หลังจากหลายคนตื่นตัวหันมาให้ความสนใจเรื่องของสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จึงก่อให้เกิดแนวคิดสร้างอาชีพจากวัสดุรีไซเคิลสำหรับกลุ่มแม่บ้านที่ต้องการมีรายได้เสริมช่วยครอบครัว และหนึ่งในนั้นเป็นผลงานของ ชุมชนเทศบาลนครอุบลราชธานี ของ “อุไรรัตน์ รัตนมาลี” ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
สำหรับผลงานของชุมชนแห่งนี้มีความน่าสนใจ เพราะได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดสิ่งประดิษฐ์จากวัสดุรีไซเคิลในระดับจังหวัด ในการทำ “เสื้อจากถุงน้ำยาปรับผ้านุ่ม” และยังมีผลงานเทียนพรรษา ที่นำวัสดุรีไซเคิลอย่างกระป๋องน้ำอัดลม และวัสดุอื่นๆ มาประกอบตกแต่งทำเทียนพรรษา ซึ่งได้รับรางวัลในการประกวดวัสดุรีไซเคิลระดับจังหวัดเช่นกัน
อุไรรัตน์ เจ้าของผลงาน เล่าว่า ที่มาของแนวคิดในการนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้ เกิดมาจากเห็นว่าวัสดุ เช่น ถุงน้ำยาปรับผ้านุ่ม ไม่สามารถนำไปชั่งกิโลขายเหมือนกับขยะอื่นๆ สุดท้ายต้องนำไปเผาทิ้ง ซึ่งก่อให้เกิดมลพิษ จึงได้เกิดแนวคิดนำวัสดุที่ไม่สามารถชั่งกิโลขายมาลองประดิษฐ์เป็นของใช้และของแต่งบ้านดู โดยได้ความรู้จากการไปเรียนเพิ่มเติมที่วิทยาลัยสารพัดช่างที่จังหวัดอุบลราชธานี และประกอบกับตัวเองมีพื้นฐานชื่นชอบการทำงานประดิษฐ์อยู่แล้ว พอได้ไปเรียนเพิ่มเติมทำให้สามารถทำงานดังกล่าวออกมาได้
โดยผลงานที่ทำออกมาและสามารถขายได้อย่างต่อเนื่อง เป็นงานดอกไม้ประดิษฐ์จากผ้ากาบบัว ซึ่งเป็นผ้าประจำท้องถิ่นของจังหวัดอุบลราชธานี โดยทำขายให้นักท่องเที่ยว และกลุ่มชุมชนที่มาศึกษาดูงานที่เทศบาลฯ รวมถึงการออกร้านตามงานแสดงสินค้าในจังหวัดต่างๆ เนื่องจากสินค้าได้ขึ้นทะเบียนเป็นผลิตภัณฑ์โอทอป ดังนั้นเมื่อมีงานแสดงสินค้าโอทอป ทางจังหวัดจะให้เรานำผลิตภัณฑ์ไปร่วมออกร้านด้วย
อย่างไรก็ตาม ช่องทางการขายหลักอยู่ที่ร้านศูนย์โอทอปของเทศบาลฯ ในวัดสารพัดนึก เนื่องจากเป็นงานฝีมือทำให้ไม่สามารถขยายตลาดให้กว้างได้เพราะการทำงานแต่ละครั้งต้องใช้เวลา และปัจจุบันก็มีสมาชิกที่พอมีฝีมือ และมาทำงานร่วมกับทางกลุ่มเพียงแค่ 5 คน ซึ่งทำขายแค่ร้านในวัดสารพัดนึกเพื่อขายกลุ่มคนที่มาศึกษาดูงานก็ทำกันไม่ทันอยู่แล้ว โดยปัจจุบันรายได้ส่วนใหญ่มาจากดอกไม้ประดิษฐ์ เพราะมีความสวยงาม และการใช้ผ้ากาบบัวเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดอุบลฯ ซึ่งหาซื้อที่อื่นๆ ไม่ได้ ทำให้ลูกค้านิยมซื้อไปเป็นของขวัญ ของที่ระลึก มากกว่างานรีไซเคิลที่อาจจะมองว่าเป็นวัสดุเหลือใช้ เป็นสินค้าที่ใช้แล้ว จึงไม่กล้าซื้อไปใช้ แต่ส่วนใหญ่งานรีไซเคิลลูกค้าชื่นชอบในแนวคิด และฝีมือมากกว่า
