“เปี๊ยก ปลาหมึก” ขายคุณภาพสร้างชื่อแบรนด์โอทอปไทย

ปลาหมึกปรุงรส อาหารทะเลที่หลายคนโปรดปราน และเพื่อการให้กินปลาหมึกได้รสชาติที่สดใหม่ คงจะต้องเดินทางไปชิมกันถึงแหล่งผลิตชายทะเล สำหรับปลาหมึกที่ว่าอร่อย รสชาติดี ก็ต้องยกให้กับปลาหมึกในบริเวณชายทะเลบ้านเพ จังหวัดระยอง เหตุผลเพราะน้ำทะเลในย่านนี้จะจืดกว่าทะเลทางภาคใต้

สำหรับผู้แปรรูปทำปลาหมึกปรุงรสออกขายในพื้นที่นี้ รายใหญ่ก็ต้องยกให้ กับแบรนด์ “เปี๊ยก ปลาหมึก” ของ “นายมงคล ไตรรัตน์จรัสพร” ซึ่งคว่ำหวอดอยู่ในวงการทำปลาหมึกแปรรูปปรุงรสมานานกว่า 15 ปี และมีรางวัลโอทอป 5 ดาว 8 ปีซ้อนมาช่วยการันตีคุณภาพ

นายมงคล เล่าว่า จุดเริ่มต้นของการก้าวมาสู่ธุรกิจทำปลาหมึกแปรรูป เกิดมาจากเดิมตนเองทำผลิตภัณฑ์อาหารทะเลส่งออกมาก่อน และหลังจากนั้น มีลูกค้าชาวญี่ปุ่น ต้องการปลาหมึกแปรรูปจากประเทศไทย เพราะได้มาสำรวจพื้นที่แหล่งผลิตปลาหมึกในประเทศไทย พบว่า ที่ย่านบ้านเพ มีปลาหมึกที่นำมาแปรรูปและรสชาติดี เพราะทะเลในย่านนี้น้ำจืด เมื่อนำมาแปรรูปแล้วไม่ต้องล้างน้ำอีกครั้ง ส่วนพื้นที่อื่นน้ำจะเค็ม ก่อนจะนำมาแปรรูปจะต้องล้างน้ำก่อน ทำให้ปลาหมึกจืดไม่ได้รสชาติ และประกอบกับการทำประมงในย่านนี้ จะเป็นประมงเรือขนาดเล็ก มีการจับปลากันแบบวันต่อวัน ไม่ได้ทำประมงขนาดใหญ่ที่ต้องเดินทางออกไปครั้งละหลายๆวัน ทำให้ปลาที่ได้ไม่สด นำมาแปรรูปรูปรสชาติก็จะไม่อร่อย

หลังจากที่ลูกค้าญี่ปุ่นแนะนำให้ทดลองทำปลาหมึกแปรรูป โดยทางญี่ปุ่นบอกว่ายินดีรับซื้อของเราทั้งหมดในช่วงเริ่มต้น พร้อมกับให้คำแนะนำในเรื่องของวิธีการผลิต และแนะนำเครื่องจักรที่จะเข้ามาช่วยในการผลิตด้วย แต่ปัญหาของการส่งออกปลาหมึกแปรรูปไปญี่ปุ่น คือ ลูกค้าต้องการให้ทุกส่วนอยู่ครบทั้งตัว หัว และหนวด ซึ่งถ้าส่วนใดส่วนหนึ่งขาดหายไป ไม่สมบูรณ์ ราคาก็จะถูกลดลงมาครึ่งหนึ่ง เป็นปัญหาทำให้เราขาดทุนในบางล็อตที่ส่งไป ในระยะหลังเริ่มหันมาทำปลาหมึกในประเทศมากขึ้น ทำปลาหมึกปรุงรส ในแบบต่างๆ ขายนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวระยอง ภายใต้แบรนด์ เปี๊ยกปลาหมึก

ปัจจุบันได้พัฒนาสูตรการทำปลาหมึกออกมามากถึง 7 ชนิด และจากเดิมตักขายเป็นกิโลกรัม หันมาทำแพคเกจจิ้ง ซึ่งข้อดีของแพคเกจจิ้ง ช่วยยืดอายุทำให้เก็บไว้ได้นาน สะอาด สะดวกแก่ลูกค้า และส่งขายในจังหวัดใกล้เคียง หรือฝากวางขายในห้างสรรพสินค้าได้ ที่ผ่านมามีการปรับขนาดให้มีหลากหลาย เพื่อให้สามารถแข่งกับผู้ผลิตปลาหมึกรายใหญ่ ซึ่งเป็นที่รู้จักทั่วประเทศในระดับโรงงานอุตสาหกรรม

