คอลัมน์ ยักษ์เล็กขึ้นชก โดย กัณฑ์พัฒน วงศ์ศิริกุล เอสเอ็มอีธุรกิจเทียนแฟนซี แบรนด์ BECRAFTS
แฟนๆ ครับ ความจริงมีอีกหลายหัวข้อที่จะเล่าให้ฟัง แต่ช่วงปลายปีงานจะเยอะ และต้องเดินทางบ่อย
ผมขอโดดงานเขียนซัก 1 เดือนนะครับ เสร็จภารกิจแล้ว จะรีบกลับมารับใช้แฟนๆ
เลยขอโดดเข้าตอนสุดท้ายเลย ส่วนตอนกลางเด็ด และตอนท้ายแบบอย่าพลาด จะมาเล่าต่อเดือนหลัง
เข้าเรื่องนะครับ .. ถ้าตอนนี้คุณได้ออร์เดอร์จากลูกค้าแล้ว
เท่ากับคุณได้ผ่านด่านยากที่สุดแล้ว แต่..แต่ยังไม่จบกระบวนการ เพราะส่งออกไม่ใช่แต่เพียงว่าผลิตเสร็จแล้วคุณจะเอาสินค้าใส่ท้ายรถคุณไป แล้วโทรบอกลูกค้าว่าจะไปส่งให้พรุ่งนี้ หรือไปส่งให้ลูกค้าได้เลย
ส่งของออกนอกเนี่ยดูเหมือนลิเก จะทำอะไรต้องมีการออกโรงก่อน ต้องเกริ่นเรื่องก่อนทุกครั้งถึงจะทำอะไรได้
เช่น กำหนดส่งสินค้าคุณวันที่ 15 ตุลาคม คุณต้องแจ้งลูกค้าและบริษัทบริหารขนส่งระหว่างประเทศ(Forwarder) ของลูกค้าล่วงหน้า 15 วัน
แล้วหากสินค้าคุณผลิตเสร็จก่อนกำหนดส่งสินค้า 10 วัน จะขอส่งก่อนก็ไม่ได้นะครับ ต้องส่งวันที่เค้ากำหนดส่งเท่านั้น ซึ่งจะมักมีวันเวลากำหนดที่แน่นอน จะส่งก่อนก็ไม่ได้ จะส่งหลังกำหนดก็เสียค่าปรับ
แล้วรถที่จะไปส่งสินค้าเนี่ยก็สำคัญไม่แพ้กัน ไม่ใช่ว่าบ้านคุณมีรถกระบะ แล้วคุณก็เอาสินค้าใส่ท้ายกระบะแล้ว เอาผ้าใบคลุมแล้วไปส่งของเองได้เลยนะครับ เพราะที่แวร์เฮาส์ (Warehouse) หรือที่เราเรียกว่าโกดังเก็บสินค้าสินค้าระหว่างประเทศเนี่ย ถ้าเจ้าหน้าที่แวร์เฮาส์ตอนรับสินค้า ตรวจพบว่ากล่องสินค้าคุณชำรุดหรือบกพร่อง ไม่ได้มาตรฐาน เช่น กล่องฉีกขาดเพราะตอนยกกล่องเกี่ยวเข้ากับมุมแหลมของรถ หรือถ้าเป็นหน้าฝนอย่างตอนนี้ กล่องอาจจะบวมจากละอองน้ำ เค้าก็จะไม่รับเช่นกัน
เค้าจะให้คุณเอากล่องใหม่มาเปลี่ยนให้ เค้าถึงจะรับสินค้าคุณทั้งชุด คุณก็จะต้องรีบวิ่งแจ้นนำกล่องใหม่ไปเปลี่ยนให้เค้า ถ้ากล่องคุณไม่มีจริงๆ เค้าก็จะตัดรายการนั้นออกไป ของคุณก็จะไม่ครบตามรายการ คุณก็จะต้องทำอินวอย์ใหม่มาให้เค้าแทน
อันนี้เบาะๆ นะครับ ใช้ได้กับเทอมการค้าแบบ T/T (Wire Transfer) หรือประมาณว่าโอนเงินผ่านธนาคารเท่านั้นนะครับ แต่ถ้าเป็นเทอม แอลซี L/C (Letter of Credit) ก็จะไม่ได้ เพราะเทอมแอลซีนี้สินค้าและรายละเอียดต้องตรงกันทุกประการกับเงื่อนไขในแอลซี
ตัวอย่างเช่น ในแอลซี มักจะระบุว่าสินค้ามีจำนวนเท่าไหร่ และจำนวนเงิน และหากสาระสำคัญของสินค้า คือจำนวนสินค้าขาดแม้เพียงชิ้นเดียว ซึ่งทำให้เอกสารส่งสินค้าไม่ตรงกับรายละเอียดที่ระบุใน L/C คุณก็จะไม่สามารถเบิกเงินได้แม้แต่บาทเดียว
