ส.อ.ท.กระตุ้นรัฐหนุนเอสเอ็มอีไทยขยายตลาดค้าชายแดน

ส.อ.ท.จี้ภาครัฐเร่งสนับสนุนการค้าชายแดนของเอสเอ็มอีไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะปรับกฎระเบียบและพิธีการให้ง่ายต่อการทำธุรกิจมากยิ่งขึ้น เชื่อมูลค่าการค้าโตถึง 2 ล้านล้านบาทในอีก 2-3 ปีข้างหน้า

นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวในงานสัมมนาหัวข้อ “โอกาสและความท้าทายของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน” ว่า มูลค่าการค้าชายแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านมีมูลค่าสูงถึง 1.1 ล้านล้านบาท แยกเป็นการค้าชายแดนมากถึง 918,000 ล้านบาท ซึ่งผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องเป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) เสียเป็นส่วนใหญ่ และคาดว่าภายใน 2-3 ปีข้างหน้ามูลค่าการค้าชายแดนจะเพิ่มเป็น 2 ล้านล้านบาท ดังนั้น แนวโน้มการเติบโตดังกล่าวรัฐบาลควรส่งเสริมให้เอสเอ็มอีไทยได้รับความสะดวกสบายเพื่อขยายการค้าบริเวณชายแดนให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเร่งแก้อุปสรรคเรื่องกฎระเบียบต่างๆ เช่น พิธีการศุลกากรเพื่อเพิ่มความคล่องตัว

รองประธาน ส.อ.ท.กล่าวด้วยว่า หากลดอุปสรรคเหล่านี้จะทำให้ไทยสามารถค้าขายผ่านชายแดนได้ถึงมูลค่า 2 ล้านล้านบาท เพราะเร็วๆ นี้บริเวณชายแดนไทยจะมีการเปิดตลาดการค้าเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันเปิด 18 แห่ง เพิ่มเป็น 34 แห่ง

ด้านนายปิยะบุตร ชลวิจารณ์ รองประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและคณะกรรมการสภาธุรกิจไทย-สหภาพยุโรป กล่าวว่า จากที่ประเทศไทยได้เจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรีไว้กับหลายประเทศ รวม 11 ฉบับ เช่น ความตกลงเขตการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย ข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น ซึ่งช่วงที่ผ่านมาแม้มีอุปสรรค แต่การค้าการลงทุนระหว่างกันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการค้าระหว่างกันยังเติบโตขึ้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการเข้าไปลงทุนหรือทำการค้าในต่างประเทศ ควรต้องศึกษาและมีข้อมูลของประเทศเหล่านั้นอย่างดีด้วย