คอลัมน์ “Final Quarter” โดย “ลุงแซม”
นับตั้งแต่เดินทางมาขุดทองยังดินแดนมะกันตั้งแต่ต้นปี 2007 ร่วมสังกัด แอลเอ แกแล็กซี ในศึกเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ (MLS) ณ วันนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่า สหรัฐอเมริกา กลายเป็นบ้านหลังที่สองของ เดวิด เบ็คแฮม ไปแล้ว แม้อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ เพิ่งประกาศแขวนสตั๊ดหลังซิวเกียรติยศทิ้งทวนด้วยการเป็นแชมป์ลีกเอิง ฝรั่งเศส กับ ปารีส แซงต์แชร์กแมง เมื่อฤดูกาล 2012/13 ที่ผ่านมา
แม้ลงหลักปักฐานสร้างครอบครัวที่มหานครลอสแองเจลิส ทว่า เบ็คแฮม ยังหอบหิ้วลูกๆ ทั้งสี่อย่าง บรูคลิน, โรมีโอ, ครูซ และ ฮาร์เปอร์ เซเวน แวะเวียนกลับบ้านเกิดในอังกฤษ รวมถึงเดินสายทำกิจกรรมกับบรรดาสปอนเซอร์ หรือว่าล่าสุดควง วิคตอเรีย ภรรยาสุดที่รักไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อทำหน้าที่ทูตให้แก่สมาคมลูกหนังอาชีพแดนมังกร
ตอนนี้ “เบ็คส์” อยู่ในช่วงให้เวลากับครอบครัว แต่เชื่อว่าหลายคนคงอยากทราบว่าเทพบุตรแห่งวงการกีฬาจะจับงานชิ้นใดอีก ซึ่งใครที่เชียร์ให้ซูเปอร์สตาร์วัย 38 ปี รับงานกุนซือ คงไม่เกิดขึ้นในเร็ววันนี้หรืออาจไม่เกิดขึ้นตลอดไป เพราะเจ้าตัวเคยแย้มไว้แล้วว่าไม่มีความประสงค์แบกรับความกดดันอะไรแบบนั้น ขอสนุกกับแค่การเป็นโค้ชเปิดคลินิกสอนเชิงลูกหนังให้แก่เด็กๆ ที่ไร้เดียงสาตามโอกาสอันเหมาะสม สบายใจกว่ากันเยอะ
อย่างไรก็ตาม งานระดับ “การบริหาร” เป็นผู้ถือหุ้นส่วนแฟรนไชส์กีฬาแดนมะกัน เป็นโปรเจกต์ที่ เบ็คแฮม และเพื่อนฝูงชำเลืองมาตลอด การแวะเวียนเข้าไปเชียร์ถึงขอบสนาม อาจเป็นการหาช่องทางทำอะไรสักอย่างอยู่ ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าว “เบ็คส์” กำลังหากลุ่มทุนเข้ามาสร้างทีมฟุตบอลในไมอามี เป็นอะไรที่ลงตัวที่สุด การมี “เบ็คส์” เข้ามาเป็นแม่เหล็กดูดแฟนๆ และบรรดาสปอนเซอร์ มีหรือที่ เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ รวมถึง นักลงทุนที่มีกำลังเงินจะปล่อยให้นี่เป็นเพียงแค่ความคิด
แต่ล่าสุดแหล่งข่าววงในระดับฮอลลีวูด กระซิบบอกกับ “เดอะ มิร์เรอร์” สื่อเมืองผู้ดีทำนองว่า เบ็คแฮม เคยได้รับการทาบทามจากแมวมองของทีมในศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ให้ไปลองทดสอบฝีเท้าในตำแหน่ง “ตัวเตะ” ด้วยประสบการณ์คร่ำหวอดกับการเตะลูกฟุตบอลระดับอาชีพถึง 20 ปี จนได้รับฉายาว่าเป็น “เจ้าพ่อลูกนิ่ง” คนหนึ่งของวงการ การโยนบอลและซัดฟรีคิกอันแม่นยำ น่าจะประยุกต์ใช้เข้ากับการเตะฟิลด์โกลได้ไม่ยาก แม้ลูกหน่ำเลี้ยบไม่ได้กลมเกลี้ยงเหมือนลูกหนังก็ตาม
