xs
xsm
sm
md
lg

แบรายชื่อเข้ารอบสุดท้าย ชิง “สุดยอด SMEs แห่งปี”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางสุทธิกานต์ มาสำราญ (กลาง) และนายพานิช เหล่าศิริรัตน์  (ซ้าย) ระหว่างงานแถลงข่าว
สสว.เปิดโผรายชื่อเอสเอ็มอีที่ผ่านเข้าชิง “สุดยอด SMEs แห่งชาติ” ครั้งที่ 5 ระบุทั้งหมด 32 ราย จากเอสเอ็มอีที่สมัครกว่า 1,000 ราย เตรียมประกาศผลพร้อมมอบรางวัลในวันที่ 24 เม.ย.นี้ แจงผู้ได้รางวัลมีสิทธิรับการสนับสนุนรอบด้านทั้งการตลาด และความรู้เสริมธุรกิจ

นางสุทธิกานต์ มาสำราญ ผู้อำนวยการสำนักบริการผู้ประกอบการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวในแถลงข่าวการประกาศผลผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้ารอบสุดท้ายการประกวด “สุดยอด SMEs แห่งชาติ” หรือ SMEs National Award ครั้งที่ 5 ว่า สสว. จัดโครงการดังกล่าวมาเป็นครั้งที่ 5 แล้ว โดยปีนี้ มีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสมัครเข้าประกวดในเดือนธันวาคม 2555-มกราคม 2556 จำนวน 1,032 ราย

ทั้งนี้ จากการคัดเลือกรอบแรก ที่มีทั้งการสอบสัมภาษณ์ และตรวจประเมินสถานประกอบการ มีเอสเอ็มอีที่ผ่านรอบคัดเลือกทั้งหมด 32 ราย ใน 15 กลุ่มธุรกิจเป้าหมาย ทั้งภาคผลิต ภาคการค้า และภาคบริการ ได้แก่

ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม
1.บริษัท ซันไชน์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
2.บริษัท คริสปี้ เวจ แอนด์ ฟรุ๊ต จำกัด
3.บริษัท เวย์ตาน่า จำกัด
4.บริษัท ซองเดอร์ ไทยออร์กานิคฟูด จำกัด
5.ห้างหุ้นส่วนจำกัด เหลียงเส่งเฮงฮวด
6.ห้างหุ้นส่วนจำกัดชาเขียว
7.บริษัท เอเซียแอนด์แปซิฟิค ควอลิตี้ เทรด จำกัด
8.บริษัท วิยะ เครป โปรดักส์ จำกัด

ธุรกิจสิ่งทอและแฟชั่น
1.บริษัท คัฟเวอร์แนนท์ จำกัด

ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และผลิตภัณฑ์จากไม้
1.บริษัท ดีไซน์ ออลเทอร์เนทีฟ จำกัด

ธุรกิจหัตถกรรม
ไม่มีกิจการใดที่มีคะแนนผ่านเกณฑ์การสัมภาษณ์ และได้รับการตรวจประเมินสถานประกอบการ (Site Visit)

ธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับ
1.บริษัท เอ็กซเปิร์ต เจมส์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด

ธุรกิจเครื่องจักรกลและอุปกรณ์
1.บริษัท สุธี ยูไนเต็ด คาร์บอน จำกัด
2.บริษัท เดอะคูล เซอร์วิส จำกัด
3.บริษัท เดอะคูล แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด
4.บริษัท เจ.อาร์.แอล.สยาม จำกัด

ธุรกิจพลาสติกและยาง
1.บริษัท ทีมพลาส เคมีคอล จำกัด
2.บริษัท เอส.ที.ไรซิ่ง จำกัด

ธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์
1.บริษัท จี.ไอ.เอฟ.เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
2.บริษัท ชัยวัชระรับเบอร์ จำกัด

ธุรกิจสิ่งพิมพ์
1.บริษัท ประดิษฐ์ศิลป์เซ็นเตอร์ จำกัด

ธุรกิจค้าปลีก
1.บริษัท อุดรกระจกรถยนต์ จำกัด
2.บริษัท จีเทค โอเอชเอ็ม จำกัด

ธุรกิจโรงแรม ท่องเที่ยว และภัตตาคาร
1.บริษัท โชคดี เรสเตอรองค์ จำกัด

ธุรกิจงานสร้างสรรค์และออกแบบ
1.บริษัท คอมเทรดดิ้ง จำกัด
2.บริษัท นิปปอน ไซซิทส์ จำกัด

ธุรกิจลอจิสติกส์
1.บริษัท ไวส์เฟรทเซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด

