ทุกงานประจำที่ทำอยู่ สามารถคิดต่อยอดเป็นธุรกิจได้ หากใส่ใจกับงานที่ทำอยู่สักนิด เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์กราฟิกวัย 26 ปี ต้องการมีรายได้มากกว่าเงินเดือนประจำ จึงนำความรู้ด้านงานกราฟิกมาเปลี่ยนเป็น “ป้ายคล้องประตู” ราคาย่อมเยา พร้อมข้อความสุดซ่ากระแทกใจวัยมันส์
เป็นธรรมดาสำหรับผู้คนสมัยนี้เมื่อทำงานประจำไปได้สักระยะหนึ่งก็อยากหารายได้เสริม จากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้น หรือเพื่อซื้อความสะดวกสบายให้ตนเอง อย่าง รถยนต์ ที่ทำให้การเดินทางคล่องตัวขึ้น เช่นเดียวกับพนักงานด้านคอมพิวเตอร์กราฟิกของบริษัทเอกชนรายหนึ่ง “จารุวรรณ อินจันทร์” เจ้าของไอเดียธุรกิจ 'ป้ายคล้องประตู' แบรนด์ Tagging Plus นำประสบการณ์ที่ได้จากงานประจำมาต่อยอด ออกแบบเป็นป้ายคล้องประตูจากกระดาษ เน้นขายในราคาไม่แพง ชูความต่างด้วยข้อความกวนๆ โดนใจเด็กแนว
แนวคิดดังกล่าวเกิดจากที่เธอมีผลงานการออกแบบภาพกราฟิกไว้มากมาย จึงคิดว่าน่าจะนำมาสร้างมูลค่าเพิ่มได้มากกว่าการเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ กอรปกับในช่วงนั้นเธอต้องการซื้อรถยนต์สักคัน เพื่อความสะดวกในการเดินทางมาทำงานและกลับบ้านเกิดที่จังหวัดแพร่ จึงนำความรู้ของตนเองด้านการออกแบบมาต่อยอด เน้นงานสิ่งพิมพ์ที่ถนัดเป็นพิเศษ และยังเป็นงานที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา
แต่การจะนำภาพกราฟิก มาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ก็ถือเป็นความท้าทายอีกขั้นตอนหนึ่ง ต้องทำให้อย่างไรให้แตกต่าง ไม่ซ้ำใคร และโดนใจผู้บริโภค สุดท้ายมาลงตัวที่ “ป้ายคล้องประตู” จากการสังเกตของเธอที่ว่าทุกครั้งเมื่อไปพักตามโรงแรมจะรู้สึกว่าป้ายคล้องประตู ไม่ทนทาน มีแต่รูปแบบเดิมๆ ข้อความเรียบง่าย คล้ายๆ กัน ไม่มีความโดดเด่น จึงคิดพัฒนาป้ายคล้องประตูให้ใช้งานง่ายขึ้น ไม่จำกัดเฉพาะในโรงแรม รีสอร์ท แต่ตามห้องพักอพาร์ตเมนต์ คอนโด บ้านที่อยู่อาศัย ก็สามารถใช้ได้ หรือบางครั้งไม่จำเป็นต้องนำไปคล้องประตูก็ได้
'เมื่อคิดที่จะแตกต่าง ก็ต้องทำให้สุด แหวกแนวไปเลย' เป็นความคิดเริ่มแรกของจารุวรรณเมื่อลงมือทำธุรกิจเป็นครั้งแรก ดังนั้นเมื่อคิดจะทำป้ายคล้องประตู รูปแบบ สีสัน และข้อความ ต้องไม่ยึดติด เธอจึงนำคำฮอตฮิตในหมู่วัยรุ่นมาใส่ลงไป เช่น อย่าเยอะ, เอาอยู่, จัดเต็ม, เมาค้าง, หลับเพลิน และห้ามยืมเงิน มาใส่ไว้ที่ใครเห็นก็อดอมยิ้มไม่ได้
“ส่วนใหญ่ลูกค้าจะเป็นวัยรุ่น ที่สะดุดคำกวนๆ ต่อมาก็ในเรื่องราคาที่ทุกคนจับต้อง คือ อันละ 29 บาทเท่านั้น ง่ายต่อการตัดสินใจซื้อ โดยช่วงแรกเราขายที่ตลาดนัดจตุจักร ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ แต่ยังไม่ได้รับความสนใจนัก เนื่องจากเราขายแบกะดิน คนยังมองไม่ออกว่าเป็นอะไร เราจึงนำลูกบิดประตู ไปตั้ง และแขวนไว้ ทำให้คนเข้าใจง่ายขึ้น จากนั้นก็ได้รับการตอบรับดีขึ้นเรื่อยๆ”
วัตถุดิบหลักที่ใช้คือ กระดาษแข็ง และแผ่นพีวีซี จากเครื่องพิมพ์ที่ทันสมัย ให้ภาพคมชัด ไม่หลุดลอก ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 50 ลายแล้ว นอกจากนี้ยังมีการสั่งทำตามออเดอร์ของลูกค้าด้วย โดยเฉพาะลูกค้าโรงแรม รีสอร์ท ที่ต้องการปรับเปลี่ยนป้ายคล้องประตูใหม่ ให้ดูทันสมัย หรือมีเอกลักษณ์ของตัวเอง เพื่อให้ตรงกับคอนเซ็ปต์ของโรงแรม รวมทั้งเลือกใช้ลวดลายที่ tagging plus มีอยู่เดิม แต่ขอให้ใส่โลโก้องค์กรของตนเองเข้าไปก็จะไม่คิดราคาเพิ่ม โดยส่วนใหญ่จะเลือกใช้เป็นการพิมพ์แบบ 2 หน้า อยู่ที่ราคาแผ่นละ 40 บาท
ทั้งนี้ที่ผ่านมาก็มีผู้สนใจรับไปจำหน่ายต่อ ทาง tagging plus ก็มีราคาพิเศษให้ โดยจะสอบถามทำเลที่ลูกค้าจะนำไปจำหน่าย เพื่อคัดเลือกลวดลายให้ตรงกับกลุ่มลูกค้านั้นๆ เช่น ตลาดนัด หน้าโรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือตามห้างสรรพสินค้า และแหล่งท่องเที่ยว เช่น หัวหิน เชียงราย นครราชสีมา เป็นต้น
ส่วนแผนธุรกิจในอนาคตเธอเน้นเจาะลูกค้าโรงแรม รีสอร์ท มากขึ้น เนื่องจากเป็นตลาดใหม่และยังไม่มีคู่แข่งมากนัก รวมถึงออกแบบเป็นของที่ระลึก ของชำร่วย ตามเทศกาลพิเศษ หรือวันสำคัญ เพื่อกระตุ้นยอดขายอีกทางหนึ่ง
***สนใจติดต่อ 08-5260-3900 หรือที่ Facebook : tagging plus***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