“ผมเชื่อว่า ถ้าเราทุ่มงบการทำตลาดในลักษณะเดียวกับผู้ผลิตรายใหญ่ เราสามารถแข่งขันได้อย่างแน่นอน เพราะของเราถูกกว่า และเชื่อในคุณภาพและรสชาติว่าเราเหนือกว่า อย่างไรก็ตาม ถ้าเรานำงบไปทุ่มกับการทำตลาด จะส่งผลให้ต้นทุนเราสูงขึ้น ราคาที่เราขายในปัจจุบันก็อาจจะขายไม่ได้ ดังนั้นจึงพอใจกับการทำตลาดในลักษณะนี้มากกว่า เพราะจะได้ใจลูกค้ามากกว่าในเรื่องของคุณภาพ ราคาที่เหมาะสม”

สำหรับยอดขายของเปี๊ยก ปลาหมึก อยู่ที่ประมาณปีละ 20 ล้านบาท กำไรอยู่ที่ประมาณ 30 % มีสมาชิกที่เป็นวิสาหกิจชุมชนประมาณ 80 คน รับซื้อปลาหมึกสดจากเครือข่ายในจังหวัดระยองเป็น หมึกกล้วยอย่างเดียว เพราะเนื้อกำลังพอดีไม่หนาเกินไปเหมือนหมึกหอม หรือ หมึกกระดอง เน้นวัตถุดิบต้องสด เพราะถ้าไม่สดเนื้อจะบาง ไม่อร่อย จุดเด่น อยู่ที่ไม่ใส่สารกันบูด หรือสารกันเชื้อรา ปัจจุบันนิยมใช้กัน เพราะช่วยยืดอายุ และทำให้ได้น้ำหนักมากขึ้น ในช่วงที่หมึกแพง

สำหรับกลุ่มประมงบ้านเพ จะจับหมึกมาขายได้วันละ 200-300 ตันในอดีต แต่ปัจจุบันลดลงไปมาก ดังนั้นผู้ผลิตหมึกแปรรูป จะมีวัตถุดิบลดลง ราคาเพิ่มสูงขึ้น การซื้อจะใช้วิธีการประมูล โดยราคาจะไม่เกินกิโลกรัมละ 70 บาท ขนาดปลาหมึกมีตั้งแต่ 3 นิ้วถึง 6 นิ้ว ซึ่งปัญหาวัตถุดิบปัจจุบัน คือ การแย่งซื้อ เพื่อนำหมึกสดไปปรุงอาหารในร้านอาหาร และการแย่งซื้อเพื่อนำไปแปรรูป ซึ่งนับวันมีปริมาณมากขึ้น

ส่วนราคาปลาหมึกปรุงรสขายปัจจุบันกิโลกรัมละ 350 บาท ตลาดส่งออกหลัก คือ ประเทศญี่ปุ่น ตลาดในประเทศ ประกอบด้วย การส่งขายในซุปเปอร์มาร์เก็ต โมเดิร์นเทรด และตลาดนักท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยว วันหนึ่งต้องใช้หมึกวัตถุดิบมากถึง 200 กิโลกรัม

นายมงคล เล่าว่า ที่มาของชื่อ “เปี๊ยกปลาหมึก” นั้น เกิดจากความคิดว่า คนไทยนิยมของนอก โดยเฉพาะหมึกญี่ปุ่น ทั้งที่ขายกันอยู่ก็หมึกไทย คนผลิตก็เป็นคนไทย ทำไมต้องใช้ชื่อต่างประเทศ ดังนั้น ในตลาดซุปเปอร์เก็ต ยี่ห้อ “เปี๊ยก” จึงต้องเผชิญกับยี่ห้อที่ตั้งเป็นภาษาต่างประเทศ หรือ ที่ทำให้เข้าใจว่าเป็นของนอก เราจึงอยากธำรงไว้ซึ่งสินค้าผลิตภัณฑ์คุณภาพชุมชนให้คนไทยและคนต่างชาติยอมรับ

โทร. 08-1628-3304