ชี้ตลาดแฟรนไชส์ตัวเลือกตัน เร่งปั้นหน้าใหม่ประดับวงการ

สมาคมแฟรนไชส์ เผยธุรกิจแฟรนไชส์โตเอียงเฉพาะด้านลงทุนซื้อ ส่วนฝั่งแฟรนไชซอร์ตัวเลือกยังจำกัด ชี้ข้อจำกัดขาดความพร้อม จับมือ 7-11 และเคแบงก์ ผุดโครงการปั้นแฟรนไชส์หน้าใหม่เสริมความรู้ และเตรียมความพร้อมแบบเข้มข้นในเวลา 20 ชม. ชี้แนวโน้มแฟรนไชส์ยังสดใส ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนหน้าใหม่อีก 5-7% รวมถึงแกร่งรองรับก้าวเข้าสู่เออีซี

น.ส.สมจิตร ลิขิตสถาพร นายกสมาคมแฟรนไชส์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาครวมตลาดธุรกิจแฟรนไชส์ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยประมาณ 15-20% ในแต่ละปี เนื่องจากคนรุ่นใหม่มีแนวคิดอยากเป็นเจ้าของธุรกิจของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ แทนการเป็นพนักงานประจำ รวมถึงสถาบันการเงินต่างๆ มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินสำหรับผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่อยากลงทุนแฟรนไชส์ ช่วยกระตุ้นให้ธุรกิจแฟรนไชส์เติบโตต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม เมื่อลงไปรายละเอียดจะพบว่าการเติบโตของธุรกิจแฟรนไชส์ส่วนใหญ่จะเติบโตในภาคของผู้ซื้อแฟรนไชส์ หรือแฟรนไชซี ประมาณ 20% ส่วนเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ หรือแฟรนไชซอร์นั้น การเติบโตหรือมีผู้ประกอบการรายใหม่เพิ่มขึ้นไม่ถึง 10% สาเหตุสำคัญมาจากผู้ประกอบการแฟรนไชส์ส่วนใหญ่ยังขาดความพร้อม ไม่มีมาตรฐาน และความเข้าใจในการเป็นผู้ให้บริการธุรกิจแฟรนไชส์อย่างแท้จริง ดังนั้นจึงทำให้ตัวเลือกของผู้คิดจะลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์จึงมีค่อนข้างจำกัด ส่วนใหญ่จะมีเฉพาะแบรนด์เดิมๆ เท่านั้น

ดังนั้น ทางสมาคมฯ ได้ร่วมมือกับบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อ “เซเว่น อีเลฟเว่น” และธนาคารกสิกรไทย จัดทำโครงการอบรมสร้างระบบแฟรนไชส์ 20 ชั่วโมง โดยเป็นหลักสูตรเข้มข้น เผยแพร่ความรู้การสร้างระบบแฟรนไชส์ให้แก่เจ้าของกิจการที่ต้องการขยายธุรกิจตัวเองให้รูปแบบแฟรนไชส์ และผู้ที่มีความสนใจเรื่องแฟรนไชส์ทั่วไป

น.ส.สมจิตรกล่าวด้วยว่า โครงการดังกล่าวจะมาแล้ว 2 รุ่น และกำลังจะเปิดรุ่นที่ 3 ให้ผู้สนใจเข้ามาสมัคร คิดค่าบริการรายละ 3,000 บาท รับจำนวนประมาณ 60 ราย แต่หากมีความต้องการเกินจะเปิดรับเป็นรุ่นต่อๆ ไป ซึ่งการอบรมในรุ่นนี้ จัดในวันที่ 4/11/17/25 พ.ค. 56 ตามลำดับ

นายกสมาคมแฟรนไชส์กล่าวต่อว่า แนวโน้มธุรกิจแฟรนไชส์ในปีนี้ (2556) ยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยทั้งคนรุ่นใหม่ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจเพิ่มขึ้น ประกอบกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) จะเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยส่งออกธุรกิจแฟรนไชส์ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจากโครงการนี้ตั้งเป้าว่าจะช่วยเสริมศักยภาพให้แก่แฟรนไชส์ไทย และกระตุ้นให้เกิดการเติบโตของธุรกิจแฟรนไชส์ไทยรายใหม่อีก 5-7%

ด้าน น.ส.อนิษฐา ธนมิตต์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อ “เซเว่น อีเลฟเว่น” กล่าวว่า บริษัทฯ เข้ามาสนับสนุนในฐานะองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญและความพร้อมด้านธุรกิจแฟรนไชส์ โดยจะสนับสนุนทั้งวิทยากรในการถ่ายทอดความรู้การสร้างระบบแฟรนไชส์ สถานที่จัดอบรม การพาไปชมกิจกรรมแฟรนไชส์จริง เป็นต้น

ขณะที่นายพิภวัตว์ ภัทรนาวิก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า สำหรับธนาคารฯ เข้ามีบทบาทในโครงการนี้ในด้านสนับสนุนผลิตภัณฑ์การเงินที่เหมาะสมกับการทำธุรกิจแฟรนไชส์ เท่าที่ผ่านมาธนาคารฯ ได้ปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้ลงทุนซื้อแฟรนไชส์ หรือแฟรนไชส์ซี่ไปแล้วกว่า 600 ล้านบาท อีกทั้งจะส่งเสริมด้านให้ความรู้ในการบริหารการเงินอย่างเป็นระบบ นอกจากนั้น ธุรกิจแฟรนไชส์ซอร์ที่ผ่านโครงการฯ จะสามารถเข้ามาอยู่ในระบบชื่อธุรกิจแฟรนไชส์ซอร์ของธนาคาร ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งให้เจ้าของแฟรนไชส์มีโอกาสในการรับวงเงินสินเชื่อขยายธุรกิจได้เร็วยิ่งขึ้นด้วย

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *