งานมหกรรมแฟรนไชส์สร้างอาชีพครั้งที่ 8 ประกาศพร้อมพลิกมิติใหม่ กระตุ้นตลาดธุรกิจแฟรนไชส์ครั้งใหญ่ เจาะตลาดซื้อขายธุรกิจ จัดเต็มธุรกิจแฟรนไชส์และธุรกิจน่าลงทุนกว่า 80 ธุรกิจ พร้อมกิจกรรมแจกแฟรนไชส์ฟรีทุกวัน 5 วัน 5 แฟรนไชส์
นายวีระเดช ชูแสงกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกรท ดีไซน์ แอนด์ พริ้นท์ บรรณาธิการอำนวยการ นิตยสารตั้งตัวและนิตยสารแฟรนไชส์ทูเดย์ กล่าวว่า งานมหกรรมแฟรนไชส์ สร้างอาชีพ ครั้งที่ 8 พร้อมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-7 กรกฎาคม 2556 ชั้น 3 ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ รามอินทรา ด้วยศักยภาพของสถานที่จัดงานที่มีคนมาจับจ่ายใช้สอยเป็นจำนวนมาก บวกกับประชาชนที่ทราบข่าวและเดินทางมาร่วมงาน คาดว่าจะมีผู้ร่วมงานไม่ต่ำกว่า 20,000 คนต่อวัน รวมตลอดทั้ง 5 วันจัดงานกว่า 100,000 คน และช่วยให้ประชาชนผู้เข้าร่วมงานได้รับทราบข้อมูลในการเปิดโลกทัศน์ด้านอาชีพอย่างใกล้ชิด สามารถเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการแฟรนไชส์ได้ทันที และคาดว่าจะมีเงินสะพัดหมุนเวียนลงทุนซื้อขายธุรกิจแฟรนไชส์ตลอดการจัดงานทั้ง 5 วันมูลค่ารวมกว่า 300 ล้านบาท
ด้านกำลังซื้อเชื่อมั่นว่าจะช่วยกระตุ้นให้เกิดบรรยากาศ การซื้อขายขายแฟรนไชส์ในธุรกิจเพิ่มมากขึ้น โดยประมาณ 40% จะมีการตัดสินใจซื้อแฟรนไซส์ภายในงานเลย ส่วนอีก 60% จะเป็นการตัดสินใจลงทุนหลังจากจบงาน เนื่องจากการลงทุนซื้อแฟรนไชส์จะต้องอาศัยปัจจัยความพร้อมหลายด้านประกอบกัน ทั้งด้านเงินลงทุน ทำเล บุคคลากร ฯลฯ ทั้งนี้ผู้บริภึหลายท่านมาชมธุรกิจในงาน พูดคุยเจรจาธุรกิจกับแต่ละแฟรนไชส์แล้วเก็บข้อมูลทั้งหมดไปตัดสินใจอีกครั้ง มีข้อสังเกตุว่าจากการสำรวจพฤติกรรมของผู้เข้าร่วมชมงานจะใช้เวลาอยู่ภายในงาน เพื่อศึกษารายละเอียดของบูทแฟรนไชส์ต่างๆ รวมเวลาชมงานต่อท่านประมาณ 3 ชั่วโมง โดย20% ของผู้มาชมธุรกิจต่างๆ ภายในงานมางานมากกว่า 1 วัน ในช่วงเวลาการจัดงาน
นายวีระเดช กล่าวต่อว่า สำหรับแฟรนไชส์ ที่เป็นนิยมในปีนี้ และมีการซื้อ-ขายมากที่สุดยังคงเป็นแฟรนไชส์ในหมวดอาหาร-เครื่องดื่มที่ได้รับการตอบรับลงทุนมากที่สุด โดยธุรกิจแฟรนไชส์ในหมวดนี้จะใช้เงินลงทุนอยู่ระหว่าง 50,000 - 300,000 บาท ทั้งนี้แฟรนไชส์อาหารยังคงเป็นที่ยมยมสูงสุด โดยแนวโน้มธุรกิจแฟรนไชส์ในหมวดอาหารนั้นจะกระจายไปยังหมวดต่างๆ เฉลี่ยเท่าๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มแฟรนไชส์อาหารคาว หรือกลุ่มแฟรนไชส์อาหารทานเล่นต่างๆ ส่วนในกลุ่มแฟรนไชส์เครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมอยู่ในกลุ่ม ธุรกิจแฟรนไชส์กาแฟ, ธุรกิจแฟรนไชส์ชานมไข่มุก ซึ่งค่อนข้างมีความเคลื่อนไหวในตลาดร้อนแรงจากกระแสชานมไข่มุกฟีเวอร์ และเทรนด์การดื่มกาแฟที่ขยายตัวในทุกเซ็กเม้นท์ของตลาดไม่ว่าจะเป็นเซ็กเม้นท์กาแฟโบราณ หรือกาแฟสด โดยราคาการซื้อขายธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีการซื้อขายในงาน แฟรนไชส์ที่ลงทุนราคาถูกที่สุดจะอยู่ที่หลักพัน แพงสุดอยู่ในหลักล้าน ทั้งนี้ ราคาแฟรนไชส์และเงินลงทุนที่ใช้ในการตกแต่งร้านแปรผันตามรูปแบบการตกแต่ง, อุปกรณ์ที่ใช้, ขนาดพื้นที่, จำนวนพนักงาน ฯลฯ
ด้านแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจแฟรนไชส์ในปัจจุบัน นั้นมีการเติบโตเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีนักลงทุนหน้าใหม่ๆ คนรุ่นใหม่ ออกมาทำธุรกิจของตัวเองมากยิ่งขึ้น ตามเทรนด์ในปัจจุบัน หลายท่านทำธุรกิจของตัวเองตั้งแต่อายุน้อยๆ แฟรนไชส์จึงเป็นอีกโมเดลหนึ่งที่คนรุ่นใหม่เลือกลงทุนโดยการซื้อแฟรนไชส์
จากการสำรวจมีจำนวนร้านและธุรกิจที่อยู่ในระบบแฟรนไชส์ในประเทศไทยทั้งสิ้นประมาณ 75,000-85,000 แห่ง มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละประมาณ 20% หรือเฉลี่ยปีละประมาณ 8,000 กว่าสาขาต่อปี หรือเท่ากับมีร้านที่อยู่ในธุรกิจแฟรนไชส์เกิดขึ้นเฉลี่ยประมาณวันละ 20 แห่ง โดยทิศทางของธุรกิจแฟรนไชส์ในครึ่งปีหลัง ยังคงมีแนวโน้มที่สดใส และคาดว่ามีอัตราการเติบโตประมาณ 25% โดยมีปัจจัยต่างๆ ดังนี้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เศรษฐกิจโดยรวมมีทิศทางที่ดีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา
สำหรับปัจจัยที่ผลักดันให้ธุรกิจแฟรนไชส์ในปัจจุบันที่มีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้นมาก เนื่องจากหลายปัจจัย อาทิ ธุรกิจแฟรนไชส์เป็นธุรกิจกึ่งสำเร็จรูปที่ไม่ต้องมีโนวฮาว, ไม่ต้องทดลองผิดถูก, เป็นธุรกิจที่มีแบรนด์แข็งแรงเป็นที่รู้จักอยู่แล้วในระดับหนึ่ง และบางแฟรนไชส์มีทำเลให้เลือกลงทุน, มีพนักงานที่อบรมให้พร้อม ทำให้เอื้ออำนวยต่อการลงทุนสำหรับผู้ลงทุนที่ไม่เคยเป็นเจ้าของกิจการมาก่อน เห็นได้จากคนวัยทำงานนิยมทำธุรกิจแฟรนไชส์เพื่อเป็นรายได้เสริมมากขึ้น นักศึกษาจบใหม่นิยมอยากเริ่มต้นกิจการเล็กเป็นของตัวเองมากขึ้น และกลุ่มคนวัยผู้ใหญ่ที่มีเงินก้อนหนึ่งที่อยากลงทุนให้เงินเติบโตมากกว่าฝากธนาคาร
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