และการขายด้วยเงื่อนไขแอลซีนั้น นอกจากสาระสำคัญของการไม่ได้เงินทั้งก้อนนั้น ก็ยังมีโอกาสเสียเล็กเสียน้อย จากการทำผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เช่น
สมมุติว่าสินค้าคุณส่งครบตามจำนวน กล่องส่งสินค้าสภาพดี เอกสารส่งออกถูกต้อง ... คุณอาจยังคงเสียเงินเล็กๆ น้อยๆ แบบปลาตายน้ำตื้น เช่นการสะกดคำผิด อย่างเช่น ชื่อบริษัทผมคือ “Becrafts” แล้วเจ้าหน้าที่ของเราพิมพ์คำว่า Becraft ซึ่งตกตัว “ S” ไปเท่านั้น เราอาจถูกธนาคารปรับจุดละ 40-50 เหรียญนะครับ หากมีที่ผิดพลาด ประมาณคล้ายๆ อย่างนี้ ซัก 10 จุด ก็เท่ากับเราถูกธนาคารปรับ 400 เหรียญ หรือ 12,000 บาท เชียวนะครับ
และโดยเฉพาะมือใหม่หัดส่งออก ให้ระวังดีนะครับ ขนาดผมก่อนทำส่งออก เคยทำอาชีพเป็นไกด์ 6-7 ปี เดินทางต่างประเทศบ่อยๆ ใช้ภาษาอังกฤษตลอดยังเกือบพลาดเลย โชคดีมีเพื่อนรุ่นพี่เป็นนายธนาคารดูแลเรื่องเอกสารส่งออกโดยเฉพาะให้คำปรึกษาถึงรอดมาได้ สาเหตุก็คือ คนไทยเราจะไม่ค่อยชอบเรื่องเอกสาร ไม่ชอบภาษาอังกฤษ แต่แอลซีนะเป็นเอกสารภาษาอังกฤษ พิมพ์ติดกันเป็นแถวเลย ยาวทีละ 3-4 หน้ากระดาษ แถมมีคำศัพท์เฉพาะที่ไม่เคยได้ยิน อ่านออกแต่แปลความหมายไม่ได้ ถึงแม้จะใช้ดิกชันนารี่ช่วยก็ตาม เพราะเป็นศัพท์เฉพาะทางการค้า ศัพท์ทางธนาคาร ศัพท์การชำระเงินระหว่างประเทศ แต่ของพวกนี้เรียนรู้กันได้ครับ
แล้วเจ้าแอลซี เนี่ยมันวุ่นวาย ยากถึงยากมาก แล้วจะขายเทอมแอลซีไปทำไม
L/C หรือ Letter of credit นั้น แปลว่า เอกสารยืนยันจากธนาคารว่า หากผู้ขายผลิตสินค้าตรงตามข้อกำหนดที่ระบุในแอลซีทุกประการแล้ว ทั้งจำนวนสินค้า ราคา จำนวนเงิน และวันที่ส่งสินค้า พร้อมส่งสินค้าเรียบร้อยแล้ว พร้อมความถูกต้องในเงื่อนไขอื่นที่ระบุในแอลซีไว้ ธนาคารจะเป็นผู้จ่ายเงินอย่างครบถ้วนให้กับโรงงานตามที่ระบุไว้ในแอลซี โดยที่ผู้ซื้อไม่สามารถเลื่อนการรับสินค้าหรือบอกเลิกการสั่งซื้อหรือปฏิเสธการชำระเงินได้
แอลซี สำคัญตรงนี้แหละครับ เช่นเทอมการค้าอื่น หากสินค้าที่ลูกค้าสั่งไปแล้ว ลูกค้าเกิดอยากลดจำนวนสินค้าลง เพราะเศรษฐกิจของประเทศลูกค้าไม่ดีขอลดจำนวนเราลง แต่เราผลิตเสร็จหมดแล้ว หากเราไม่โอเคจะส่งลูกค้าทั้งหมด ลูกค้าก็อาจจะแกล้งงอแง ขอเลื่อนส่งไปอีกนานๆ แล้วเราก็ต้องเก็บสต๊อคเป็นภาระเราเพิ่มอีก หากเรายอมลูกค้าส่งไปบางส่วนก่อน ส่วนที่เหลือเราก็ต้องเก็บสต๊อคอีก แต่แอลซีไม่ใช่ เราส่งของทั้งหมด พร้อมขอรับเงินจากธนาคารได้ทันที
ขายเป็นแอลซี เหนื่อยต้องแม่นยำ และลงรายละเอียดงานตลอด แต่เก็บเงินได้แน่นอน
