ปลัด ก.อุตฯ ปลุกเอสเอ็มอีไทยต้องเร่งปรับตัวรับปัจจัยการแข่งขันของโลก แนะ 6 หนทางสู่การอยู่รอด ทั้งด้านลดต้นทุน เน้นคุณภาพ ใส่ใจบริการ ตามทันเทคโนโลยี สร้างนวัตกรรม และรับผิดชอบต่อสังคม ระบุวางยุทธศาสตร์ 15 ปี นำอุตสาหกรรมไทยสู่ความยั่งยืน
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวในงานสัมมนา หัวข้อ “Greening Industry : A New Global Practice” ว่า ในโลกการค้ายุคปัจจุบัน ผู้ประกอบการระดับกลางและระดับย่อม (เอสเอ็มอี) มีหลายปัจจัยเป็นแรงผลักดันให้ต้องเร่งปรับตัวเพื่อจะอยู่รอดให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) เร็วๆ นี้ ซึ่งจะทำให้มีทั้งคู่ค้าและคู่แข่งรายใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น กฎหมายต่างๆ ที่กำลังจะออกมาให้ผู้ประกอบการต้องปรับเปลี่ยนหรือปฏิบัติตาม เทคโนโลยีสมัย ซึ่งเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ถ้าตามไม่ทัน อาจต้องปิดกิจการเหมือนบริษัทยักษ์ใหญ่รายหลายที่ปรับตัวไม่ทันรวมถึง ภาวะโลกร้อนทำให้ธุรกิจที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจะไม่เป็นที่ยอมรับของผู้ซื้ออีกต่อไป
ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย หัวใจสำคัญที่จะทำให้สามารถแข่งขันและอยู่รอดได้ ประกอบด้วย 1. เรื่องการลดต้นทุน ต้องพยายามหาหนทางให้ธุรกิจของตัวเองมีต้นทุนที่ต่ำ หรือประหยัดที่สุด ไม่ว่าจะเป็นด้านการผลิต ด้านพลังงาน ขนส่ง หรือการบริหารจัดการภายในองค์กร 2. ด้านคุณภาพ เพราะในอนาคตผู้บริโภคให้ความสนใจเรื่องคุณภาพมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าสินค้าขาดคุณภาพก็จะอยู่ในตลาดได้ยาก เรื่องสินค้าราคาถูกจะไม่ใช่จุดเด่นของสินค้าไทยอีกต่อไป 3. บริการประทับใจ เนื่องจากธุรกิจของผู้ประกอบการไทยจำนวนมากเชื่อมโยงกับภาคบริการ เช่น ท่องเที่ยว สปา ความงาม การสร้างความประทับใจ และสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ลูกค้า จะมีส่วนอย่างยิ่งให้ธุรกิจอยู่รอดได้
4.การปรับเปลี่ยนตัวเองให้ทันโลก เนื่องจากยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญหาประโยชน์ได้เหมาะสม เช่น ทำตลาดผ่านออนไลน์ หรือใช้เทคโนโลยีไอที เพื่อลดต้นทุนหรือเวลาการทำงาน 5.สร้างนวัตกรรมของตัวเอง เพื่อจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของธุรกิจตัวเอง และ 6. รับผิดชอบต่อสังคม เพราะธุรกิจที่จะประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืนต้องเป็นที่ยอมรับของชุมชน และสังคมด้วย
ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ได้วางยุทธศาสตร์จะส่งเสริมอุตสาหกรรมของไทยไปสู่ความยั่งยืน โดยมีเสาหลัก 3 ด้านที่ต้องเติบโตไปพร้อมกัน ได้แก่ 1.ด้านรายได้ 2.ด้านสังคม-ชุมชน และ 3.ด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมได้เริ่มดำเนินการผลักดันภายใต้แผนระยะยาว 15 ปี ซึ่งเริ่มต้นช่วงเวลา 5 ปีแรก นับตั้งแต่ พ.ศ.2555 ที่ผ่านมา จะเน้นเตรียมความพร้อมให้แก่ผู้ประกอบการทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นความรู้ และพัฒนาความรู้แก่ผู้ประกอบการ เช่น ต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นให้แก่สินค้าโอทอป หรือให้ความรู้เรื่องเออีซี
ระยะ 10 ปี ผลักดันให้อุตสาหกรรมของไทยมีนวัตกรรมของตัวเอง ทั้งด้านการผลิต มีแบรนด์ และเทคโนโลยีของตัวเอง ไม่ได้เป็นผู้รับจ้างผลิตเป็นหลักเหมือนปัจจุบัน และระยะ 15 ปี พัฒนาสู่อุตสาหกรรมที่ยั่งยืน นอกจากมีรายได้มากเพียงพอแล้ว ยังเป็นอุตสาหกรรมที่อยู่คู่กับชุมชนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *