เรื่องของขนมเก้าไส้ ไม่ใช่ขนมที่ได้ไอเดียมาจากประเทศไหน แต่ไอเดียขนมเก้าไส้นี้เกิดขึ้นมาจากการต่อสู้ชีวิตของน้องวัยรุ่นผู้หญิงคนหนึ่งชื่อว่า “แก้ว แสงอภัย” เธอได้พยายามเดินตามฝันที่อยากจะมีอาชีพเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระทางบ้าน และที่สำคัญได้มีโอกาสช่วยเหลือครอบครัว
ด้วยการเปิดร้านขนมเก้าไส้ “แก้ว” บอกกับทีมงาน “SMEs ผู้จัดการออนไลน์” ว่า เธอได้พยายามคิดสูตรแป้งของขนมนี้ขึ้นมา โดยเชื่อว่าที่อื่นๆ ก็คงจะไม่สามารถทำสูตรแป้งขนมเก้าไส้ได้เหมือนกับตนเอง และความเฉพาะตัวของแป้งขนมเก้าไส้นี้เอง ทำให้ตัดสินใจเปิดขายแฟรนไชส์ เพราะเชื่อว่าเมื่อมีคนได้ชิมจะต้องชื่นชอบความลงตัวของแป้งและไส้ที่มีหลากหลายมากมายถึง “เก้าไส้”
สำหรับสูตรขนมเก้าไส้ เป็นขนมที่ทำขึ้นมาจากแป้งซาลาเปา หรือหม่านโถว และส่วนผสมอื่นๆ ที่เจ้าของสูตรบอกว่า “เป็นความลับ” รสชาติที่ออกมาคล้ายคลึงกับซาลาเปา หรือหม่านโถว แต่จุดเด่นคงอยู่ที่ตัวไส้ที่มีความหลากหลายถึงเก้าไส้ และเก้าสี ประกอบด้วย ช็อกโกแลต, หมูหยอง, คัสตาร์ด, ข้าวโพด, ใบเตย, เผือก, สตรอว์เบอร์รี, หมูสับ, เห็ดหอม และพิซซา ส่วนสีจะแตกต่างกันไปตามไส้ มีให้เลือกถึง 9 สีเช่นกัน โดยสีที่ใช้คือสีผสมอาหารที่ใช้ทำขนมทั่วไป
แก้วเล่าว่า ส่วนสีที่ค่อนข้างฉูดฉาด เพราะต้องการทำให้เป็นจุดเด่น เมื่อลูกค้าเดินผ่านไปผ่านมาก็ต้องแวะเข้ามา และเมื่อได้ซื้อชิมเราเชื่อว่าเขาก็จะต้องกลับมาซื้ออีก ซึ่งในส่วนของขั้นตอนการทำไม่ได้แตกต่างจากซาลาเปา หรือหม่านโถว รสชาติคล้ายคลึงกัน แต่จะต่างกันที่ซาลาเปาไม่ได้มีไส้ให้เลือกมากขนาดนี้ และก่อนจะเสิร์ฟขายให้ลูกค้าจะนำมาปิ้งย่างบนเตาไฟฟ้าก่อน และทาเนยในระหว่างปิ้งย่างเพื่อเพิ่มความหอม และรสชาติที่อร่อยขึ้น ซึ่งแนะนำลูกค้าให้กินร้อนจะอร่อยและได้รสชาติมากกว่า ถ้าซื้อกลับบ้านไม่ควรที่จะปิ้ง ให้ซื้อกลับไปปิ้ง หรือใส่ไมโครเวฟก็ได้เช่นกัน ราคาขายหน้าร้านชิ้นละ 25 บาท
“ในส่วนของการขายแฟรนไชส์ เกิดขึ้นมาจากความต้องการของตัวเองที่ต้องการขายให้ได้มากๆ และส่วนหนึ่งมาจากลูกค้าได้มาเห็นและต้องการจะทำขายบ้าง เราก็เลยตัดสินใจเปิดขายแฟรนไชส์ โดยราคาเริ่มต้นที่ 15,000 บาทได้ขนม 100 ชิ้น พร้อมอุปกรณ์ และป้าย ราคาส่งขายให้แฟรนไชส์ส่งชิ้นละ 10 บาท (นึ่งให้แล้วและฟรีซแข็งไปให้) ลูกค้าจะเก็บได้ประมาณ 7 วัน แต่ถ้าแช่ช่องทำธรรมดาอยู่ได้ประมาณ 3 วัน”
แก้วเล่าว่า เปิดร้านทำขนมเก้าไส้มาได้ประมาณ 1 ปี เปิดขายอยู่ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพระราม 3 ยอดขายต่อวันประมาณ 200- 300 ชิ้น หักต้นทุน และค่าใช้จ่ายทั้งหมดเหลือประมาณวันละ 1,000 กว่าบาท สามารถทำคนเดียวได้ ไม่ยุ่งยากอะไร ปัจจุบันมีการขายแฟรนไชส์ไปแล้วในแขตปริมณฑล และต่างจังหวัดประมาณ 4-5 สาขา
ที่มาจุดเริ่มต้นการทำขนมเก้าไส้ของ “แก้ว” เกิดขึ้น มาจากตัวเองชอบกินซาลาเปา และทำกินเองภายในครอบครัวบ่อยครั้ง เกิดความคิดว่าน่าจะลองทำแป้งซาลาเปา และไส้ซาลาเปาที่แปลก แตกต่างจากที่มีอยู่มันก็น่าจะขายได้ ซึ่งค่อยๆ ปรับและคิดสูตรขึ้นมาเอง โดยเฉพาะตัวแป้งที่ใช้เวลาทุ่มเทกับการคิดสูตรแป้งที่ลงตัว และไม่เหมือนใครอยู่นาน ส่วนไส้อาศัยดูขนมในท้องตลาดมีไส้ขนมอะไรบ้างที่คนชอบกิน ก็นำมาปรับให้มันเข้ากันได้กับตัวแป้ง จึงออกมาเป็นขนมเก้าไส้จนถึงปัจจุบัน
โทร. 08-2012-0224
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *