xs
xsm
sm
md
lg

เอกซเรย์ธุรกิจ “ชานมไข่มุก” ฮิตจริงหรือแค่กระแส

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ทุกวันนี้ไม่ว่าจะเดินไปไหนมาไหน จะสังเกตได้ว่ามีธุรกิจ “ชานมไข่มุก” เปิดขายอยู่ทั่วไปหมด ตั้งแต่รูปแบบรถเข็น คีออสก์ เคาน์เตอร์ จนถึงเปิดเป็นร้าน พิสูจน์กระแสความแรงของธุรกิจเครื่องดื่มจากไต้หวันที่มาโด่งดังในบ้านเราได้เป็นอย่างดี

ก่อนนี้ประมาณ 10 ปี ชานมไข่มุกเคยได้รับความนิยมอย่างสูงมาแล้วรอบหนึ่งก่อนที่กระแสจะค่อยๆ แผ่วลงไป จนเมื่อ 2-3 ปีให้หลังมานี้กลับมาแจ้งเกิดอีกครั้ง ซึ่งการรีเทิร์นครั้งนี้มาพร้อมกระแสที่แรงยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะได้ขยายตลาดกว้างขึ้นนอกเหนือจากวัยรุ่นก้าวไปสู่คนทำงาน และครอบครัว

จากความแรงดังกล่าวทำให้มีผู้สนใจอยากจะเข้ามาทำอาชีพนี้จำนวนมาก รวมถึงมีแฟรนไชส์ชานมไข่มุกเปิดใหม่จำนวนมากเช่นกัน ดังนั้น ทีมงาน “SME ผู้จัดการออนไลน์” จึงได้เสาะหาข้อมูลต่างๆ สำหรับเป็นพื้นฐานเบื้องต้นแก่ผู้สนใจจะทำอาชีพนี้

“ชานมไข่มุก” แจ้งเกิดรอบสองในไทย

ต้นกำเนิดของ “ชานมไข่มุก” มาจากประเทศไต้หวัน รสหวานเย็นหอมชื่นใจ และมีเม็ดแป้งมันสำปะหลัง หรือที่เรียกว่า “ไข่มุก” ใส่ในชาเย็นด้วย โดยที่ประเทศไต้หวันนิยมมากว่า 20 ปีแล้ว ส่วนในประเทศไทยเริ่มเป็นที่รู้จักเมื่อประมาณ พ.ศ. 2544 ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่วัยรุ่น เกิดเป็นกระแสเครื่องดื่มแฟชั่น ในขณะเดียวกันก็มีผู้ประกอบการเข้ามายึดอาชีพนี้จำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม จากปัญหาที่เวลานั้นเมนูต่างๆ ยังไม่หลากหลาย อีกทั้งการแข่งขันสูง ผู้ประกอบการมุ่งลดต้นทุน ขายตัดราคากันเอง ทำให้คุณภาพลดต่ำลงเรื่อยๆ ที่สำคัญตลาดจำกัดแค่เป็นเมนูแฟชั่นสำหรับวัยรุ่นเท่านั้น ความหวือหวาจึงค่อยๆ ซาลงในเวลา 2-3 ปี เจ้าต่างๆ ค่อยๆ หายไป เหลือแข็งแกร่งอยู่ในตลาดเพียงไม่กี่แบรนด์เท่านั้น

จนเมื่อประมาณ พ.ศ. 2554 ธุรกิจชานมไข่มุกเริ่มกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง สาเหตุคาดจะมาทางผู้บริโภคต้องการเครื่องดื่มทางเลือกอื่นๆ นอกเหนือจากกาแฟ อีกทั้งการกลับมาครั้งนี้จะมีแบรนด์ทันสมัยเป็นหัวหอกช่วยฟื้นกระแสได้เป็นอย่างดี ทั้งลักษณะภายนอกที่ปรับปรุงทันสมัย เช่น “บรรจุภัณฑ์” สร้างจุดขายเป็นแก้วผนึกด้วยฝาแผ่นพลาสติกใสปิดสนิท ดูสะอาด และสะดวกพกพา หรือการวางตำแหน่งหาลูกค้าที่กว้างขึ้น เมนูหลากหลายยิ่งขึ้น มีเปิดขายทั้งในห้างสรรพสินค้า แหล่งสำนักงาน สถานีรถไฟฟ้า และย่านธุรกิจ ทำให้เครื่องดื่มชาไข่มุกฉีกตัวออกจากแค่เครื่องดื่มแฟชั่น มาสู่เครื่องดื่มในชีวิตประจำวันได้เช่นเดียวกับ “กาแฟ”