แล้วแอลซีเนี่ย บางครั้งปรึกษาธนาคาร บางธนาคารยังให้ความกระจ่างไม่ได้เลย คือยิ่งถามแล้วยิ่งงง แต่ความผิดพลาดตกกับเรานะครับ ระวังด้วยนะครับ อย่าตกม้าตายตอนจบ
ขายเป็น T/T (แบบโอนเงิน) สบายเรื่องเอกสาร ยืดหยุ่นเรื่องการส่งมอบสินค้า แต่ความเสี่ยงอยู่ที่ผู้ขาย .. ระวังนะครับอย่าประมาทว่าลูกค้าที่เราขายด้วยเป็นบริษัทมีชื่อเสียง ยักษ์ใหญ่ .. ยักษ์ตัวใหญ่ๆ ล้มดังนะครับ ปลาซิวปลาสร้อยอย่างเราจะเดือดร้อนไปด้วย
แต่ความเสี่ยงเราก็ควบคุมได้หากเรารู้ข้อมูล มีการรู้ประวัติบริษัทดีนอกเหนือจากที่ลูกค้าโฆษณาตัวเอง รู้ประวัติการชำระเงินระหว่างประเทศ (เครดิตบูโร) ของพวกเนี่ยหาได้หมดครับ
จริงๆแล้วเรื่องส่งออกเนี่ยหากต้องการแบบไม่พลาดหรือพลาดน้อย ต้องเรียนกันเป็นคอร์ส อย่างน้อย 3-6 เดือน ต้องมีการซักถามโต้ตอบ ยกตัวอย่าง เห็นเอกสารจริงๆ และจากผู้รู้จริงๆ ไม่ใช่พวกท่องตำรานะครับ รวมถึงตำราหนาๆ หลายๆ เล่ม
.... ถ้าผมได้มีโอกาสอยู่เมืองไทยนานๆ ก็จะเปิดคอร์สให้เรียนรู้กัน จะได้รู้เคล็ดลับ และข้อควรระวังที่หนังสือส่วนมากไม่ได้สอน
.... ถ้าไม่อยู่เมืองไทย ก็อาจจะเขียนคู่มือแบ่งเป็นตอนๆ จะได้ลงรายละเอียดให้เต็มที่ มีตัวอย่างให้เห็น มีภาพประกอบ จะได้พกเป็นคู่มือเฉพาะเรื่อง จะทำเรื่องอะไรก็หยิบเรื่องนั้นขึ้นมาอ่าน และมี Check list หรือหัวข้อให้ตรวจสอบว่าอย่าลืมอะไรบ้าง
ถ้าทำได้นะครับ ผมอยากเขียนความรู้ที่มีให้อ่านกัน.. ที่ผมอยากทำก็เพราะว่า วันนี้ผมอ่านข่าวว่า ในปี คศ.2050 ประเทศเหล่านี้จะเป็นประเทศที่มีรายได้เฉลี่ยมากที่สุดในโลก คือ สิงค์โปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน และเกาหลีใต้
http://www.voathai.com/archive/business/latest/1821/1822.html
ชื่อประเทศเหล่านี้ ต่างเป็นผู้ส่งออกทั้งสิ้น บางประเทศไม่มีสินค้าเป็นของตนเอง มาซื้อจากไทย ซื้อจากจีนไปขายต่อ
พวกเราช่วยกันหาของจากโอทอปทั้งหลายไปขาย เพราะผู้ผลิตโอทอปของเรา เรื่องภาษาและการใช้อีเมล์ไม่คล่อง คุณก็ไปเสริมเค้า พึ่งพาสินค้าจากโอทอป แล้วโอทอปพึ่งพาคุณเรื่องติดต่อธุรกิจ
มีแฟนๆ บางท่านติดต่อเข้ามาขอเป็นตัวแทนจำหน่ายให้ผม หรืออยากนำสินค้าไปจำหน่าย แบบว่าขายของได้ชัวร์และไม่มีปัญหาเวลาส่งของ แถมด้วยพี่เลี้ยงส่งออก .. ผมขอเวลาอีกอาทิย์นะครับ.. ผมกำลังออกแบบธุรกิจใกล้เสร็จแล้ว จะได้ช่วยๆกันขายแข่งกับประเทศอื่น
ประเทศไทยจะได้มีชื่อติดตารางคนมีรายได้มากที่สุดกับเค้าด้วย .. ถึงแม้ห้อยท้ายก็ยังดีครับ
เส้นทางหมื่นลี้ ความสำเร็จ เริ่มต้นที่ก้าวแรก
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@