xs
xsm
sm
md
lg

“ม้งภูชี้ฟ้า” โวย “เงินประกันข้าวไร่” จ่ายมั่ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย - เกษตรกรชาวไทยภูเขาเผ่าม้งภูชี้ฟ้า ยกทีมบุกศาลากลาง โวยเงินประกันข้าวไร่ไม่ถึงมือ ทั้งที่ปีก่อนได้ ปีล่าสุดกลับไม่ได้ แถมบางส่วนเพื่อนบ้านเจ้าของที่นารอบข้างได้หมด แต่แปลงที่อยู่ใจกลางกลับถูกปฏิเสธ

วันนี้ (24 มิ.ย.) ที่ศาลากลาง จ.เชียงราย กลุ่มชาวนาที่ปลูกข้าวไร่จากพื้นที่ 16 หมู่บ้านในเขต ต.ตับเต่า อ.เทิง ประมาณ 200 คน ได้พากันไปชุมชนเรียกร้องให้จังหวัดช่วยแก้ไขปัญหากรณีมีชาวนาจำนวน 264 คน เนื้อที่รวมกัน 374 แปลง พื้นที่ปลูกทั้งหมด 3,984 ไร่ ยังไม่ได้รับเงินตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรปี 2553-2554 หลังจากได้พากันไปขึ้นทะเบียนเอาไว้แล้ว

นายสุรชัย เกียรติยศ ประธานสภาองค์กรชุมชนตับเต่า ซึ่งเป็นแกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า พวกเราทราบระเบียบกฎเกณฑ์การเข้าร่วมโครงการว่า ในปี 2552-2553 รัฐบาลกำหนดให้เกษตรกรทุกรายสามารถเข้าร่วมโครงการรับประกันราคาได้ แต่ในปี 2553-2554 มีมติคณะรัฐมนตรีกำหนดให้ต้องเป็นผู้มีเอกสารสิทธิในที่ดินทำกิน และเคยเป็นผู้ที่ลงทะเบียนเกษตรกรในปี 2552-2553 มาก่อนเท่านั้น

นายสุรชัยกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมามีชาวไร่ในพื้นที่ได้รับเงินประกันราคาผลผลิตตามโครงการไปแล้วประมาณ 1,200 ราย อย่างไรก็ตาม กรณีชาวนา 264 รายนี้พบว่าเป็นผู้ที่ทำกินปลูกข้าวไร่แต่กลับไม่ได้รับเงินเหมือนคนอื่นๆ โดยรัฐบาลระงับการจ่ายเงินให้ผู้ที่คงค้างตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่คุณสมบัติของกลุ่มคนทั้งสองกลุ่มเหมือนกัน

นายวิชา เกียรติไพรยศ ชาวบ้านหมู่ 15 ต.ตับเต่า กล่าวว่า ตนทำนาจำนวน 20 ไร่ ส่วนชาวบ้านคนอื่นจะทำกินเฉลี่ยรายละ 10-20 ไร่ เมื่อปีที่ผ่านมารัฐบาลมีโครงการรับประกันราคาข้าวก็ได้รับเงินชดเชยกันไปตามสัดส่วนเฉลี่ยไร่ละประมาณ 1,000 กว่าบาท แต่ปรากฏว่าปีล่าสุดมีความสับสนเพราะบางคนได้รับ แต่บางคนไม่ได้รับจึงเดือดร้อนกันหนัก เพราะถ้าไม่ได้รับเหมือนกันหมดและเจ้าหน้าที่มีข้อมูลชี้แจงก็คงไม่มีปัญหา

กลุ่มชาวบ้านระบุว่า กรณีชาวนาที่คงค้างทั้ง 264 รายดังกล่าวถือว่าน่าแปลกอย่างมาก โดยบางคนระบุว่า มีที่นาอยู่ใจกลางที่นาคนอื่นๆ จึงมีคุณสมบัติด้านเอกสารสิทธิเหมือนคนอื่นๆ และแจ้งการขึ้นทะเบียนเมื่อปี 2552-2553 เหมือนกัน แต่ปรากฏว่าบุคคลรายรอบได้รับเงินประกันราคากันหมดเหลือเพียงตนคนเดียว ขณะที่บางคนระบุว่าบางคนลงทะเบียนในปี 2552-2553 และได้รับเงินเหมือนกัน แต่พอมาปี 2553-2554 คนหนึ่งได้เงินแต่อีกคนไม่ได้เงิน พวกเขาจึงสงสัยในความแตกต่างระหว่างบุคคล หรือบางครั้งคนที่ลงทะเบียนใหม่กลับได้รับเงิน แต่คนที่ทำอย่างถูกต้องมาตั้งแต่อดีตไม่ได้รับเงิน เป็นต้น

วันเดียวกันนายพินิจ หาญพาณิชย์ รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย, นายสมศักดิ์ จิตรรำลึก การค้าภายใน จ.เชียงราย และนายมานพ สุขสะอาด ผู้ช่วยเกษตร จ.เชียงราย ได้ชี้แจงข้อมูลกับชาวบ้านแต่ไม่สามารถตอบคำถามได้ทันทีว่าเหตุใดข้อมูลของเกษตรกรจึงออกมาในลักษณะนี้ แต่เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเกิดจากการเก็บข้อมูลของเจ้าหน้าที่ และการให้ข้อมูลของเกษตรกร มีความผิดพลาด ดังนั้น หากตรวจสอบพบบุคคลใดเข้าข่ายได้รับเงินก็จะรีบดำเนินการให้ แต่กรณีผู้ไม่เข้าข่ายมีคุณสมบัติแต่กลับได้รับเงินไปก็จะเรียกเก็บคืนต่อไป

นายพินิจกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการตรวจสอบกันรายต่อราย เพราะมีข้อสงสัยเรื่องการเก็บข้อมูลและการให้ข้อมูลหลายเรื่อง แสดงว่าใน 264 รายก็ย่อมต้องมีปัญหาต่างๆ กันไป เช่น บางคนภรรยา เป็นคนจดทะเบียนเป็นเกษตรกรแต่สามีมาลงทะเบียนรับประกันราคา ดังนั้น เมื่อขึ้นทะเบียนประกันราคาครั้งนี้จึงกลายเป็นชื่อสามีทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ไม่รับรองให้ หรือเจ้าหน้าที่อาจจะเก็บกรณีผู้ที่เคยเข้าร่วมโครงการในปี 2552-2553 แต่มาครั้งใหม่ก็มีความสับสนเรื่องเอกสารสิทธิ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ตามมติคณะรัฐมนตรี จึงจดชื่อไว้ในช่องกรรมสิทธิ์อื่นๆ ซึ่งก็ถือว่าไม่สามารถรับเงินได้นั่นเอง ทั้งๆ ที่เขาอาจจะมีสิทธิ์ได้รับเงินก็ได้

นายพินิจบอกว่า จะให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกับชาวบ้านตรวจสอบข้อมูลรายต่อราย คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 15 วันจึงแล้วเสร็จ จากนั้นจะดำเนินการ 2 แนวทาง คือ แก้ไขปัญหาเป็นรายๆ ไป ทั้งจ่ายเงินและเรียกคืน อีกแนวทางจะนำเสนอกรณีชาวนาทำกินบนผืนดินนั้นๆ มานานแล้วแต่ไม่มีเอกสารสิทธิจะสามารถให้สิทธิตามโครงการได้หรือไม่ไปยังรัฐบาลต่อไปด้วย ทำให้กลุ่มชาวบ้านสลายตัว


กำลังโหลดความคิดเห็น