ธุรกิจเพื่อสุขภาพ
1.บริษัท ขาวละออเภสัช จำกัด
2.บริษัท ศูนย์การแพทย์ผิวหนังกรุงเทพ จำกัด
3.บริษัท เคล อินเตอร์เทรด จำกัด

ธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
1.บริษัท คัดแยกขยะเพื่อรีไซเคิล วงษ์พาณิชย์ จำกัด
2.บริษัท ที-เน็ต จำกัด
3.ห้างหุ้นส่วนจำกัด เรือนไหม-ใบหม่อน

หลังจากนี้ ทาง สสว. จะจัดงานประกาศผลพร้อมมอบรางวัลแก่เอสเอ็มอีที่ได้รับรางวัล “สุดยอด SMEs แห่งชาติ” ในวันที่ 24 เมษายนนี้ ณ โรงแรมเอส 31

นางสุทธิกานต์ กล่าวต่อว่า ประโยชน์ที่ผู้เข้าร่วมโครงการนี้จะได้รับ คือ การประเมินตรวจสอบธุรกิจจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ให้เอสเอ็มอีแต่ละรายเห็นถึงจุดอ่อนจุดแข็งของตัวเอง สามารถนำไปปรับปรุงเสริมศักยภาพธุรกิจ รับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

ส่วนรายที่ได้รับรางวัล นอกจากถ้วยรางวัลแล้ว ผู้ผ่านการคัดเลือกทุกรายจะได้รับการส่งเสริมจาก สสว. รอบด้าน ทั้งการตลาดโดยเชิญร่วมงานต่างๆ ที่ สสว.จัดขึ้นทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เช่น การออกบูท การทำ business matching เป็นต้น

นอกจากนั้น สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ ยังมอบสิทธิประโยชน์แก่ผู้ที่ได้รับรางวัลสุดยอด SMEs แห่งชาติ และผู้ที่ได้รับรางวัล SMEs ดีเด่น ในการเข้ารับการอบรมหลักสูตรต่างๆ ของสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ บริษัทละ 3 หลักสูตร และมีส่วนลดร้อยละ 50 ของค่าอบรม ส่วนผู้ที่ได้รับรางวัลชมเชย ได้รับส่วนลดการเข้าอบรมหลักสูตรต่างๆ โดยมีส่วนลดร้อยละ 10 (หรือเท่ากับอัตราสมาชิก) อีกทั้งยกเว้นค่าธรรมเนียมสมาชิกเป็นเวลา 1 ปี ให้แก่ผู้ประกอบการทุกรายที่ได้รางวัล

รวมถึงทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้มอบสิทธิประโยชน์จัดกิจกรรมต่อยอดการเรียนรู้ให้แก่ผู้ที่ได้รับรางวัลสุดยอด SMEs แห่งชาติในครั้งนี้

“โครงการนี้ สสว. ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2549 โดยจัดต่อเนื่องเป็นประจำ ด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นการค้นหาเอสเอ็มอีต้นแบบที่มีความสามารถในการดำเนินกิจการอย่างมีประสิทธิภาพ ตามมาตรฐานที่ดี ดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส เพื่อเป็นแบบอย่างให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายอื่นๆ ในการปรับปรุงวิธีการดำเนินธุรกิจ และการบริหารจัดการ
และที่สำคัญเพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจ และกระตุ้นให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีความตื่นตัว และตระหนักถึงการปรับปรุงและพัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการ ให้มีความเข้มแข็ง ยั่งยืน สามารถแข่งขันได้ทั้งในระดับประเทศและระดับสากลต่อไป” ผู้บริหารสสว. กล่าว

ด้านนายพานิช เหล่าศิริรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ กล่าวว่า การตัดสินนำแนวทางของเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ (Thailand Quality Awards : TQA) มาปรับใช้ โดยเอสเอ็มอีที่ผ่านเกณฑ์พิจารณาได้รับรางวัลจะต้องได้รับคะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ในแต่ละหมวดซึ่งมีทั้งสิ้น 7 หมวด โดยรายที่ได้รับคะแนนตั้งแต่ 600 คะแนนขึ้นไป จะได้รับรางวัลชมเชย ส่วนรายที่ได้ 800 คะแนนขึ้นไปจะได้รับรางวัล SMEs ดีเด่น และผู้ที่มีคะแนนมากกว่า 800 คะแนนขึ้นไป และมีคะแนนสูงสุดในแต่ละกลุ่มธุรกิจจะได้รับรางวัลสุดยอด SMEs แห่งชาติ

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
กำลังโหลดความคิดเห็น