ในส่วนของรายได้ ปัจจุบันสมาชิกในกลุ่มที่มาทำงานร่วมกัน จำนวน 5 คน มีรายได้ต่อเดือนตั้งแต่ 8,000 บาทขึ้นไป จนถึงหลักหมื่นบาท ส่วนยอดขายต่อเดือนประมาณ 120,000 บาท ถึง 150,000 บาท ขึ้นอยู่กับลูกค้าหลักของเรา คือ กลุ่มคนที่มาศึกษาดูงานมากน้อยแค่ไหน ส่วนราคาสินค้าเริ่มต้นที่ 50 บาท สำหรับกระเป๋ารีไซเคิลจากน้ำยาปรับผ้านุ่ม ส่วนเสื้อรีไซเคิลราคาตัวละ 600 บาท ผ้ากันเปื้อน และกระเป๋าใบใหญ่ราคา 199 บาท ดอกไม้ประดิษฐ์ราคา 199 บาทเช่นกัน
ทั้งนี้ เนื่องจากสินค้าของกลุ่มเป็นงานรีไซเคิล จึงได้ร่วมกับหน่วยงาน ทำโครงการธนาคารขยะขึ้นมาด้วย โดยรับซื้อขยะจากสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการในราคาเดียวกับท้องตลาด และรายได้จากการจำหน่ายขยะ นำมาแบ่งปันผลคืนกลับไปยังสมาชิก ส่วนขยะที่ไม่สามารถจำหน่ายได้นำกลับมาทำผลิตภัณฑ์ของใช้จำหน่ายให้คนที่สนใจต่อไป และเนื่องจากเป็นงานประดิษฐ์ ดังนั้น ทุกอย่างก็ต้องใช้ไอเดียที่จะทำสินค้ารูปแบบใหม่ออกมาอยู่เรื่อย เพียงแต่ว่าจะคิดว่าจะทำอะไร ถ้าผลงานออกมามีความคงทน สวยงามเช่นเดียวกับสินค้าที่ขายทั่วไป เชื่อว่า หลายคนก็คงต้องหันกลับมามองสินค้ารีไซเคิลกันบ้าง เพราะส่วนหนึ่งได้สินค้าราคาไม่แพง และได้มีส่วนในการช่วยดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมไปในตัวด้วย
ส่วนผู้ที่สนใจสินค้ารีไซเคิลของคุณอุไรรัตน์ หรือต้องการความรู้เกี่ยวกับการทำงานประดิษฐ์จากวัสดุรีไซเคิลสามารถติดต่อกลับไปได้ ซึ่งยินดีจะถ่ายทอดความรู้ และสอนการทำงานรีไซเคิลให้แก่ผู้สนใจต้องการมีอาชีพเสริมในแบบที่ไม่ต้องลงทุนมาก คุณอุไรรัตน์ ยังได้รับการสนับสนุน ด้านเงินลงทุนจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดยธนาคารยังได้ไปอบรมความรู้ หลักสูตรโปรแกรมระบบบัญชีบริหารสินค้าคงคลัง เพื่อช่วยในเรื่องของการทำบัญชี รายรับ รายจ่าย ต้นทุน กำไร จะได้นำมาเป็นหลักในการบริหารจัดการให้ประสบความสำเร็จต่อไป
โทร. 08-6258-3746
------------------