ด้วยค่าจ้างที่คงไม่ได้แม้แต่เศษเสี้ยวของรายรับจากค่าโฆษณา แต่หาก เบ็คแฮม เกิดอยากหาความท้าทายใหม่ ลองรับบทเตะ “ฟิลด์โกล” หรือ “เอ็กซ์ตรา พอยน์ต” ดูสักตั้งก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ที่สำคัญอาจเป็นการปูทางไปสู่การร่วมเป็นหุ้นส่วนกับหนึ่งใน 32 ทีมของลีกอาชีพที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของแวดวงกีฬาโลก ซึ่งถ้าเกิดหนุ่มเนื้อหอมเหลียวกลับมามองงานนี้ ความเชื่อมโยงระหว่างอังกฤษกับ NFL ยิ่งจะใกล้กันมากขึ้น ความฝันของ โรเจอร์ กูเดลล์ ประธานลีกที่กำลังมองหาทางฝังแฟรนไชส์อยู่โยงในกรุงลอนดอน มีโอกาสเป็นจริง ยิ่งมีทูตศึกคนชนคนทั้งในและนอกสนามที่ชื่อ “เดวิด เบ็คแฮม” ด้วยแล้ว อะไรก็ดูโป๊ะเชะ แต่ช้าก่อน...ต้องมาดูกันว่าจากที่เคย Say No ไปแล้วเมื่อช่วงปีใหม่ เชื้อไฟที่ถูกจุดเป็นกระแสจะสามารถเปลี่ยนใจให้ “เบ็คส์” เอ่ยปาก Say Yes ได้หรือไม่ต่อไป
นับตั้งแต่เดินทางมาขุดทองยังดินแดนมะกันตั้งแต่ต้นปี 2007 ร่วมสังกัด แอลเอ แกแล็กซี ในศึกเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ (MLS) ณ วันนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่า สหรัฐอเมริกา กลายเป็นบ้านหลังที่สองของ เดวิด เบ็คแฮม ไปแล้ว แม้อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ เพิ่งประกาศแขวนสตั๊ดหลังซิวเกียรติยศทิ้งทวนด้วยการเป็นแชมป์ลีกเอิง ฝรั่งเศส กับ ปารีส แซงต์แชร์กแมง เมื่อฤดูกาล 2012/13 ที่ผ่านมา
แม้ลงหลักปักฐานสร้างครอบครัวที่มหานครลอสแองเจลิส ทว่า เบ็คแฮม ยังหอบหิ้วลูกๆ ทั้งสี่อย่าง บรูคลิน, โรมีโอ, ครูซ และ ฮาร์เปอร์ เซเวน แวะเวียนกลับบ้านเกิดในอังกฤษ รวมถึงเดินสายทำกิจกรรมกับบรรดาสปอนเซอร์ หรือว่าล่าสุดควง วิคตอเรีย ภรรยาสุดที่รักไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อทำหน้าที่ทูตให้แก่สมาคมลูกหนังอาชีพแดนมังกร
ตอนนี้ “เบ็คส์” อยู่ในช่วงให้เวลากับครอบครัว แต่เชื่อว่าหลายคนคงอยากทราบว่าเทพบุตรแห่งวงการกีฬาจะจับงานชิ้นใดอีก ซึ่งใครที่เชียร์ให้ซูเปอร์สตาร์วัย 38 ปี รับงานกุนซือ คงไม่เกิดขึ้นในเร็ววันนี้หรืออาจไม่เกิดขึ้นตลอดไป เพราะเจ้าตัวเคยแย้มไว้แล้วว่าไม่มีความประสงค์แบกรับความกดดันอะไรแบบนั้น ขอสนุกกับแค่การเป็นโค้ชเปิดคลินิกสอนเชิงลูกหนังให้แก่เด็กๆ ที่ไร้เดียงสาตามโอกาสอันเหมาะสม สบายใจกว่ากันเยอะ
อย่างไรก็ตาม งานระดับ “การบริหาร” เป็นผู้ถือหุ้นส่วนแฟรนไชส์กีฬาแดนมะกัน เป็นโปรเจกต์ที่ เบ็คแฮม และเพื่อนฝูงชำเลืองมาตลอด การแวะเวียนเข้าไปเชียร์ถึงขอบสนาม อาจเป็นการหาช่องทางทำอะไรสักอย่างอยู่ ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าว “เบ็คส์” กำลังหากลุ่มทุนเข้ามาสร้างทีมฟุตบอลในไมอามี เป็นอะไรที่ลงตัวที่สุด การมี “เบ็คส์” เข้ามาเป็นแม่เหล็กดูดแฟนๆ และบรรดาสปอนเซอร์ มีหรือที่ เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ รวมถึง นักลงทุนที่มีกำลังเงินจะปล่อยให้นี่เป็นเพียงแค่ความคิด
แต่ล่าสุดแหล่งข่าววงในระดับฮอลลีวูด กระซิบบอกกับ “เดอะ มิร์เรอร์” สื่อเมืองผู้ดีทำนองว่า เบ็คแฮม เคยได้รับการทาบทามจากแมวมองของทีมในศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ให้ไปลองทดสอบฝีเท้าในตำแหน่ง “ตัวเตะ” ด้วยประสบการณ์คร่ำหวอดกับการเตะลูกฟุตบอลระดับอาชีพถึง 20 ปี จนได้รับฉายาว่าเป็น “เจ้าพ่อลูกนิ่ง” คนหนึ่งของวงการ การโยนบอลและซัดฟรีคิกอันแม่นยำ น่าจะประยุกต์ใช้เข้ากับการเตะฟิลด์โกลได้ไม่ยาก แม้ลูกหน่ำเลี้ยบไม่ได้กลมเกลี้ยงเหมือนลูกหนังก็ตาม
ด้วยค่าจ้างที่คงไม่ได้แม้แต่เศษเสี้ยวของรายรับจากค่าโฆษณา แต่หาก เบ็คแฮม เกิดอยากหาความท้าทายใหม่ ลองรับบทเตะ “ฟิลด์โกล” หรือ “เอ็กซ์ตรา พอยน์ต” ดูสักตั้งก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ที่สำคัญอาจเป็นการปูทางไปสู่การร่วมเป็นหุ้นส่วนกับหนึ่งใน 32 ทีมของลีกอาชีพที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของแวดวงกีฬาโลก ซึ่งถ้าเกิดหนุ่มเนื้อหอมเหลียวกลับมามองงานนี้ ความเชื่อมโยงระหว่างอังกฤษกับ NFL ยิ่งจะใกล้กันมากขึ้น ความฝันของ โรเจอร์ กูเดลล์ ประธานลีกที่กำลังมองหาทางฝังแฟรนไชส์อยู่โยงในกรุงลอนดอน มีโอกาสเป็นจริง ยิ่งมีทูตศึกคนชนคนทั้งในและนอกสนามที่ชื่อ “เดวิด เบ็คแฮม” ด้วยแล้ว อะไรก็ดูโป๊ะเชะ แต่ช้าก่อน...ต้องมาดูกันว่าจากที่เคย Say No ไปแล้วเมื่อช่วงปีใหม่ เชื้อไฟที่ถูกจุดเป็นกระแสจะสามารถเปลี่ยนใจให้ “เบ็คส์” เอ่ยปาก Say Yes ได้หรือไม่ต่อไป