จากผู้ค้าส่งสินค้าเกษตรเพื่อนำไปให้แม่ค้าจำหน่ายต่อตามตลาดมานานกว่า 20 ปี เมื่อส่งไม้ต่อให้แก่ทายาทธุรกิจรุ่นลูกสานกิจการต่อด้วยแนวคิดการพัฒนาสินค้าตั้งแต่ต้นน้ำ ลงพื้นที่สร้างความรู้ต้นแบบเกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์ จนได้ผลิตผลคุณภาพยกระดับสินค้าเกษตรขึ้นห้างจากการแปรรูปเป็นไอศกรีมโฮมเมดและผักสลัด กับร้าน “Farm to Table” เติมเต็มธุรกิจครอบครัวครบวงจร
ปฏิเสธไม่ได้ว่าสินค้าเกษตรอินทรีย์กำลังเป็นที่จับจ้องของใครหลายๆ คนที่ขอเกาะกระแสคนรักสุขภาพเพื่อเข้าสู่เส้นทางการดำเนินธุรกิจด้านนี้ แต่สำหรับครอบครัว “เจียรรุ่งแสง” ผู้ก่อตั้ง บริษัท คิงส์แค็ปเบจ จำกัด อาศัยความได้เปรียบจากการคลุกคลีในแวดวงของพืช ผัก มานานกว่า 20 ปี ทั้งจัดหาผลผลิตให้แก่โรงงานแปรรูปผัก ผลไม้ และจัดส่งไปตามแหล่งกระจายสินค้าประเภทพืช ผัก เพื่อให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้านำไปจำหน่ายปลีกอีกทอดหนึ่ง ทำให้รู้แหล่งปลูก จำหน่าย และขายส่ง เป็นอย่างดี
จนกระทั่งมาถึงรุ่นลูกที่ต้องสานต่อธุรกิจ มองเห็นว่านับวันสินค้าประเภทอาหารมีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์มาก รวมถึงการพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ฉลาดที่จะเลือกซื้อสินค้าที่ดีต่อสุขภาพ ต้องปราศจากสารพิษที่จะไปสะสมในร่างกาย ทำให้ “จิรภัสร” หรือ จอย ทายาทธุรกิจ เลือกหันหลังให้กับงานประจำที่ทำอยู่เดิมมาเป็นชาวไร่ ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติบนที่ดินของครอบครัวบนภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย โดยมีความตั้งใจให้พื้นนี้เป็นพื้นที่เกษตรอินทรีย์สมบูรณ์แบบ หวังแตกไลน์ผลผลิตทางการเกษตรที่มีอยู่เดิมให้กลายเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนรักสุขภาพ แต่ด้วยไม่ได้เป็นชาวไร่มาแต่กำเนิด ดังนั้นจึงต้องถ่ายทอดความรู้ และปรับเปลี่ยนทัศนะคติการปลูกพืชไร่แบบทั่วไปมาเป็นเกษตรอินทรีย์ให้แก่ชาวบ้าน
“เมื่อเราเห็นเทรนด์คนรักสุขภาพมาแรง ในฐานะที่เราอยู่ในแวดวงอาหารประเภทพืชผักมานาน จึงคิดหาวิธีสร้างสรรค์สินค้าเพื่อให้สอดรับกับกระแสดังกล่าว ด้วยการพัฒนาผืนดินบนภูชี้ฟ้าให้เป็นแหล่งปลูกพืชแบบเกษตรอินทรีย์เต็มรูปแบบ เริ่มจากการปรับเปลี่ยนทัศนะคติของชาวไร่ ชี้ให้เห็นข้อดีของการทำเกษตรอินทรีย์ พร้อมทั้งใช้แนวทางการทำเกษตรลักษณะนี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องยากที่ต้องใช้เวลาประมาณ 2 ปี ได้นำร่องการปลูกกาแฟ และแมคคาเดเมีย รวมทั้งพืชผักทั่วไป อย่าง ฟักทอง กระหล่ำปลี ข้าวโพด เมื่อได้ผลผลิตตามต้องการ ก็หาช่องทางจำหน่าย แต่เราไม่ต้องการไปแข่งขันกับผู้ประกอบการที่มีอยู่เดิมตามซูเปอร์มาร์เก็ต จึงคิดหาวิธีส่งสินค้าตรงถึงผู้บริโภค ซึ่งก็หนีไม่พ้นที่เราจะต้องมีหน้าร้านเองสุดท้ายมาลงตัวที่ร้าน “Farm to Table” ในห้าง The City Viva สาธร”
ความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ในร้าน Farm to Table คือ ผลิตผลที่มาจากความตั้งใจของผู้ที่ให้ใจไปเต็มร้อยกับการทำเกษตรอินทรีย์ โดยนำมาแปรรูปเป็นไอศกรีม และสลัดผักสดที่ล้วนปลอดสารพิษ เจาะกลุ่มคนรักสุขภาพ โดยเฉพาะคนวัยทำงานที่ไม่มีเวลาดูแลสุขภาพมากนัก แต่ใช้วิธีเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ดังนั้นร้าน Farm to Table จึงเลือกทำเลเปิดร้านย่านสาธร ณ The City Viva
“ผลิตภัณฑ์ของร้าน Farm to Table ขณะนี้มีสินค้าเพียง 2 อย่าง คือ ไอศกรีม และสลัดผักสดจากฟาร์ม ซึ่งไอศกรีมน้องสาว (จิราภา หรือ จิ๊บ) ไปเรียนทำไอศกรีมแบบเจลลาโตกับชาวอิตาลี พร้อมกับนำมาสูตรมาปรับด้วยการลดปริมาณนมลง เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่รักสุขภาพอย่างแท้จริง ที่ผ่านมาลูกค้ามีการซื้อซ้ำประมาณ 70% จากรสชาติไอศกรีมที่หลากหลายและแปลกใหม่ เช่น ไอศกรีมผัก, เชอร์เบทมะเชือเทศ, ไอศกรีมฟักทอง, มันญี่ปุ่น, มันญี่ปุ่นอบน้ำผึ้ง กาแฟสด (กาแฟดอยช้าง), แครอทครีมชีส, และงาดำ เป็นต้น ทุกเมนูล้วนเลือกใช้นมออแกนิกส์ ปลอดสารเคมี ขายในราคาสกู๊ปละ 49 บาท ในขณะที่เมนูผักสลัด จะประกอบไปด้วย ผักสลัดนานาชนิด แครอท กระหล่ำปลี ซึ่งผักเหล่านี้จะสับเปลี่ยนไปตามฤดูกาล โดยน้ำสลัดข้นก็หลากหลาย เช่น ฟักทองพริกไทยดำ, กระชาย, ข้าวกล้อง ส่วนสลัดน้ำใส ทำจากแก้วมังกรผสมน้ำผึ้ง”
นอกจากนี้ทางร้านมีบริการจัดส่งฟรีในย่านสาธร หากลูกค้าสั่งในราคา 300 บาทขึ้นไป โดยอนาคตจะพัฒนาเมนูสลัดผักให้กลายเป็นอาหารมื้อหลัก และกระจายสินค้าให้ผู้สนใจนำไปจำหน่ายต่อ
***ติดต่อ 08-1868-9942 หรือที่ www.facebook.com/farmtotableorganiccafe***
