สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ismed)เผยเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นใน ปี ค.ศ.2020 เพื่อเป็นแนวทางให้แก่ธุรกิจเอสเอ็มอีไทย นำไปวิเคราะห์ในการวางกลยุทธ์ หรือเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างถูกต้อง
1.แนวโน้มใช้ชีวิตแบบวิถีคนเมือง
องค์การสหประชาชาติ คาด ค.ศ.2020 ประชากรทั้งโลกจะอาศัยในเมืองเพิ่มขึ้นเป็น 60% จากปัจจุบัน 50% ส่วนในประเทศไทย แนวโน้มใช้ชีวิตแบบเมืองเพิ่มขึ้นเช่นกัน ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและนโยบายรัฐบาล จึงเป็นโอกาสธุรกิจเพื่อคนเมือง เช่น สินค้าสำหรับคนอยู่คอนโดฯ ธุรกิจตามแนวรถไฟฟ้า
2. เศรษฐกิจสีเขียว
ภาวะโลกร้อน และภัยธรรมชาติที่หนักหนาขึ้นทุกวัน จุดกระแสสร้างความตระหนักแก่ทุกฝ่าย และมีกฎหมายต่างๆ ออกมาบังคับให้ธุรกิจต้องใส่ใจผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ขณะที่ผู้บริโภคเริ่มตระหนักอยากช่วยโลก เหล่านี้เข้ามามีบทบาทต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคต
3. เข้าสู่สังคมสูงอายุ
ผลสำรวจวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุคนอายุ 48-57 ปี ในปัจจุบันกำลังจะกลายเป็นผู้สูงอายุ ซึ่งกลุ่มคนนี้ รายได้สูง เกิน 3 หมื่นบาทต่อเดือนมากกว่า 60% และมีอัตราการออมและลงทุนสูงมาก ทำให้ไลฟ์สไตล์ของผู้สูงอายุกลุ่มนี้เป็นตลาดใหญ่ สร้างโอกาสธุรกิจ เช่น อาหารสุขภาพ สปาสุขภาพ ฯลฯ
4. พลังผู้หญิงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ปัจจุบัน ผู้หญิงมีบทบาทสำคัญในระบบเศรษฐกิจ เกิดจากการศึกษาสูงขึ้น ทำงานนอกบ้าน กฎหมายให้ความเท่าเทียม อัตราผู้หญิงดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงเพิ่ม พฤติกรรมชอบจับจ่าย และมีหน้าที่ดูแลการเงินครอบครัว เหล่านี้เชื่อมโยงกับโอกาสทางธุรกิจ เช่น สินค้าเกี่ยวกับแฟชั่น สินค้าสุขภาพที่แม่บ้านคัดสรรให้สมาชิกครอบครัว
5. ระบบขนส่งความเร็วสูงและโลจิสติกส์
รัฐบาลมีนโยบายขยายโครงข่ายระบบขนส่ง จึงเป็นโอกาสเอสเอ็มอีไทยเข้าไปใช้ประโยชน์ทางใดทางหนึ่ง เช่น รับงานผลิตชิ้นส่วนระบบขนส่งต่อจากบริษัทรายใหญ่ หรือหาธุรกิจใหม่ที่ได้ประโยชน์จากระบบขนส่งสมัยใหม่ ทั้งด้านลดต้นทุนการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพกระจายสินค้า
6. ชีวิตในโลกแห่งดิจิตอล
โลกดิจิตอลขยายตัวสูง ส่งให้สมาร์ทโฟน แท็บเล็ตขายถล่มทลาย สังคมออนไลน์โตฉุดไม่อยู่ เฉพาะเฟซบุ๊ก คนไทยมียอดลงทะเบียนถึง 24 ล้านชื่อ เอสเอ็มอีจึงควรคำนึงถึงการใช้โลกดิจิตอลเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ ผลิตสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้อง หรือทำตลาดผ่านสังคมออนไลน์
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
1.แนวโน้มใช้ชีวิตแบบวิถีคนเมือง
องค์การสหประชาชาติ คาด ค.ศ.2020 ประชากรทั้งโลกจะอาศัยในเมืองเพิ่มขึ้นเป็น 60% จากปัจจุบัน 50% ส่วนในประเทศไทย แนวโน้มใช้ชีวิตแบบเมืองเพิ่มขึ้นเช่นกัน ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและนโยบายรัฐบาล จึงเป็นโอกาสธุรกิจเพื่อคนเมือง เช่น สินค้าสำหรับคนอยู่คอนโดฯ ธุรกิจตามแนวรถไฟฟ้า
2. เศรษฐกิจสีเขียว
ภาวะโลกร้อน และภัยธรรมชาติที่หนักหนาขึ้นทุกวัน จุดกระแสสร้างความตระหนักแก่ทุกฝ่าย และมีกฎหมายต่างๆ ออกมาบังคับให้ธุรกิจต้องใส่ใจผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ขณะที่ผู้บริโภคเริ่มตระหนักอยากช่วยโลก เหล่านี้เข้ามามีบทบาทต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคต
3. เข้าสู่สังคมสูงอายุ
ผลสำรวจวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุคนอายุ 48-57 ปี ในปัจจุบันกำลังจะกลายเป็นผู้สูงอายุ ซึ่งกลุ่มคนนี้ รายได้สูง เกิน 3 หมื่นบาทต่อเดือนมากกว่า 60% และมีอัตราการออมและลงทุนสูงมาก ทำให้ไลฟ์สไตล์ของผู้สูงอายุกลุ่มนี้เป็นตลาดใหญ่ สร้างโอกาสธุรกิจ เช่น อาหารสุขภาพ สปาสุขภาพ ฯลฯ
4. พลังผู้หญิงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ปัจจุบัน ผู้หญิงมีบทบาทสำคัญในระบบเศรษฐกิจ เกิดจากการศึกษาสูงขึ้น ทำงานนอกบ้าน กฎหมายให้ความเท่าเทียม อัตราผู้หญิงดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงเพิ่ม พฤติกรรมชอบจับจ่าย และมีหน้าที่ดูแลการเงินครอบครัว เหล่านี้เชื่อมโยงกับโอกาสทางธุรกิจ เช่น สินค้าเกี่ยวกับแฟชั่น สินค้าสุขภาพที่แม่บ้านคัดสรรให้สมาชิกครอบครัว
5. ระบบขนส่งความเร็วสูงและโลจิสติกส์
รัฐบาลมีนโยบายขยายโครงข่ายระบบขนส่ง จึงเป็นโอกาสเอสเอ็มอีไทยเข้าไปใช้ประโยชน์ทางใดทางหนึ่ง เช่น รับงานผลิตชิ้นส่วนระบบขนส่งต่อจากบริษัทรายใหญ่ หรือหาธุรกิจใหม่ที่ได้ประโยชน์จากระบบขนส่งสมัยใหม่ ทั้งด้านลดต้นทุนการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพกระจายสินค้า
6. ชีวิตในโลกแห่งดิจิตอล
โลกดิจิตอลขยายตัวสูง ส่งให้สมาร์ทโฟน แท็บเล็ตขายถล่มทลาย สังคมออนไลน์โตฉุดไม่อยู่ เฉพาะเฟซบุ๊ก คนไทยมียอดลงทะเบียนถึง 24 ล้านชื่อ เอสเอ็มอีจึงควรคำนึงถึงการใช้โลกดิจิตอลเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ ผลิตสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้อง หรือทำตลาดผ่านสังคมออนไลน์
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *