สปีดโค้งสุดท้ายสินเชื่อแฟรนไชส์ ‘เอสเอ็มอีแบงก์’ จัดตลาดนัดกระตุ้น

“เอสเอ็มอีแบงก์” เร่งเครื่องปล่อยสินเชื่อแฟรนไชส์ ก่อนครบกำหนดเวลาในสิ้น ก.ค. นี้ จัดตลาดนัดแฟรนไชส์กระตุ้น ระหว่าง 12-14 ก.ค. ณ อาคารสำนักงานใหญ่ ระดมธุรกิจแฟรนไชส์ชั้นนำกว่า 35 ราย เปิดช่องเจรจาซื้อขายและเข้าถึงแหล่งทุนได้ภายในงาน พร้อมอบรมความรู้ฟรี

นายโสฬส สาครวิศว กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เปิดเผยว่า จากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2554 ที่ผ่านมา ได้มอบหมายให้เอสเอ็มอีแบงก์ ปล่อยสินเชื่อโครงการพิเศษช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจลอจิสติกส์ไทย (เพิ่มเติม) วงเงิน 2,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสำหรับกลุ่มธุรกิจลอจิสติกส์ วงเงิน 1,500 ล้านบาท และสำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ วงเงิน 500 ล้านบาท โดยเวลานี้ ในส่วนกลุ่มธุรกิจลอจิสติกส์ ยอดขอสินเชื่อเต็มจำนวนวงเงินแล้ว ขณะที่ส่วนธุรกิจแฟรนไชส์ ยอดขอสินเชื่อยังไม่มากนัก อนุมัติแล้วไม่เกิน 100 ล้านบาท ซึ่งตามข้อกำหนดในโครงการ หากถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2554 ยอดขอสินเชื่อยังไม่เต็มวงเงินจะต้องโอนวงเงินที่เหลือกลับไปยังสินเชื่อกลุ่มลอจิสติกส์

ทั้งนี้ ทางเอสเอ็มอีแบงก์ จึงเกรงว่าจะเป็นการเสียโอกาสสำหรับผู้ประกอบการรายเล็กๆ ที่กำลังต้องการเงินทุนดอกเบี้ยพิเศษเพื่อสร้างอาชีพแบบง่ายๆ ในรูปแบบแฟรนไชส์ ดังนั้น ในวันที่ 12-14 ก.ค.2554 ที่จะถึงนี้ ทางเอสเอ็มอีแบงก์ ได้จัด “ตลาดนัดแฟรนไชส์” ณ ชั้น 1 อาคารเอสเอ็มอีแบงก์ สำนักงานใหญ่ โดยได้นำธุรกิจแฟรนไชส์ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า มาออกบูทแนะนำธุรกิจ จำนวนกว่า 35 ราย ซึ่งล้วนแต่เป็นรายที่น่าสนใจ มีความน่าเชื่อถือ ผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สนใจเข้ามาเจรจาซื้อขายธุรกิจ รวมถึง สามารถเข้าถึงบริการขอสินเชื่อจากโครงการดังกล่าวได้ทันที

นายโสฬส กล่าวต่อว่า นอกเหลือจากการออกบูท เสนอธุรกิจแล้ว ทางเอสเอ็มอีแบงก์ ยังได้จัดให้มีการอบรมพิเศษฟรี เกี่ยวกับความรู้ในการลงทุนแฟรนไชส์ รวมกว่า 15 หัวข้อ ตลอดระยะเวลา 3 วันในการจัดงาน อีกทั้ง ยังมีบริการจากเจ้าหน้าที่เอสเอ็มอีแบงก์ เพื่อให้คำแนะนำและอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายที่สุดด้วย

สำหรับหลักเกณฑ์ในโครงการสินเชื่อช่วยเหลือธุรกิจแฟรนไชส์ วงเงินกู้ต่อราย ตั้งแต่ 3 หมื่นบาทถึง 1 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยพิเศษ ปีที่ 1-2 คิด MLR ลบร้อยละ 3 ต่อปี และตั้งแต่ปีที่ 3 เป็นต้นไป คิดอัตรา MLR ต่อปี ระยะเวลาในกู้เงินสูงสุดไม่เกิน 5ปี โดยระยะเวลาปลอดชำระคืนเงินต้น ไม่เกิน 1 ปี ใช้หลักทรัพย์บุคคล/นิติบุคคล หรือบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกัน