สสว.ชี้ภัยธรรมชาติ ทั้งสึนามิและน้ำท่วม ฉุดเติบโต SMEs ระยะสั้นและบางกลุ่มเท่านั้น ภาคท่องเที่ยวหนัก ลูกค้าหายนับแสน จี้รัฐออกมาตรการอุ้ม เร่งสินเชื่อพิเศษ ยกเว้นเก็บเงินเข้าประกันสังคม เตือน SMEs ทำประกันลดเสี่ยงภัยธรรมชาติ
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า ผลกระทบจากภัยธรรมชาติ ทั้งสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่น และน้ำท่วมภาคใต้ ส่งผลให้การเติบโตของ SMEsไทย และเศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงในระยะสั้น และบางอุตสาหกรรมเท่านั้น โดยสึนามิญี่ปุ่นกระทบต่อการส่งออกของ SMEs ในกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ อิเลคทรอนิกส์ ที่ต้องชะงักการผลิตชั่วคราว ขณะที่กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว ปริมาณนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นทั้งขาออกและขาเข้าอาจลดลงกว่า 100,000 คน ส่วนการนำเข้าสินค้าของ SMEs ไทยจากประเทศญี่ปุ่น ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะกลุ่มอาหาร พืชผักและปลาทะเล อย่างไรก็ดี ประเทศไทยอาจจะได้รับผลดีในระยะยาวจากการเข้ามาลงทุนของญี่ปุ่นมากยิ่งขึ้น ที่คาดว่าเริ่มในปลายปีนี้
ส่วนวิกฤติน้ำท่วมในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคใต้ ส่งผลกระทบต่อ SMEs กว่า 36,580 ราย มูลค่าเสียหายทั้งหมดกว่า 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็นด้านการท่องเที่ยว ประมาณ 5,000 ล้านบาท ด้านทรัพย์สินประมาณ 2,000 ล้านบาท ด้านภาคเกษตรและเพาะเลี้ยงสัตว์ ประมาณ 2,000 ล้านบาท ส่วนความเสียหายเบื้องต้น ถ้าเหตุการณ์ยุติลงเร็วจะอยู่ที่ประมาณ 800-900 ล้านบาท แต่ถ้าลากยาวออกไปอาจเพิ่มความเสียหายด้านการท่องเที่ยวถึง 1,200 - 2,000 ล้านบาท
ผอ.สสว. กล่าวต่อว่า จากการศึกษารวบรวมข้อมูลของSMEs ที่ได้รับผลกระทบ มีความต้องการในด้านเงินทุนจากสถาบันการเงินของรัฐ เพื่อฟื้นฟูและหมุนเวียนธุรกิจ ทั้งรูปแบบ เช่น ยืดอายุหนี้ สินเชื่ออัตราพิเศษยกเว้น หรือลดดอกเบี้ย อีกทั้ง ภาครัฐควรยกเว้นการจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสังคม ส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสถาบันการศึกษาช่วยซ่อมแซมโรงงานและเครื่องจักร อีกทั้ง จัดกิจกรรมการท่องเที่ยว ชดเชยความเสียหายพื้นที่การเกษตร นอกจากนั้น ในส่วนผู้ประกอบเอง ควรเตรียมพร้อมทำประกันภัยธรรมชาติ เพื่อลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต