ส.อ.ท.เตรียมนัดรวมพลประธานสภาอุตสาหกรรม 70 จังหวัด ยื่นหนังสือร้องนายกฯ ปูชะลอขึ้นค่าแรง 300 บาท หลังกระทบธุรกิจเอสเอ็มอีหนัก ซ้ำร้ายรัฐฯ ไม่ยื่นมือช่วยจ่ายเงินชดเชย
นายทวีกิจ จตุรเจริญคุณ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการสายงานอุตสาหกรรมจังหวัดว่า ในวันที่ 30 ต.ค. 2555 ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดทั้ง 70 จังหวัดได้นัดรวมตัวเพื่อเตรียมยื่นหนังสือและขอเข้าพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เกี่ยวกับนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทในวันที่ 1 ม.ค. 2556 เพื่อยืนยันว่าผู้ประกอบการได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง และไม่ได้เห็นด้วยกับที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ที่นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธาน ส.อ.ท. ระบุว่าเอกชนไม่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นค่าแรง และขอถอนเรื่องออก โดยอ้างว่าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ขอยกวาระออกไปหารือนอกรอบ
“ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์นี้คาดว่ากระทรวงแรงงานจะเสนอวาระการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทให้ที่ประชุมเห็นชอบ ดังนั้นภาคเอกชนจึงต้องเข้าไปชี้แจงกับนายกฯ เพื่อทบทวนเรื่องนี้ และหากนายพยุงศักดิ์ไม่เห็นด้วยที่จะให้เสนอวาระดังกล่าวเข้าที่ประชุมอีก ก็ต้องถามนายพยุงศักดิ์ว่าจะยังเป็นผู้นำของภาคเอกชนต่อไปได้หรือไม่” นายทวีกิจกล่าว
ทั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดทั้ง 70 แห่งต้องการให้นายกฯ รับทราบความเดือดร้อนด้วยตนเอง และหามาตรการช่วยเหลือ ชดเชย เยียวยา เช่นเดียวกับนโยบายอุดหนุนราคาสินค้าเกษตร เช่น นโยบายรับจำนำข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา เพราะภาคอุตสาหกรรมก็มีความสำคัญ ดังนั้นอาจออกมาตรการช่วยในระยะแรก เช่น จ่ายค่าแรงส่วนต่างให้แก่ภาคเอกชนเพื่อลดผลกระทบ โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี ที่มีสัดส่วนถึง 90% ของผู้ประกอบการทั้งประเทศยังไม่มีความพร้อมที่จะปรับขึ้นค่าแรง แต่ปัจจุบันที่ยังเปิดกิจการอยู่ได้เพราะพยายามประคองกิจการในลักษณะหลังชนฝา
รายงานข่าวจาก ส.อ.ท.เปิดเผยว่า ประธานอุตสาหกรรมจังหวัดไม่พอใจอย่างมากที่ไม่มีการเสนอให้ทบทวนการขึ้นค่าแรง 300 บาทในที่ประชุม กรอ.ที่เกาะสมุย ทั้งที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) แต่ทราบว่ามีการดึงเรื่องออกก่อนประชุม 2 ชั่วโมง โดยอ้างว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จำเป็นต้องหารือนอกรอบ ซึ่ง สศช.ได้สอบถามความเห็นนายพยุงศักดิ์ และนายพยุงศักดิ์ก็เห็นด้วย แต่ความเห็นนั้นไม่ได้เป็นความเห็นของสมาชิกส่วนใหญ่ จึงไม่เข้าใจว่านายพยุงศักดิ์เป็นตัวแทนของภาคเอกชน หรือตัวแทนของรัฐบาล
สำหรับข้อเสนอที่เตรียมเสนอต่อนายฯ ได้แก่ 1. ต้องการให้รัฐบาลคงอัตราค่าจ้างขั้นต่ำไว้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2558 และหากเศรษฐกิจผันผวนรุนแรงจนกระทบต่อค่าครองชีพของลูกจ้าง คณะกรรมการค่าจ้างสามารถพิจารณาทบทวนได้ตามความเหมาะสม 2. ต้องการให้มติการขึ้นค่าจ้างปราศจากการแทรกแซงทางการเมือง 3. ลูกจ้างต้องจบการศึกษาขั้นต่ำ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีใบประกาศหรือเอกสารรับรอง 4. หลังวันที่ 31 ธ.ค. 2558 ให้ยกเลิกค่าจ้างขั้นต่ำและปล่อยลอยตัวตามกลไกตลาด 5. รัฐบาลต้องมีโครงการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการอย่างเป็นรูปธรรม