ถ้ากล่าวถึงงานเดคูพาจวันนี้คงจะไม่มีใครไม่รู้จัก โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบการทำงานฝีมือ เพราะขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยาก ทำให้หลายคนหันมาให้ความสนใจและนิยมทำงานเดคูพาจกันมาก และเดคูพาจนี้เองทำให้ผลิตภัณฑ์จักสาน งานฝีมือของชาวบ้าน กลับมาได้รับความนิยมอย่างมากอีกครั้ง เพราะเหล่าสาวๆ ที่ชื่นชอบการทำงานฝีมือก็ไปขนซื้อผลิตภัณฑ์จักสานทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานจักสานหวาย ผักตบชวา ใบลาน ไม้ไผ่ ปอ กระจูด ฯลฯ
และล่าสุดที่กำลังมาแรงก็ต้องยกให้กับงานจักสานเส้นพลาสติก เพราะด้วยราคาถูก และมีความคงทนกว่างานจักสานประเภทอื่นๆ ทำให้คนทำงานฝีมือเดคูพาจนิยมนำมาสร้างผลงานเดคูพาจจำหน่าย รวมไปถึงผลงานของ “กุนกาน วงศ์พรหม” เธออาศัยเวลาว่างจากการเป็นแม่บ้านดูแลลูก หันมาทำงานฝีมือเดคูพาจจำหน่าย ช่วยสามีหารายได้เสริมในยุคค่าครองชีพสูงขนาดนี้
กุนกานเล่าว่า ที่มาของการทำงานเดคูพาจเหมือนกับสาวๆ ทั่วไป คือ ชอบงานฝีมือ เมื่อลาออกจากงานประจำเพื่อมาดูแลลูกก็เริ่มมีเวลาว่าง ก็เลยเกิดความคิดว่าอยากหาอะไรทำ จากเดิมทำงานฝีมือไม่เป็น แต่พอมาเจองานเดคูพาจก็พบว่าเป็นงานฝีมือที่ทำไม่ยาก ซึ่งสามารถเรียนจากเจ้าของร้านขายอุปกรณ์ สอนเทคนิคการทำให้ หลังจากนั้นกลับมาฝึกฝน และคิดออกแบบดีไซน์ตามจินตนาการของตัวเอง วัสดุที่เลือกใช้มีเกือบทุกประเภท เรียกได้ว่าเขานิยมอะไรกันก็จะนำมาทำขาย อย่างล่าสุดนิยมตะกร้าพลาสติกก็ทำตะกร้าพลาสติก ในช่วงเริ่มต้นเมื่อประมาณ 6 เดือนที่ผ่านมานิยมทำหน้ากากโทรศัพท์ ก็ทำหน้ากากโทรศัพท์ขาย ส่วนผลิตภัณฑ์จักสานประเภทอื่นๆ เช่น ใบลาน ป่านศรนารายณ์ ผักตบชวา กล่องกระดาษไม้อัด ฯลฯ
สำหรับผลงานจะออกมาสวยขนาดไหนก็ต้องขึ้นอยู่กับฝีมือ และคุณภาพวัสดุอุปกรณ์ เนื่องจากกระดาษ และกาว ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการทำงานจะมีคุณภาพแตกต่างกัน ถ้าเป็นกระดาษคุณภาพดีหน่อยก็ต้องเป็นกระดาษที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น เยอรมนี หรือสหรัฐอเมริกา ราคาก็จะแพงกว่าสินค้าที่นำเข้าจากประเทศจีน ราคาแตกต่างกันมาก อย่างกระดาษนำเข้าจากจีนราคาแผ่นละ 15 บาท แต่กระดาษนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ราคาแผ่นละ 40 บาท
“การทำงานเดโคพาจหัวใจสำคัญอยู่ที่กระดาษ “แนปกิน” หรือกระดาษเช็ดปาก ที่ใช้บนโต๊ะอาหารตามโรงแรมหรูๆ นี่เอง แต่พอมาถึงยุคนี้กระดาษเช็ดปาก หรือกระดาษทิชชูที่ว่านี้ก็กลายมาเป็นงานศิลปะ ลักษณะเป็นเหมือนกระดาษทิชชู หรือกระดาษชำระทั่วไป แต่ต่างตรงที่มีขนาดใหญ่กว่า ขนาดที่ผลิตออกมาส่วนใหญ่จะมีขนาด 10 x 10 นิ้ว และ 13 x 13 นิ้ว มีลวดลายต่างๆ กันไป เช่น ดอกไม้, การ์ตูน, รูปวิวทิวทัศน์ ฯลฯ”
ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการจะทำงานเดคูพาจ ปัจจุบันหาซื้อกระดาษ และอุปกรณ์ได้ไม่ยาก เพราะมีขายทั่วไป และผู้ที่เคยทำงานเดคูพาจขายก็หันมาขายอุปกรณ์ควบคู่ไปด้วย เพราะคนบางกลุ่มชอบที่จะทำเอง ในแบบและลวดลายที่ตัวเองชื่นชอบ และประกอบกับมีการตัดราคากันเองในกลุ่มของผู้ทำงานเดคูพาจขาย ทำให้ต้องหันมาเน้นการสอนและขายอุปกรณ์ให้ลูกค้าไปทำเองมากกว่า
