xs
xsm
sm
md
lg

สสว.แจงเหตุภัยพิบัติธรรมชาติ ฉุดGDP SMEs ทั้งปีเหลือ 4.2%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สสว. ร่วมกับธนาคารทหารไทย เผยถึงผลกระทบต่อ SMEs จากเหตุการณ์สึนามิญี่ปุ่น สงครามลิเบีย และน้ำท่วมภาคใต้ ฉุด GDP SMEs ทั้งปีชะลอตัวอยู่ที่ ร้อยละ 4.2 และ GDP ทั้งประเทศร้อยละ 4 กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ อิเลคทรอนิกส์และท่องเที่ยวกระทบหนัก

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่าทางสสว.ร่วมกับ ธนาคารทหารไทย รายงานผลกระทบของSMEs ต่อเหตุการณ์ภัยพิบัติธรรมชาติ การเกิดสึนามิ ที่ประเทศญี่ปุ่น สงครามในประเทศลิเบีย และน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ 8 จังหวัดของไทย ว่า ในส่วนของ SMEs โดยภาพรวมคาดการณ์ว่าอัตราการขยายตัวของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวม ( GDP) ของ SMEs ทั้งปี จะมีการชะลอตัวอยู่ที่ประมาณร้อยละ 4.2 ในขณะที่ GDP ของประเทศอยู่ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน จะขยายตัวร้อยละ 4

สำหรับธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการเกิดสึนามิ ซึ่งส่งผลให้การผลิตอาจต้องหยุดชะงักในระยะสั้น เช่น กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ อิเลคทรอนิกส์ และกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว คาดว่านักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่นจะหายไปประมาณ 100,000 คน ส่วนด้านการนำเข้าจะส่งผลดีต่อธุรกิจทางด้านอาหาร พืชผัก และปลาทะเล เพราะการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี ทำให้ญี่ปุ่นหรือในหลายประเทศ เปลี่ยนมานำเข้าจากประเทศไทยแทน และผลดีในระยะยาว อาจจะได้เห็นธุรกิจที่เป็น SMEs ของญี่ปุ่น เข้ามาดำเนินกิจการในไทยมากขึ้น เพราะบางโรงงานที่รับผลกระทบและปิดกิจการลงต้องหาที่ลงทุนใหม่ และทางญี่ปุ่นมีนโยบายขยายการลงทุนไปต่างประเทศ ซึ่งSMEsส่วนใหญ่ให้ความสนใจประเทศไทย

ส่วนวิกฤติน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในภาคใต้ มีSMEs ทางภาคการค้า และเกษตรได้รับผลกระทบประมาณ 36,000 ราย มูลค่าความเสียหาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาคการเกษตรประมาณ 2,000 ล้านบาท สินค้าเกษตรที่น่าจะได้รับผลกระทบ คือ กุ้ง และยางพารา โดยเฉพาะจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงกุ้งแหล่งใหญ่ของประเทศ ซึ่งเกือบทั้งหมดไดรับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ ในส่วนของการท่องเที่ยว ในขณะนี้ ที่มีการชะลอการจองห้องพัก ประมาณ ร้อยละ 80 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 800-900 ล้านบาท

นายยุทธศักดิ์ กล่าวถึงสถานการณ์ SMEs ในช่วงต้นปี 2554 ยังคงมีแนวโน้มที่ดี เห็นได้จากการส่งออก ในเดือนกุมภาพันธ์ มีมูลค่า 177,558.4 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 32.6 ประเทศคู่ค้าหลักของ SMEs ไทย ได้แก่ ฮ่องกง สวิสเซอร์แลนด์ จีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย และออสเตรเลีย สินค้าหลักได้แก่ อัญมณี และเครื่องประดับ ยาง พลาสติก ซึ่งหลังจากนี้ สิ่งที่ SMEs กังวลและจะต้องรับมือ คือต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น จากแนวโน้มราคาพลังงานที่น่าจะเพิ่มขึ้น ถ้ามียกเลิกการใช้พลังงานจากนิวเคลียร์ ทำให้ต้องหันมาใช้พลังงานน้ำมันแทน จะส่งผลให้ต้นทุนราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นได้ และต้นทุนราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น เป็นสิ่งที่SMEs กังวลเช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น