างเต็มตัว โดยเฉพาะการมาของอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบไร้สายผ่านทางมือถือ อย่างเทคโนโลยี 3G ที่ทุกวันนี้กลายเป็นสิ่งธรรมดาที่ใครๆ ก็มีกัน
แน่นอนหลายๆคนอาจจะใช้ในเชิงเรื่องส่วนตัวกันซะส่วนใหญ่ แต่มันจะดีไหมครับ หากเราสามารถประยุกต์ใช้ เทคโนโลยี 3G กับการทำงานและการทำธุรกิจของคุณได้
ก่อนจะไปใช้ 3G มาดูก่อนว่า ตัวเองมีอุปกรณ์หรือเครื่องมือที่พร้อมเชื่อมต่อกับ 3G แล้วหรือยัง
-อุปกรณ์ที่ใช้กับ 3G
โทรศัพท์มือถือ (Mobile)ส่วนใหญ่จะเป็นประเภทสมาร์ทโฟน (Smart Phone) ที่สามารถเชื่อมต่อ 3G ได้ โดยลักษณะเด่นของสมาร์ทโฟน คือ มีความสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และมีความสามารถที่หลากหลายนอกเหนือจากโทรศัพท์มือถือทั่วไป รวมถึงยังสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นต่างๆมาลงไว้ในมือถือได้ ทั้งเล่นเกม ทำงาน หรือหลากหลายความสามารถ
แท็ปเล็ต (Tablet)หรือกระดานฉนวนดิจิตอล ที่ตอนนี้หลายๆคนเริ่มหันมาใช้แท็ปเล็ตแทนโน้ตบุ๊กกันมากขึ้น เพราะใช้งานง่าย สะดวกต่อการพกพา (โดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่อายุเยอะๆ ที่ใช้คอมพิวเตอร์ไม่ค่อยเป็น แนะนำให้มาลองใช้ แท็ปเล็ตดูครับ ใช้งานง่ายมากๆ จอใหญ่ มองง่ายสบาย)
แอร์การ์ด (Air Card) ตัวเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรือโน็ตบุ๊กของคุณผ่านช่อง USB เพื่อรับสัญญาน 3G ซึ่งจะทำให้คอมพิวเตอร์ ของคุณสามารถต่ออินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลา
-ประโยชน์ของ 3G กับการทำงานและธุรกิจ
ประชุมกันได้ทุกที่ ทุกเวลา โทร ฟรี ฟรี ฟรี.!
คุณสามารถประชุม พูดคุยกับคนหลายๆ คนพร้อมกันได้ทันทีผ่าน 3G บางทีเราอาจจะเดินทางไปประชุมไม่ทัน หรือเราอยู่นอกออฟฟิศ รวมถึงการโทรหากันฟรีๆ
แอพฯที่แนะนำ -Skype.com ใช้ได้ทุกอุปกรณ์พกพาและคอมพิวเตอร์
แฟ็กซ์ และส่งเอกสารกันได้ทันที
หากอยากจะส่งเอกสารไปหาคน เดียวนี้ไม่จำเป็นต้องพึ่งแฟ็กซ์อีกต่อไปแล้ว คว้ามือถือของคุณขึ้นมา แล้วถ่ายภาพ แนบไฟล์ภาพส่งภาพอีเมล์ไปหาผู้รับได้ทันทีสบายๆ หรือจะใช้แอพฯช่วยก็ได้
แอพฯที่แนะนำ - DocScannerApp.com
นำทาง หาที่อยู่บริษัท
คุณจะไม่หลงทางอีกต่อไป เพราะคุณมีแผนที่อยู่ในมือของคุณ โดยคุณสามารถดูตำแหน่งของคุณ ณ ขณะนั้น วางแผนการเดินทางหรือนำทางไปที่ๆคุณไม่เคยไป รวมถึงการค้นหาธุรกิจ ร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ ที่คุณชื่อชอบได้ทันที
แอพฯที่แนะนำ - Google Maps, Foursquare.com
รับ-ส่งไฟล์ขนาดใหญ่ สบายบรื๋อ
หากคุณจะต้องรับหรือส่งไฟล์งานเอกสาร หรือ presentation ขนาดใหญ่ๆ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะแนบไฟล์ใหญ่ๆ ผ่านอีเมล์ไม่ได้ ลองใช้บริการเก็บข้อมูลผ่านเทคโนโลยีคลาวด์ แล้วคุณจะลืมการใช้ ทัมพ์ไดรฟ์ไปเลย
แอพฯที่แนะนำ - Dropbox.com, Drive.google.com
นำเสนองาน (Present)
เดี๋ยวนี้แทบไม่ต้องพกโน็ตบุ๊กเครื่องโตๆอีกต่อไปแล้ว ใช้แท็ปเล็ต ต่อสายออกจอโปรเจ็กเตอร์ ดึงไฟล์จากอินเทอร์เน็ตมานำเสนองานกับลูกค้าได้ทันที ทุกที่ทุกเวลา
แอพฯที่แนะนำ - KeyNote (iOS), OfficeSuite (Andriod)
ติดตามตำแหน่งลูกน้องและทีมงาน (รวมถึงสามี)
คุณสามารถติดตามตำแหน่งของทีมงานของคุณได้ทันทีผ่านทางอุปกรณ์พกพา จะทำให้คุณสามารถรู้ตำแหน่งของพวกเค้าได้ทันทีแบบ (Real Time) และสามารถนำมาใช้ในการบริหารและให้บริการลูกค้าได้อย่างทันท่วงที (รวมถึงติดตามสามีของคุณว่าอยู่ที่ไหน)
แอพฯที่แนะนำ - Google Plus Location
พูดคุยกับชาวต่างชาติ
หากคุณไม่เก่งภาษาต่างๆ และอาจจะต้องเจอแขกหรือคนต่างชาติ เดียวนี้มีบริการแปลภาษาทางออนไลน์ได้แล้ว และยังสามารถพูดและแปลได้ทันที เช่น คุณสามารถพูดคุยกับจีน ฝรั่ง ญี่ปุ่น ผ่านแอพฯนี้ได้ทันที หรือจะถ่ายภาพภาษาที่คุณอ่านไม่ออกแล้วให้แอพฯนี้ แปลได้ทันที
แอพฯที่แนะนำ - Google Translate
อยากรู้อะไรรู้ได้ทันที
เดี๋ยวนี้คุณอยากรู้อะไร ก็ง่ายมากแค่ยกมือถือขึ้นมาแล้วเปิด Google ค้นหาผ่านมือถือของคุณ ข้อมูลที่คุณต้องการก็จะมาโผล่อยู่ในมือถือทันที ลองหัดใช้ดู สะดวกมากๆ (หลายคนยังใช้ผ่านแต่คอมพิวเตอร์อยู่)
แอพฯที่แนะนำ - google.com
เพิ่มยอดขาย
ร้านค้าออนไลน์ค้าขายกันได้ทุกที่ทุกเวลา เดียวนี้เจ้าของธุรกิจหลายคนหันมาเปิดร้านค้าออนไลน์ โดยบริหารจัดการธุรกิจผ่าน 3G กันมากขึ้น เพราะทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา ติดตามการสั่งซื้อสินค้าของลูกค้า หรือโต้ตอบพูดคุยกับลูกค้าได้ทันที
แอพฯที่แนะนำ - http://m.tarad.com
-เพิ่มช่องทางการค้าผ่านโทรศัพท์มือถือกำลังเติบโตอย่างมาก (m-Commerce)
ปัจจุบันต้องยอมรับว่า มือถือกลายเป็นช่องทางที่คนส่วนใหญ่ นิยมค้นหาข้อมูลต่างๆอย่างมาก และกำลังจะเพิ่มมากขึ้น แซงการค้นหาผ่านคอมพิวเตอร์อย่างมาก ดังนั้น เมื่อเขาค้นหาข้อมูลเจอในมือถือ เขาก็จะกดจากมือถือเข้าที่เว็บไซต์ของคุณ
ตัวอย่างเช่น ในปัจจุบันในประเทศญีปุ่น มีการใช้โทรศัพท์มือถือเข้าสู่อินเทอร์เน็ตเป็นอย่างมาก และมียอดการค้าขายผ่านทางโทรศัพท์มือถือ คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 30% เลยทีเดียว และแนวโน้มกำลังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกๆ ปี เช่นเดียวกับในเมืองไทย อย่างเว็บไซต์ www.TARAD.com เว็บไซต์ช้อปปิ้งมอลล์ออนไลน์อันดับต้นๆของไทย ก็มีจำนวนคนไทยที่ใช้โทรศัพท์มือถือเข้ามาสั่งซื้อสินค้า มากถึง 25% เลยทีเดียว และไม่น่าเกิน 3-4 ปี ตัวเลขการซื้อสินค้าทางออนไลน์ น่าจะเกิดขึ้นผ่านทางโทรศัพท์มือถือมากกว่า 50% อย่างแน่นอน ดังนั้น คุณต้องกลับมาดูตัวเองแล้วว่า ธุรกิจของคุณมีตัวตนและรองรับบนมือถือแล้วหรือยัง วิธีการง่ายๆ คือ