“สำหรับขั้นตอนการทำ เพียงแค่เตรียมวัสดุ หรือของใช้ที่เราต้องการทำลวดลาย และนำกาวมาทาให้ทั่ว และใช้ไดร์เป่าผมเป่าลมให้แห้ง เมื่อแห้งแล้วหลังจากนั้นนำกระดาษวางลายตามที่ต้องการ จะตัดลายตามต้องการ หรือผนึกทั้งแผ่นก็ได้ ซึ่งถ้าจะให้สวย ถ้าของใช้ชิ้นนั้นควรจะเป็นสีขาว ถ้าเป็นสีอื่นควรจะทาสีให้เป็นสีขาวก่อน ถึงจะทำลายออกมาสวย ส่วนวิธีผนึก ต้องเตรียมฟองน้ำชุบน้ำหมาด และนำมากดบนกระดาษแนปกินกดไปเรื่อยทั้งหมด เพราะน้ำในฟองน้ำจะซึมผ่านกระดาษโดนกาวจะทำให้กาวเหนียว เวลากดควรกางกระดาษให้ตึง เวลากดจะได้ไม่ยับ พอกดทั่วแล้วนำไปเป่าให้แห้งทาเคลือบบางๆ 3 รอบ แต่ละรอบต้องรอให้แห้งก่อน”
ในส่วนของใช้ที่นำมาทำเดคูพาจ เนื่องจากเดคูพาจสามารถทำได้ทุกวัสดุ แต่ปัจจุบันนิยมนำมาทำกับของใช้ประเภทตะกร้า กระเป๋า กล่อง หน้ากากโทรศัพท์ ฯลฯ ซึ่งเป็นอีกช่องทางหนึ่งให้กับพ่อค้า แม่ค้า หรือชาวบ้านที่ทำงานจักสานอยู่แล้ว สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นได้ โดยราคาขายของงานเดคูพาจจะตั้งราคาจากราคาวัสดุที่นำมาทำ บวกกับคุณภาพของงาน ถ้าฝีมือดี และใช้วัสดุที่ดี ราคาคิดเพิ่มขึ้นจากต้นทุนประมาณ 50% เช่น กระเป๋าใบลานราคาใบละ 150 บาท บวกค่าวัสดุอุปกรณ์เดคูพาจเข้าไปจะขายประมาณ 300-350 บาท เป็นต้น
กุนกานเล่าถึงช่องทางการขายว่า ปัจจุบันมีช่องทางการขายหลายช่องทาง แต่ที่พ่อค้า แม่ค้านิยมใช้กันก็คือการขายผ่านหน้าร้าน โดยการออกงานแสดงสินค้า หรือตามออฟฟิศสำนักงาน แหล่งชอปปิ้งของสาวๆ และการขายผ่านโลกออนไลน์ หรืออินเทอร์เน็ต แต่ส่วนใหญ่ลูกค้านิยมซื้อผ่านหน้าร้านมากกว่าเพราะเลือกจากการได้เห็นของจริง แต่สำหรับผลงานของตัวเองเลือกขายผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก เพราะโดยส่วนตัวเป็นคนชื่นชอบเทคโนโลยี และมีเวลาอยู่บนโลกออนไลน์วันหนึ่งหลายชั่วโมง และปัจจุบันการซื้อขายผ่านสังคมโซเชียลเน็ตเวิร์กก็กำลังได้รับความนิยม อย่างไรก็ตาม มีแผนที่จะเปิดหน้าร้านเพื่อให้ลูกค้าที่ต้องการชมสินค้าจริงได้เข้ามาชมได้
สำหรับในส่วนของยอดขายต่อเดือนไม่แน่นอน ส่วนใหญ่ลูกค้าจะมาจากการบอกกันแบบปากต่อปาก และคนรู้จักมาเห็นชิ้นงานชอบก็สั่งซื้อ ส่วนขายผ่านอินเทอร์เน็ตจะมีเข้ามาเรื่อย ยอดขายต่อเดือน ประมาณ 10,000 บาท ซึ่งที่ผ่านมาได้ลูกค้าเป็นชาวไต้หวัน เห็นสินค้าก็สนใจและสั่งซื้อไปจำนวนหนึ่ง และมีแผนจะรับสินค้าไปจำหน่ายแต่อยู่ในระหว่างการศึกษาตลาดในประเทศไต้หวัน และมีโครงการจะนำไปฝากเพื่อนขายที่ประเทศออสเตรเลียด้วย แต่ส่วนใหญ่งานประเภทนี้ลูกค้าเอเชียจะชอบมากกว่า
กุนกานบอกกับเราว่า แม้ว่าจะมีคนเข้ามาทำงานฝีมือประเภทนี้กันมาก แต่เชื่อว่ายังมีช่องว่างทางการตลาดให้แก่ผู้สนใจ เนื่องจากเริ่มทำตลาดมา 6 เดือน ก็มีลูกค้าให้ความสนใจกันมาก โดยเฉพาะผู้หญิงจะชื่นชอบเวลามีลายใหม่ รูปแบบใหม่ก็จะมาซื้อเพิ่ม ส่วนการแข่งขันถือว่าการแข่งขันมีสูงมาก แต่โดยส่วนตัวไม่ได้กลัวเรื่องการแข่งขันเพราะเป็นงานฝีมือ แต่ละคนไม่เท่ากัน และงานดีไซน์ ดังนั้น รูปแบบของแต่ละคนก็จะคิดทำออกมาไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับความชอบของลูกค้าว่าจะชอบลวดลายแบบไหน
โทร. 08-1647-5096 ,www.decoupage-design.com