ตลาดเปิดกว้าง มีทั้งโอกาสและความท้าทาย

ข้อมูลจาก “ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” คาดว่า ในปี 2555 ที่ผ่านมา ตลาดเครื่องดื่ม “ชา” มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท และขยายตัวไม่ต่ำกว่า 20% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า หากเจาะจงเฉพาะ “ชานมไข่มุก” คาดมูลค่าตลาดไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านบาทต่อปี ตัวเลขดังกล่าวถือเป็นตลาดที่ใหญ่เอาการ จึงมีผู้ประกอบการสนใจเข้ามาสู่ธุรกิจนี้จำนวนมาก โดยคาดว่าจะมีแบรนด์ชานมไข่มุกเจ้าใหม่เกิดขึ้นเฉลี่ยทุกเดือน เดือนละ 2 รายทีเดียว

ทั้งนี้ โอกาสและความน่าสนใจของธุรกิจชาไข่มุกนั้น ได้แก่

- ชานมไข่มุกเป็นเครื่องดื่มที่มีความเป็นวาไรตีสูง จากจุดเด่นการชงที่มีความสนุกสนาน การใส่ไข่มุก และท็อปปิ้งต่างๆ ช่วยเพิ่มรสชาติและสีสันให้แก่เครื่องดื่ม

- ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน เครื่องดื่มเย็นๆ ให้ความสดชื่นจึงเป็นที่ต้องการของตลาด

- ผู้บริโภคต้องการเครื่องดื่มทางเลือกอื่นๆ นอกเหนือจากกาแฟ อีกทั้งยังมีผู้บริโภคอีกจำนวนมากที่ไม่ดื่มกาแฟ ก็อาจหันมาดื่มชานมไข่มุกแทน

- เป็นธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนไม่มาก และขั้นตอนการทำก็ไม่ยุ่งยาก การจัดเตรียมอุปกรณ์ หรือหาซื้อวัตถุดิบต่างๆ ก็ทำได้ง่าย

- สินค้ากลุ่มเครื่องดื่มจัดเป็นกลุ่มสินค้าที่มีกำไรต่อหน่วยสูง โดยเฉลี่ยชานมไข่มุกต่อแก้วต้นทุนประมาณ 12-13 บาท ขายปลีกแก้วละ 30-55 บาท เท่ากับจะมีกำไรมากกว่า 50% จากราคาขาย

ส่วนด้านความท้าทายของธุรกิจชานมไข่มุกนั้น ได้แก่

- จำนวนคู่แข่งในตลาดค่อนข้างมาก ตั้งแต่รายใหญ่ รายเล็ก หน้าเก่า หน้าใหม่ รวมกันแล้วไม่ต่ำกว่าหมื่นราย

- มีเครื่องดื่มอื่นๆ ที่สามารถมาแย่งตลาด หรือทดแทนได้ เช่น กาแฟเย็น น้ำผลไม้ เครื่องดื่มสำเร็จรูปบรรจุกระป๋อง ฯลฯ

- ราคาที่สูงกว่าโดยเฉลี่ยของเครื่องดื่มทั่วไป อาจทำให้ลูกค้าเลือกเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ แทน

- ในอนาคตอาจมีเจ้าใหม่ผุดขึ้นจนล้นตลาด ทำให้เกิดภาวะสินค้าเกินความต้องการของผู้ซื้อ

สร้างแบรนด์ตัวเองหรือซื้อแฟรนไชส์ดีกว่า

สำหรับผู้สนใจจะยึดอาชีพขายชานมไข่มุกนั้น ทางเลือกหลักๆ มีอยู่ 2 ด้าน กล่าวคือ 1. สร้างแบรนด์ของตัวเอง และ 2. ซื้อแฟรนไชส์ ทั้งสองด้านมีทั้งข้อดีและข้อด้อยต่างกันไป สุดแต่ผู้ประกอบการจะเลือกพิจารณาตามความเหมาะสมของตัวเอง

1. สร้างแบรนด์ของตัวเอง ข้อดี สามารถสร้างเอกลักษณ์ความเป็นตัวตนได้เป็นอย่างดี ยืดหยุ่นพลิกแพลงเมนูได้ตามพอใจ ได้กำไรต่อหน่วยสูง อย่างไรก็ตาม มีความยุ่งยากที่ต้องรับผิดชอบจัดการทุกด้านเอง ไม่ว่าจะเป็นหาสูตร แหล่งวัตถุดิบ ฯลฯ ซึ่งผู้ที่จะทำวิธีนี้ควรจะมีประสบการณ์หรือความสามารถในการจัดการธุรกิจของตัวเองได้ดี

ส่วนวิชาความรู้ต่างๆ ในการทำชาไข่มุกนั้นปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป มีหนังสือตำราวางขายอยู่จำนวนมาก ตามเว็บไซด์ต่างๆ ก็มีให้ค้นคว้าฟรีๆ รวมถึงมีการเปิดหลักสูตรอบรมการทำอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ฝึกให้ผู้สนใจได้เรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ค่าเรียนมีตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่น ส่วนใหญ่จะเน้นสอนพื้นฐานเพื่อให้ผู้เรียนนำไปพัฒนาเมนูของตัวเอง

ส่วนด้านวัตถุดิบและอุปกรณ์ที่ใช้ในร้านชานมไข่มุกทุกวันนี้ก็หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดเช่นกัน ส่วนใหญ่ตามร้านขายอุปกรณ์ทำเบเกอรี หรือขายส่งอุปกรณ์ชาไข่มุก นอกจากนั้น สถานที่เปิดสอนการทำชานมไข่มุกมักจะขายวัตถุดิบและอุปกรณ์ให้ด้วย ทั้งนี้ อุปกรณ์และวัตถุดิบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องซีลฝาพลาสติก ถังใส่ชา ไข่มุก ผงชา ฯลฯ มีให้เลือกหลายยี่ห้อ หลายเกรด ถูกและแพงต่างกันไป ดังนั้นผู้ประกอบการต้องศึกษา และตัดสินใจเลือกให้ถูกต้องเหมาะสม

2. ซื้อแฟรนไชส์ ข้อดี ได้ธุรกิจสำเร็จรูป เหมาะสำหรับมือใหม่ ไม่ต้องปวดหัวจัดการสร้างธุรกิจของตัวเองทุกอย่าง เพราะแฟรนไชซอร์จะวางระบบต่างๆ ให้ครบวงจร เช่น การอบรม สนับสนุนวัตถุดิบ อุปกรณ์ และรูปแบบร้าน ฯลฯ โดยขณะนี้มีแฟรนไชส์ชานมไข่มุกรวมกันประมาณร้อยกว่าแบรนด์ ตั้งแต่เงินลงทุนหลักหมื่นต้นๆ ไปจนถึงประมาณ 5 แสนบาท

ทั้งนี้ แฟรนไชส์ชานมไข่มุกแต่ละรายจะมีลักษณะและรูปแบบต่างกันไป เช่น บางรายเป็นชานมสำเร็จรูป บางรายเป็นชานมแบบชงสด ฯลฯ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดของการซื้อแฟรนไชส์คือ ต้องเลือกแฟรนไชส์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีระบบบริหารจัดการที่ดี และเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคอยู่แล้ว ดังนั้น ก่อนจะซื้อแฟรนไชส์ใดๆ นั้นผู้ประกอบการต้องศึกษาอย่างรอบคอบ ตั้งแต่ประวัติของบริษัท ประสิทธิภาพการบริหารแฟรนไชส์ที่ผ่านมา คุณภาพของสาขาอยู่ในมาตรฐานเดียวกันหรือไม่ และที่สำคัญ มีการช่วยเหลือสนับสนุนและส่งเสริมแฟรนไชซีอย่างไรบ้าง

ปัจจัยแห่งความสำเร็จของธุรกิจชานมไข่มุก

แม้การเปิดร้านชานมไข่มุกจะเป็นอาชีพที่ไม่ยาก แต่ก็จำเป็นต้องมีปัจจัยเกื้อหนุนสู่ความสำเร็จเช่นกัน โดยหัวใจสำคัญ เช่น

ทำเลที่ดี จริงๆ แล้วน่าจะเป็นหัวใจอันดับต้นๆ ของทุกธุรกิจที่ต้องซื้อขายกับลูกค้าโดยตรง โดยทำเลที่ดีต้องเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้มากที่สุด เช่น ย่านสถาบันการศึกษา ย่านสำนักงาน แหล่งชุมชน ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น นอกจากทำเลในเมืองแล้ว ย่านชุมชนตามต่างจังหวัดก็น่าสนใจ เพราะผู้บริโภคต่างจังหวัดอยากจะลิ้มรสเครื่องดื่มจากไต้หวันเช่นกัน หากเป็นผู้บุกเบิกในทำเลนั้นๆ ย่อมได้เปรียบ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ประเมินยอดขายของร้านชานมไข่มุกที่อยู่ในทำเลดีจะมียอดขายวันละ 200-300 แก้ว หรือสร้างรายได้ประมาณ 1.5-2 แสนบาทต่อเดือนทีเดียว

สร้างจุดขายของตัวเอง จะสังเกตได้ว่าชานมไข่มุกมีความเป็น “เครื่องดื่มวาไรตี” แต่ละรายมักสร้างความแตกต่างไม่เหมือนเจ้าอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นรสชาติแปลกใหม่ บางรายเน้นเป็นเมนูสุขภาพ บางรายเครื่องที่ใส่ไม่จำกัดแค่ไข่มุก แต่ยังมีทั้งเฉาก๊วย เยลลี วุ้น วิปครีม ฯลฯ ซึ่งข้อดีเหล่านี้นอกจากจะสร้างเอกลักษณ์แล้ว ยังสามารถเพิ่มมูลค่าแก่สินค้าด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะสำเร็จในอาชีพนี้ก็ควรจะสร้างชานมไข่มุกที่มีแตกต่างจากท้องตลาดทั่วไปด้วย

ควรมีลูกเล่นดึงดูดใจลูกค้า การทำกิจกรรม บริการเสริม หรือโปรโมชันต่างๆ ช่วยดึงดูดความสนใจจากลูกค้าได้เป็นอย่างดี เช่น ทำเป็นคูปองสะสม ซื้อ 10 แก้วฟรี 1 แก้ว ช่วยกระตุ้นยอดขาย บางรายให้บริการจัดส่ง หรือ Delivery ไปถึงลูกค้าโดยตรง ซึ่งร้านที่มีทำเลอยู่ในย่านสำนักงานสามารถรวบรวมจำนวนสั่งซื้อได้หลายแก้วในคราวเดียว อย่างไรก็ตาม ต้องกำหนดจำนวนสั่งขั้นต่ำ และระยะทางที่จะส่งให้คุ้มค่ากับต้นทุนการส่งสินค้าด้วย

บริการที่ดี หลายธุรกิจต้องล้มลงไปเพราะลูกค้าไม่พอใจงานบริการ ซึ่งชานมไข่มุกมีผู้ขายเจ้าต่างๆ อยู่จำนวนมาก หากลูกค้าไม่พอใจงานบริการเขาสามารถเปลี่ยนไปซื้อเจ้าอื่นได้ทันที ไม่จำเป็นต้องง้อเรา ดังนั้น ผู้ประกอบการต้องเอาใจใส่งานบริการเป็นพิเศษ ยิ่งกรณีไม่ได้ลงมือทำด้วยตัวเอง ใช้วิธีจ้างลูกจ้างต้องอบรมพนักงานให้ดีที่สุด คัดคนที่มีใจรักงานบริการ รวมถึงการแต่งกายของพนักงาน และความสะอาดของพนักงานก็มีปัจจัยต่อผู้บริโภคทั้งสิ้น
สมจิตร ลิขิตสถาพร
เชื่อตลาดชานมไข่มุกไม่วาย แนะหาทำเลแจ๋วก่อนควักเงิน

แม้ปัจจุบันจะมีชานมไข่มุกเจ้าใหม่ๆ เกิดขึ้นจำนวนมาก การแข่งขันสูง อย่างไรก็ตาม ด้วยปัจจัยบวกทั้งความนิยมที่เริ่มอยู่แล้ว การดื่มชาในวันนี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของคนไทย โดยเฉพาะคนไม่ดื่มกาแฟได้หันมาดื่มชานมแทนจนกลายเป็นขาประจำมีอยู่จำนวนมาก ขณะที่ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน เครื่องดื่มหวานเย็นจึงเป็นที่นิยมของผู้บริโภคเสมอ ดังนั้น ความนิยมชานมไข่มุกน่าจะต่อเนื่องไปอีก แต่จะรักษาระดับความแรงได้มากน้อยเพียงใดต้องเฝ้ามองกันต่อไป

สอดคล้องกับคิดเห็นของ นางสาวสมจิตร ลิขิตสถาพร นายกสมาคมแฟรนไชส์ไทย ที่กล่าวกับทีมงาน “SME ผู้จัดการออนไลน์” ว่า ชานมไข่มุกเป็นเครื่องดื่มที่ทันสมัย เข้ากับกระแสแฟชั่นคนรุ่นใหม่ มีความเป็นวาไรตีจากท็อปปิ้งที่มีให้เลือกหลากหลาย ทำให้มีลูกค้าตั้งแต่กลุ่มวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ และคนในวัยทำงาน เชื่อว่ากระแสความนิยมครั้งนี้จะต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 3-5 ปี และหลังจากนั้นจะอยู่ในระดับเสมอตัว ไม่หวือหวา แต่ก็ไม่ถึงขั้นล้มหายตายจากไป คล้ายกับธุรกิจกาแฟในปัจจุบันที่สามารถรักษาความนิยมได้อยู่ตัวอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่สนใจจะลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ชานมไข่มุกนั้น สิ่งที่ควรจะพิจารณานอกจากเรื่องชื่อเสียงและประวัติความน่าเชื่อถือของแบรนด์แฟรนไชส์แล้ว ควรต้องให้ความสนใจในทำเลที่จะไปตั้งร้าน ควรจะเป็นทำเลที่ดีจริงๆ โดยเป็นจุดที่มีคนพลุกพล่าน เช่น ย่านออฟฟิศ สถาบันการศึกษา เป็นต้น เนื่องจากธุรกิจประเภทนี้มีราคาขายต่อหน่วยไม่สูง ประมาณแก้วละ 25-40 บาท จำเป็นที่จะต้องขายให้ได้ปริมาณหน่วยมากๆ จึงจะประสบความสำเร็จ

นอกจากนั้น ก่อนที่จะลงทุนกับแฟรนไชส์รายใดนั้นควรจะไปปรึกษาแฟรนไชซีที่ลงทุนในธุรกิจที่เราสนใจไปก่อนแล้วว่าแฟรนไชซอร์ให้บริการดีตามที่ตกลงสัญญากันหรือไม่ รวมถึงธุรกิจประสบความสำเร็จจริงหรือไม่ ซึ่งจะทำให้ได้ข้อมูลจริงมากกว่าการถามจากตัวเจ้าของแฟรนไชส์

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น