xs
xsm
sm
md
lg

เนรมิต รง.กึ่งสำเร็จรูป “สยาม พี.ซี.เอส.” ขึ้นแท่นผู้นำก่อสร้างด้วยนวัตกรรม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสายชล บุญเกิด ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สยาม พี.ซี.เอส. จำกัด
โรงงานผลิตสินค้านับเป็นฟันเฟืองสำคัญให้ภาคธุรกิจเอสเอ็มอีเติบโตและก้าวไกล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวางรากฐานที่ดีเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ส่งผลให้ “ธุรกิจรับก่อสร้างอาคารโรงงานและออกแบบโรงงานกึ่งสำเร็จรูปและโรงงานขนาดใหญ่” อย่าง สยาม พี.ซี.เอส. เติบโตแบบก้าวกระโดดด้วยนวัตกรรม ไม่หวั่นค่าแรง 300 บาท พร้อมรับมือ AEC

นายสายชล บุญเกิด ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สยาม พี.ซี.เอส. จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านงานก่อสร้างอาคารโรงงานและงานออกแบบโรงงานกึ่งสำเร็จรูปและโรงงานขนาดใหญ่ เผยที่มาธุรกิจนี้ว่า เริ่มมาจากอาชีพรับออกแบบตกแต่งภายในของห้างสรรพสินค้า รวมถึงสำนักงานออฟฟิศต่างๆ ซึ่งล้วนเป็นงานละเอียด ต่อมาอีก 5 ปี ได้เข้าสู่วงการก่อสร้าง ประเดิมสร้างโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งถือเป็นการก้าวเข้าสู่วงการก่อสร้างอย่างเต็มตัว จนสั่งสมประสบการณ์ด้านนี้มาได้ระยะหนึ่ง เขาก็ได้รับโอกาสดีจากบริษัทข้ามชาติไว้วางใจให้ก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมในไทย 4 แห่ง ที่ต้องมีการคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากนักออกแบบระดับโลกจากประเทศออสเตรเลีย ทำให้เขาได้เปิดโลกทัศน์ด้านงานก่อสร้างตามแบบฉบับมาตรฐานสากล

ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านงานก่อสร้างอาคาร การออกแบบโรงงานกึ่งสำเร็จรูปและโรงงานขนาดใหญ่มากว่า 25 ปี ทำให้เขากลายเป็นผู้ประกอบการรายต้นๆ ของเมืองไทยที่ได้เปรียบในเรื่องการสร้างโรงงานกึ่งสำเร็จรูปให้แก่ภาคธุรกิจเอสเอ็มอี และโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วประเทศ ส่งผลให้ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าหลักเป็นชาวญี่ปุ่นที่มีฐานการผลิตในไทย

สำหรับความโดดเด่นการสร้างโรงงานกึ่งสำเร็จรูปของสยาม พี.ซี.เอส. คือการมอบความครบวงจรให้แก่ลูกค้าพร้อมวางเครื่องจักรเดินเครื่องการผลิตได้ทันที จากการควบรวมบริษัทใดเครือที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ บริษัท แฟคโกลว์ จำกัด (FAC GLOW) ดำเนินธุรกิจการออกแบบอาคาร งานก่อสร้างทุกชนิด บริษัท เทรดโกลว์ จำกัด (TRADE GLOW) ดำเนินธุรกิจด้านตัวแทนจำหน่าย ออกแบบและติดตั้งโครงสร้าง และบริษัท ฟลอร์โกลว์ จำกัด (FLOOR GLOW) ดำเนินธุรกิจด้านงานพื้นคอนกรีต บริษัท มีโกลว์ จำกัด (ME GLOW) ดำเนินธุรกิจด้านงานเครื่องกล งานไฟฟ้า และการสื่อสาร

“จากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในวงการก่อสร้างมายาวนาน ทำให้เรามีลูกค้าชาวต่างชาติจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่เป็นชาวญี่ปุ่นให้ก่อสร้างโรงงานได้ โดยที่ผ่านมามีโรงงานที่เราก่อสร้างให้ เช่น VALEO COMPRESSER (THAILAND) CO., LTD , PLAXEL GROUP CHUO THAI CABLE CO., LTD (CTC) KAWASAKI MOTOR ENTERPRISE (THAILAND) CO., LTD, SIAM HYDORLIC และ HP HEWLETT-PACKARD(THAILAND) CO., LTD โดยได้มีการนำนวัตกรรมการก่อสร้างเข้ามาช่วยให้งานประณีต ลดต้นทุนในแง่ค่าใช้จ่ายและเวลาลงไปได้มาก”

ล่าสุดได้นำนวัตกรรม FLOOR GLOW มาใช้ในการทำพื้นโรงงานให้เรียบ 100% จากการเทปูนที่มีการนำเหล็กบดละเอียดมาผสมกับปูน ซึ่งเป็นระบบคอนกรีตสตีลไฟเบอร์ ในขณะที่ขั้นตอนการเทปูนจะใช้เครื่องจักรระบบเลเซอร์เพื่อทำให้พื้นปูนเรียบ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญมากสำหรับอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งประเทศแถบยุโรปนำเทคโนโนโลยีดังกล่าวมาใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่สำหรับไทยมีเพียงบริษัท สยาม พี.ซี.เอส.เท่านั้นที่นำมาใช้

“ระบบต่างๆ ที่บริษัทมีให้บริการกับลูกค้านั้นจะช่วยทำให้ลูกค้าลดเวลาการทำงานไปได้ 30% และยังช่วยลดต้นทุนไปได้มากกว่า 15% ทำให้แม้ว่าการปรับค่าแรงงานขั้นต่ำขึ้นมา 300 บาทก็ไม่ได้ทำให้ต้นทุนของลูกค้าเพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิม ซึ่งหากลูกค้าใช้บริการก่อสร้างโรงงานกึ่งสำเร็จรูปของทางบริษัทจะทำให้ลูกค้าไม่ต้องกังวลต่อปัญหาเรื่องต้นทุน ขณะเดียวกันการก่อสร้างยังมีกำหนดการแล้วเสร็จที่แน่นอน แม้ว่าต้นทุนแรงงานและวัสดุก่อสร้างต่างๆ จะเพิ่มขึ้นก็ตาม”

จากการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในธุรกิจก่อสร้างถือเป็นความได้เปรียบในการขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งยังเป็นการสร้างการยอมรับมาตรฐานของบริษัทคนไทยในระดับสากล กับกลุ่มบริษัทต่างชาติทั้งยุโรป อเมริกา และเอเชีย รวมถึงการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ กำลังมองหาพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เวียดนาม มาเลเซีย เป็นต้น เพื่อทำการขยายธุรกิจ เพราะคาดว่าโรงงานกึ่งสำเร็จรูปต่อไปจะได้รับความนิยมและได้รับการยอมรับมากขึ้น และจะเกิดการไหลเวียนของแรงงาน พนักงานระดับต่างๆ รวมถึงระดับผู้บริหารด้วย ขณะที่ประเทศไทยต่อไปจะเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมรถยนต์ ทำให้ต้องมีการก่อสร้างโรงงานเพิ่มมากขึ้น โรงงานสำเร็จรูปจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นตามมาด้วยเพราะใช้ทักษะของแรงงานน้อยลง และจะเน้นไปยังระบบของเครื่องจักร ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้บริษัทฯ เติบโตได้อีกทางหนึ่ง

ส่วนเป้าหมายการดำเนินธุรกิจในปีนี้เชื่อว่าจะสามารถทำผลประกอบการได้เติบโต 100% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากการทำตลาดในเชิงรุก การเพิ่มเทคโนโลยีเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งบริษัทมีการลงทุนด้านเครื่องจักรเพิ่มขึ้น รวมถึงแนวโน้มการขยายตัวของโรงงานและกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ที่จะลงทุนเพิ่มในปีนี้ โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทมีผลประกอบการเติบโตได้ถึง 300% จากปี 2554 ส่วนปัญหาด้านการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาทนั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท เนื่องจากบริษัทมีการจ่ายค่าจ้างมากกว่า 300 บาทอยู่แล้ว
***สนใจติดต่อ 0-2745-8801-2, 0-2745-8815 หรือที่ www.siampcs.co.th***
กำลังโหลดความคิดเห็น