รับศพ “ตชด.” ผู้กล้ากลับบ้านเกิดโคราชสมเกียรติ-แม่ภูมิใจลูกชายรับใช้ชาติ

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “ผบช.ภ.3” และ “ผบก.ตชด.ภ. 2” นำกองเกียรติยศและญาติพี่น้องรับศพ ตชด.ผู้กล้า เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ กลับบ้านเกิดโคราชอย่างสมเกียรติ แม่เผยภูมิใจลูกชายรับใช้ชาติ หนุนน้องชายเป็น ตร.ต่อ วอนโจรใต้หยุดก่อความรุนแรง

เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (28 พ.ค.) ที่ลานจอดเครื่องบินสนามบินกองบิน 1 นครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.เชิด ชูเวช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) และ พล.ต.ต.โชติ ไทยยิ่ง ผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 นำกองเกียรติยศตำรวจตระเวนชายแดน พร้อมข้าราชการ ตำรวจ ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่ 216 กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 21 อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ และครอบครัวญาติพี่น้อง ร่วมพิธีรับศพ ด.ต.นริศ หอสูงเนิน อายุ 45 ปี ตำรวจตระเวนชายแดน หมวด 2101 สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี ทำหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยถูกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบลอบวางระเบิดบนสะพายลาคอ ม.1 ต.มะนังดาลำ ต.สายบุรี จ.ปัตตานี เสียชีวิต เพื่อนร่วมงานบาดเจ็บสาหัส 4 นาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา กลับบ้านเกิด จ.นครราชสีมาอย่างสมเกียรติ

โดยเครื่องบินสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้นำร่างของ ด.ต.นริศบรรจุในโลงศพคลุมด้วยธงชาติไทยมาส่งยังสนามบินกองบิน 1 นครราชสีมา ก่อนเคลื่อนย้ายศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่วัดสามัคคี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา และมีกำหนดประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายนนี้

นางสมจิต หอสูงเนิน อายุ 64 ปี มารดาของ ตชด.ผู้กล้า กล่าวทั้งน้ำตาว่า ก่อนหน้านี้เพียง 3 วันลูกชายได้โทรศัพท์มาพูดคุยตามปกติ และยังบอกว่าพื้นที่ที่ไปดูแลไม่มีความรุนแรง ไม่น่ากลัว ส่วนตนก็ไม่มีลางสังหรณ์ว่าจะสูญเสียลูกชายแต่อย่างใด ทันทีที่ทราบข่าวว่าลูกชายถูกคนร้ายลอบวางระเบิดเสียชีวิตรู้สึกตกใจและช็อกมาก เนื่องจากตนก็ป่วยมีโรคประจำตัวหลายโรค

“รู้สึกเสียใจที่สูญเสียลูกชายคนโตซึ่งเป็นเสาหลักครอบครัวไปอย่างไม่มีวันกลับ แต่ภูมิใจที่ลูกได้รับใช้ชาติอย่างสมเกียรติ วอนผู้ก่อความไม่สงบหยุดสร้างความรุนแรงเพื่อความสงบสุขของประเทศ ต่อจากนี้คงต้องให้ลูกชายอีกคนเข้ารับราชการตำรวจต่อจากพี่ชาย เพื่อจะได้มาคอยเลี้ยงดูคนในครอบครัวต่อไป”

ด้าน พล.ต.ต.โชติ ไทยยิ่ง ผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 2 กล่าวว่า ด.ต.นริศ ได้ลงไปช่วยราชการปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนการปฏิบัติการของ สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี โดยก่อนหน้านี้เคยลงไปในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว 2 ครั้ง และเคยถูกลอบวางระเบิดแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บ

จนมาครั้งนี้ได้ลงไปช่วยราชการเพียง 2 เดือนมาถูกลอบวางระเบิดจนเสียชีวิต ซึ่งตนรู้สึกเสียใจที่สูญเสีย ด.ต.นริศ ซึ่งถือเป็นข้าราชการตำรวจที่รับผิดชอบต่อหน้าที่ไปอีกนายจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยตนได้สั่งการให้ดำเนินการช่วยเหลือครอบครัว ด.ต.นริศตามระเบียบอย่างเต็มที่ ส่วนที่ครอบครัวจะสนับสนุนให้น้องชายเข้ารับราชการตำรวจต่อจากพี่ชายก็จะดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างแน่นอน