“ก.พาณิชย์” เรียกประชุมทูตพาณิชย์ทั่วโลกรับวิกฤตเศรษฐกิจยุโรป มอบนโยบายเร่งผลักดันเป้าส่งออกสิ้นปีนี้โต 15% มูลค่าส่งออก 2.4 หมื่นล้านเหรียญประจำทุกเดือน อีกทั้ง จัดโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพื่อผลักดันให้เข้ามามีส่วนร่วมขยายการส่งออกไทย
นายภูมิ สาระผล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากที่กรมส่งเสริมการส่งออกได้จัดประชุมทูตพาณิชย์ หรือหัวหน้าสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ 65 แห่งทั่วโลก โดยได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์เร่งผลักดันการส่งออกให้ได้ตามเป้าหมาย 15% หรือ 2.63 แสนล้านเหรียญสหรัฐ โดยเน้นให้ส่งเสริมและสนับสนุนการส่งออกสินค้าและบริการ การสร้างเครือข่ายพันธมิตร การหาตลาดใหม่ และการหาตลาดใหม่ในตลาดเดิม เป็นต้น ซึ่งในช่วง 8 เดือนนับจากเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไปต้องเร่งทำการค้าให้ขยายตัวเฉลี่ยเดือนละ 20% หรือส่งออกเฉลี่ยราวเดือนละ 24,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
นายภูมิระบุด้วยว่า จากสถานการณ์เศรษฐกิจยุโรป ซึ่งส่งสัญญาณตกต่ำมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ทางกรมฯ จึงพยายามจัดฝึกอบรมและพัฒนาผู้ประกอบการของไทย รวมถึงกำหนดแผนงานบุกเจาะตลาดอย่างรัดกุม และต้องมีแผนพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าไทยควบคู่กันไปด้วย ซึ่งในปีนี้มีถึงกว่า 10 โครงการหลัก โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการของไทย โดยเฉพาะพัฒนาเอสเอ็มอีให้เข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นพลังผลักดันยอดการส่งออกให้เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ ทูตพาณิชย์จะกลับไปปรับปรุงแผนงานเพื่อหาวิธีการ หรือลู่ทางการค้าใหม่ๆ ในการเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม เช่น ฮาลาล ออร์แกนิก รักสุขภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นต้น หรือ เจาะตลาดเป็นรายประเทศ ซึ่งในช่วง 4 เดือนแรก (ม.ค.-เม.ย. 55) ของปีนี้มีศักยภาพขยายตัวเป็นที่น่าพอใจ เช่น อาเซียนขยายตัว 8.6% คิดเป็นมูลค่า 18,359 ล้านเหรียญสหรัฐ จีน 4.9% มูลค่า 8,550 ล้านเหรียญสหรัฐ ละตินอเมริกา 14.3% มูลค่า 2,450 ล้านเหรียญสหรัฐ แอฟริกา 8.4% มูลค่า 2,407 ล้านเหรียญสหรัฐ อินเดีย 2.5% มูลค่า 1,779 ล้านเหรียญสหรัฐ เกาหลีใต้ 4.5% มูลค่า 1,615 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นต้น
สำหรับโครงการสำคัญที่จะเร่งดำเนินการ เช่น การสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าเพื่อการส่งออก ด้วยการคัดเลือกนักออกแบบแฟชั่น 40 แบรนด์ไทย เพื่อพัฒนาศักยภาพการออกแบบและการสร้างแบรนด์ไทยสู่เวทีสากล การพัฒนาและสร้างสินค้าโอทอปสู่ตลาดโลก (77 สินค้าจากรากหญ้าสู่สากล) การลดต้นทุนลอจิสติกส์ของผู้ประกอบการแต่ละปีไม่น้อยกว่า 1% ของจีดีพีใน 5 ปี (2555-2559) หรือ 0.2% ของจีดีพี หรือคิดเป็นมูลค่า 18,000 ล้านบาทต่อปี การเจาะตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) การส่งเสริมการขยายตลาดและการดำเนินธุรกิจในเออีซี เช่น จัดงานแสดงสินค้าไทยแลนด์เทรดโชว์ เป็นต้น