มีตัวตนในมือถือ (Moible Access) การมีเว็บไซต์ที่รองรับการดู และข้อมูลเหมาะกับหน้าจอบนมือถือ จะช่วยทำให้คนที่เข้ามารับชมข้อมูลธุรกิจของคุณ สามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆได้ง่ายมากขึ้น นั้นหมายถึง ผลลัพธ์และโอกาสในการค้าขายก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน โดยวิธีการมีตัวตนบนมือถือมีหลายวิธี ได้แก่ การสร้างแอพฯของธุรกิจตัวเองขึ้นมา (Mobile Application) หรือจะสร้างหน้าเว็บสำหรับรองรับมือถือโดยเฉพาะ (Mobile Site) ซึ่งทั้งนี้และทั้งนั้นหากถามว่า ธุรกิจของเราควรจะทำแบบไหนดี ผมแนะนำสั้นๆ วิธีการที่ง่ายที่สุดและประหยัดที่สุด คือ การทำ หน้าเว็บทีรองรับกับมือถือ เพราะค่าใช้จ่ายจะถูกกว่าการสร้างแอพฯขึ้นมาอย่างมาก และเข้าถึงได้ง่ายกว่าการมีแอพฯ แต่หากธุรกิจของคุณต้องการรูปแบบที่หวือหวา ในการสื่อสารกับลูกค้า อาจจะลองดูการพัฒนาแอพฯของตัวเอง ซึ่งราคาในการพัฒนาอาจจะแพงเริ่มต้นที่หลักแสนบาทเลยทีเดียว
รองรับการค้าผ่านมือถือ (m-Commerce) หากคุณมีสินค้าที่จะค้าขาย การเพิ่มช่องทางการค้าขายผ่านทางมือถือดูจะเป็นช่องทางที่กำลังจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้น การมีระบบรองรับการซื้อสินค้าผ่านทางมือถือ ก็จะเป็นวิธีการเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของคุณได้อย่างมากเลยทีเดียว และจำเป็นอย่างมากสำหรับในยุคนี้
การตลาดผ่านบนมือถือ (Mobile Marketing) คุณต้องมีการทำการตลาด การดึงลูกค้าเข้ามาที่ธุรกิจของคุณผ่านช่องทางมือถือ โดยวิธีการตลาดที่มีสามารถนำมาใช้ผ่านมือถือมีหลายวิธี เช่น การปรับแต่งให้ติดในผลลัพธ์การค้นหาใน Search Engine บนมือถือ, การทำการตลาดผ่านโซเชี่ยลมีเดีย อย่างเช่น Facebook, Twitter, Instagram หรือ Youtube เป็นต้น
ทั้งหมดที่แนะนำมาเป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ของประโยชน์ของ 3G กับธุรกิจและการทำงาน ซึ่งตอนนี้เอง หลายๆธุรกิจก็เริ่มมีการนำ 3G มาใช้กันภายในองค์กรกันแล้ว เพราะมันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานขององค์กร และยังสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายขององค์กรลงได้มากเลยทีเดียว หากคุณสามารถนำใช้ได้ถูกวิธี
อ่านมาจนถึงตรงนี้แล้วนึกออกไหมครับว่า คุณสามารถเอาข้อไหนมาใช้ได้บ้าง ถ้านึกออกแล้วก็ได้เวลาลงมือปฏิบัติกันแล้วครับ
@@@ ข้อมูลโดย นิตยสาร SMEs Plus @@@
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *