xs
xsm
sm
md
lg

ดัชนีฯ SMEs มี.ค. เพิ่มอยู่ที่ 48.0 หลังการเมืองคลี่คลายยอดส่งออกพุ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สสว. รายงานดัชนี TSSI SMEs เดือนมีนาคม เพิ่มขึ้นทั้งปัจจุบันและคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ 48.0 และ 51.4 โดยมีธุรกิจร้านค้าปลีกสมัยใหม่ และบริการด้านการก่อสร้าง ค่าดัชนีเพิ่มขึ้นในระดับสูง เหตุเพราะผู้บริโภคใช้จ่ายเพิ่มขึ้น การส่งออกเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 30 นักลงทุนต่างประเทศลงทุนในตลาดหุ้นเพิ่ม เห็นได้จาก Set Index ที่เพิ่มขึ้นถึง 59.57 จุด ขณะที่ไตรมาส 1/2554 ค่าดัชนีลดลง ผลจากความกังวลด้านต้นทุนเนื่องจากราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยถึงผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการภาคการค้าและบริการ (Trade & Service Sentiment Index : TSSI) ประจำเดือนมีนาคม เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2554 พบว่า ดัชนี TSSI SMEs รวมภาคการค้าและบริการเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 48.0 จากระดับ 47.0 (เพิ่มขึ้น 1.0) โดยภาคค้าปลีก และภาคบริการ ค่าดัชนีเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 46.5 และ 50.3 จากระดับ 45.3 และ 48.9 (เพิ่มขึ้น 1.2 และ 1.4) ส่วนภาคค้าส่งค่าดัชนีลดลงอยู่ที่ 46.7 จากระดับ 47.2 (ลดลง 0.5) ขณะที่ความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจประเทศและต่อธุรกิจตนเอง ค่าดัชนีลดลงอยู่ที่ 36.8 และ 46.0 จากระดับ 42.1 และ 47.8 (ลดลง 5.3 และ 1.8) ตามลำดับ

ทั้งนี้สาเหตุสำคัญที่ทำให้ค่าดัชนีในเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้น เนื่องจากสถานการณ์การเมืองคลี่คลายในทางที่ดีขึ้น การส่งออกยังคงขยายตัวในระดับสูงต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าสูงถึง 21,259.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 30.9 การอุปโภคบริโภคสูงขึ้นโดยค่าดัชนีในเดือน มี.ค. ขยายตัวร้อยละ 4.8 เทียบกับ 3.7 ในเดือน ก.พ. รวมทั้งผลจากราคาพืชผลการเกษตรอยู่ในระดับที่ดีต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ Set Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 59.57 จุด อยู่ที่ระดับ 1,047.48 จุด ณ สิ้นเดือน มี.ค. นอกจากนี้ยังเป็นช่วงใกล้เทศกาลสงกรานต์และวันหยุดยาว ซึ่งเป็นปัจจัยเร่งให้ผู้บริโภคใช้จ่ายมากกว่าปกติ ที่สำคัญการที่รัฐบาลมีแนวทางจะตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกินกว่า 30 บาท/ลิตร ไปจนถึงปลายเดือน มิ.ย. ช่วยให้ผู้ประกอบการคลายความกังวลเรื่องต้นทุน

เมื่อพิจารณาเป็นประเภทกิจการ พบว่า ภาคค้าปลีก กิจการร้านค้าปลีก (สมัยใหม่) ค่าดัชนีเพิ่มขึ้นในระดับสูงอยู่ที่ 45.8 จากระดับ 44.0 (เพิ่มขึ้น 1.8) ผลจากการที่ประชาชนเริ่มจับจ่ายใช้สอยเพื่อซื้อของฝากกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งเป็นวันหยุดยาว โดยดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.81 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันรัฐบาลมีแนวทางจะใช้เงินกองทุนน้ำมัน ชดเชยราคาน้ำมันดีเซลให้ไม่เกิน 30 บาท/ลิตร ต่อเนื่องจนถึงสิ้นเดือน มิ.ย. ช่วยให้ผู้ประกอบการคลายความกังวลลงได้ระดับหนึ่ง ภาคบริการ กิจการบริการด้านการก่อสร้าง ค่าดัชนีเพิ่มขึ้นมากที่สุดอยู่ที่ 50.0 จากระดับ 46.1 (เพิ่มขึ้น 3.9) ผลจากผู้ประกอบการมียอดการให้บริการเพิ่มขึ้น จากการให้บริการซ่อมแซมสถานที่ราชการ สถานประกอบการ และที่พักอาศัย ที่ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วม ส่วนภาคค้าส่ง กิจการค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ค่าดัชนีลดลงมากที่สุดอยู่ที่ 48.0 จากระดับ 50.4 (ลดลง 2.4) เนื่องจากผู้ประกอบการกังวลด้านต้นทุนการประกอบการ

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า รวมภาคการค้าและบริการ ค่าดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 51.4 จากระดับ 51.1 (เพิ่มขึ้น 0.3) โดยภาคค้าปลีก และภาคบริการ ค่าดัชนีเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 51.0 และ 52.1 จากระดับ 50.0 และ 51.8 (เพิ่มขึ้น 1.0 และ 0.3) ตามลำดับ ส่วนภาคค้าส่ง ค่าดัชนีลดลงอยู่ที่ 50.8 จากระดับ 53.0 (ลดลง 2.2) สำหรับความเชื่อมั่นต่อต่อเศรษฐกิจประเทศ และต่อธุรกิจตนเอง ค่าดัชนีปรับตัวลดลงอยู่ที่ 45.4 และ 50.4 จากระดับ 53.0 และ 54.0 (ลดลง 7.6 และ 3.6) ตามลำดับ

ผอ.สสว. เปิดเผยต่อถึงดัชนี TSSI SMEs ประจำไตรมาส 1/2554 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 4/2553 พบว่า ค่าดัชนีลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 48.9 จากระดับ 49.4 (ลดลง 0.5) โดยมีผลมาจาก ภาคค้าปลีก ที่มีค่าดัชนีลดลงอยู่ที่ 47.8 จากระดับ 49.5 (ลดลง 1.7) ขณะที่ภาคค้าส่งและภาคบริการ ค่าดัชนีเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 48.6 และ 50.3 จากระดับ 47.6 และ 50.0 (เพิ่มขึ้น 1.0 และ 0.3) ตามลำดับ ในส่วนความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจประเทศ ค่าดัชนีลดลงอยู่ที่ 42.9 จากระดับ 48.7 (ลดลง 5.8) ขณะที่ความเชื่อมั่นต่อธุรกิจตนเอง ค่าดัชนีเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 48.4 จากระดับ 47.2 (เพิ่มขึ้น 1.2) ทั้งนี้ปัจจัยที่บั่นทอนความเชื่อมันของผู้ประกอบการ ยังคงอยู่ที่ระดับราคาขายปลีกน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ค่าครองชีพของประชาชนเพิ่มสูงขึ้น สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดภาคใต้ และสถานการณ์ความไม่สงบในแถบประเทศแอฟริกาและตะวันออกกลาง ซึ่งจะส่งผลต่อระดับราคาน้ำมันในตลาดโลก
กำลังโหลดความคิดเห็น