“ข้าวราชินี” หลายคนคงเคยได้ยินและทดลองชิมมาบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีคนไทยอีกมากที่ไม่เคยแม้แต่ได้ยินชื่อ ทั้งๆ ที่คือข้าวพันธุ์สังข์หยดราชินีข้าวแห่งภาคใต้ และเป็นข้าวเพียงสายพันธุ์เดียวและสายพันธุ์ของโลกที่ได้รับการรับรองให้เป็นพืชบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ เมื่อปี 2546 ในชื่อ “ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง” ทำให้คนรุ่นใหม่เห็นคุณค่าจับใส่แพกเกจสร้างแบรนด์ หวังช่วยเกษตรกรขยายตลาดภายใต้ชื่อ “ริชชี่ ไรซ์”
กนิดา เสนีย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ริชชี่ ไรซ์ โปรดักส์ จำกัด เล่าว่า ด้วยความบังเอิญที่คุณแม่เป็นอาจารย์อาชีวะ และทำงานในส่วนของการพัฒนาจังหวัดต้องลงพื้นที่ดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าวด้วย ซึ่งก็พบปัญหาของชาวบ้านที่มีความเชี่ยวชาญในการปลูกข้าวแต่ขาดความรู้ด้านการตลาด จึงให้กนิดามาช่วยเหลือ โดยช่วงแรกให้ช่วยติดต่อประสานงานในแง่การออกบูทในระดับประเทศ นำร่องงาน Thaifex หรืองานแสดงสินค้าและอาหารระดับโลก ปรากฏว่าผลิตภัณฑ์ข้าวสังข์หยดได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก เพราะเป็นข้าวพันธุ์ของโลกที่ได้รับการรับรองให้เป็น “พืชบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์” หรือข้าวจีไอ (Geographical Indication) ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ พ.ศ. 2546 ในชื่อ “ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง”
แต่เมื่อบอกว่าเป็นสินค้าของเกษตรกร ทำให้ต่างชาติไม่สามารถเจรจาซื้อขายสินค้าได้ เนื่องจากไม่มีใบรับรองมาตรฐานสากล ไม่มีตราสินค้า รวมถึงไม่มีแพกเกจที่สามารถรักษาคุณภาพสินค้าให้สดใหม่ได้ จากจุดนี้เองทำให้กนิดาตัดสินใจช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเต็มที่แบบครบวงจร เริ่มต้นจากการจดทะเบียนบริษัท สร้างแบรนด์ “ริชชี่ ไรซ์” รวมถึงเข้าร่วมเป็นหนึ่งในสมาชิกกับเกษตรกรเพื่อช่วยกระจายสินค้า และขยายตลาด ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับกลุ่มชาวบ้าน ลักษณะธุรกิจจึงไม่ได้เป็นเอกชนเต็มรูปแบบ แต่เน้นทำให้ชุมชนเข้มแข็งมากกว่า โดยเริ่มตั้งแต่การปลูก แปรรูป และการจำหน่ายที่เกษตรกรมีส่วนร่วมในการกำหนดราคา
“การที่เราตัดสินใจทำงานด้านนี้อย่างเต็มตัวเพราะต้องการช่วยชาวบ้านอย่างแท้จริง รวมถึงกระบวนการปลูกข้าวสังข์หยดค่อนข้างมีรายละเอียดมาก เช่น เกษตรกรต้องขึ้นทะเบียนเป็นผู้ปลูกข้าวกับเกษตรจังหวัด พร้อมรับเมล็ดพันธุ์ข้าวกับศูนย์วิจัยข้าว หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบคุณภาพดินเพื่อให้ทราบว่าข้าวสังข์หยดที่ได้จากเกษตรกรมาจากที่ดินแปลงใด และของใคร นอกจากนี้ การปลูกข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุงสามารถปลูกได้เพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น ในช่วงเดือน ก.ย.-ก.พ. ประมาณ 5 เดือนจึงได้ผลผลิต ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่น้ำมีความสมบูรณ์ที่สุด ดังนั้นเพื่อให้เกษตรกรได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ เราจึงต้องให้ความรู้ในการด้านการปลูกข้าวพันธุ์นี้ด้วย โดยได้นำผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้แก่เกษตรกรอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการปลูกฝังลูกหลานให้เห็นคุณค่าข้าวสังข์หยดเพื่อการสืบสานผลิตภัณฑ์ข้าวไทยต่อไป”
อนาคตทางบริษัทฯ มีแผนร่วมมือกับชาวบ้านพัฒนาข้าวสังข์หยดให้เป็นข้าวออร์แกนิก โดยที่ผ่านมาได้มีหน่วยงานจากหลายฝ่ายเข้ามาให้ความช่วยเหลือ เช่น ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน หมอดินช่วยสอนการทำปุ๋ยหมักจากธรรมชาติ ทำให้มีที่ดินบางแปลงถูกปรับให้เป็นพื้นที่สำหรับปลูกข้าวออร์แกนิก เนื่องจากทุกขั้นตอนต้องใช้เวลาในการเตรียมดิน ปรับพื้นที่ เพื่อให้ปลอดสารเคมี 100%
ปัจจุบันริชชี่ ไรซ์ ได้นำข้าวสังข์หยดมาแปรรูปเป็นเครื่องดื่มชนิดผงผสมน้ำอุ่นชงดื่มได้ทันที สรรพคุณช่วยลดน้ำตาลในเลือด ส่วนข้าวสังข์หยดของริชชี่ ไรซ์ แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ ข้าวซ้อมมือ และข้าวกล้อง (ขัดสีเล็กน้อย) ซึ่งข้าวสังข์หยดจะเป็นข้าวที่มีสารกาบา (GABA) สูงมาก ช่วยในเรื่องระบบประสาท ให้นอนหลับสบาย และช่วยแก้โรคเหน็บชาได้เป็นอย่างดี โดยราคาข้าวอยู่ที่ 85 บาท/กิโลกรัม ซึ่งจะสูงกว่าราคาข้าวในตลาดทั่วไปเล็กน้อย เนื่องจากกำลังการผลิตในแต่ละปีจะไม่มากนัก คือไม่เกิน 1,000 ตัน/ปี (จ.พัทลุง)
สำหรับผู้สนใจทดลองชิมข้าวราชินี ที่เป็นข้าวไทยสายพันธุ์แรกที่มีการรับรองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์รายแรกของโลก หาซื้อได้ที่โมเดิร์นเทรดชั้นนำ ได้แก่ The Mall ทุกสาขา, Emporium, สยามพารากอน, วิลล่า มาร์เก็ต, โกลเด้น เพลส, K-Village และแม็คโคร, เทสโก้ โลตัส (บางสาขา) หรือโทร. 08-0599-7844, 07-4611-703 หรือ ที่www.richyrice.com
รู้จักข้าวราชินี สังข์หยดเมืองพัทลุง |
ข้าวสังข์หยด มีต้นกำเนิดที่จังหวัดพัทลุง โดยกรมการข้าวได้ขึ้นทะเบียน 'ข้าวสังข์หยด Locality No. ที่ 81' เมื่อ พ.ศ.2495-2496 เป็นข้าวที่มีเยื่อหุ้มเมล็ดสีขาวปนแดงจางๆ จนถึงแดงเข้มในเมล็ดเดียวกัน เมื่อหุงสุกจะเหนียวนุ่ม มีโปรตีนและวิตามินสูง มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ จำพวก Oryanol และมี Gamma Amino Butyric Acid ช่วยลดอัตราเสี่ยงโรคมะเร็งและรักษาโรคเหน็บชาได้เป็นอย่างดี ในแต่ละปีโดยเฉลี่ยเกษตรกรปลูกข้าวสังข์หยดได้ประมาณ 15,000 ไร่ ผลผลิตไร่ละ 450-500 กิโลกรัม มีเกษตรกรเข้าร่วมทั้งสิ้น 19 กลุ่ม จำนวน 371 ราย จากอำเภอเมืองพัทลุง ปากพะยูน เขาชัยสน ควนขนุน และบางแก้ว จะได้ผลผลิตไม่ต่ำกว่า 1,000 ตัน ข้าวเปลือกมีมูลค่าถึง 10 ล้านบาท ทั้งนี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชดำริ เมื่อปี พ.ศ. 2543 ให้จัดทำโครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริฯ จังหวัดพัทลุง ศูนย์วิจัยข้าวพัทลุงนำไปดำเนินการและได้ถวายข้าวสังข์หยดแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2546 ทรงรับสั่งว่า "อร่อย" ทรงโปรดให้นำข้าวสังข์หยดนำมาปลูกใหม่ เพื่อเผยแพร่และรักษาพันธุ์ข้าว |