ภูเก็ต - ผู้ว่าฯ มั่นใจยอดบริจาคช่วยผู้ประสบภัยภาคใต้-สึนามิญี่ปุ่น “ใจถึงใจสู่ผู้ประสบภัยภาคใต้และญี่ปุ่น” ทำได้มาก ขณะที่วันนี้เป็นการเปิดรับบริจาคโดยตรง เบื้องต้นมีผู้ไม่ประสงค์จะออกนามบริจาคผ่านสภากาชาดไทยแล้ว 1 ล้านบาท
นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการจัดงาน “ใจถึงใจสู่ผู้ประสบภัยภาคใต้ และญี่ปุ่น” ซึ่งจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเทศบาลนครภูเก็ต องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่ร่วมกันจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 9-10 เม.ย.ว่า การจัดงานในครั้งนี้ทางจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดขึ้นเพื่อหารายได้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้และผู้ประสบภัยสึนามิญี่ปุ่น โดยวันนี้ (10 เม.ย.) จะมีการรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ ตั้งแต่เวลา 20.00 น.เป็นต้นไป โดยผู้บริจาคจะบริจาคผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และทางจังหวัดจะมอบเงินที่ได้รับจากการบริจาคให้แก่เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และตัวแทนรัฐบาลไทยเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อไป
ขณะนี้มีผู้บริจาคเงินและไม่ประสงค์จะออกนามเพื่อช่วยผู้ประสบภัย ผ่านทางกาชาดจังหวัดภูเก็ต มาแล้วจำนวน 1 ล้านบาท เพื่อส่งมอบไปยังสภากาชาดไทย และตอนนี้เงิน ได้โอนไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนการรับบริจาคในวันนี้ก็มีการแจ้งเข้ามาทางโทรศัพท์ว่าจะมีคนมาร่วมบริจาคจำนวนมาก และมีรายได้จากการรับบริจาคประมาณ 5 ล้านบาท นอกจากนั้น ยังมีรายได้จากการขายเสื้อที่ระลึกในราคาตัวละ 300 บาท และการตั้งโต๊ะรับบริจาคในงานปิดถนนคนเดินอีกจำนวนหนึ่ง
สำหรับการจัดกิจกรรมปิดถนนคนเดินนั้นได้เริ่มไปแล้วเมื่อคืน ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากมีประชาชนเข้าร่วมคึกคัก โดยงานดังกล่าวจัดขึ้น 2 ส่วน คือ ที่บริเวณเวทีสวนสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามหาราชินี เป็นการแสดงของดาราและศิลปินจากหลายค่าย รวมทั้งศิลปินจากประเทศญี่ปุ่น ส่วนที่ถนนถลางนั้นจัดให้เป็นการแสดงของเยาวชน และการแสดงอื่นจำนวนมาก เช่น บริเวณซอยรมณีย์ ถนนถลาง จะเป็นการแสดงจากศิลปินท้องถิ่น วงดนตรี คุณณรงค์ หงษ์หยก วงดนตรีของเยาวชน พื้นที่บริเวณพิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว เป็นการแสงนิทรรศการเกี่ยวกับภัยพิบัติสึนามิ และน้ำท่วมแผ่นดินไหว ด้วยการใช้การยิงแสงเลเซอร์ บนผนังอาคาร รวมทั้งการจำหน่ายอาหารพื้นเมือง บริเวณริมคลองบางใหญ่ การตั้งเต็นท์รับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยภาคใต้และญี่ปุ่น การจำหน่ายเสื้อที่ระลึก ในราคาตัวละ 300 บาท และการเปิดรับบริจาคทั่วไป ซึ่งปรากฏว่า ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี