นายกฯ ระบุนโยบายหลักรัฐบาลมุ่งใช้ ศก.เชิงสร้างสรรค์ เสริมขีดความสามารถให้เอสเอ็มอี โดยใช้ความรู้ เพิ่มนวัตกรรม ประยุกต์เข้ากับภูมิปัญญาและวัฒนธรรมเพื่อสร้างจุดขาย และเพิ่มมูลค่า ประกาศปรับโครงสร้างประเทศด้วย ศก.สร้างสรรค์
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในการเปิดงาน Thailand SME Expo 2011ว่า ในแผนการส่งเสริม SMEs ฉบับที่ 3 (พ.ศ.2555 - 2559) ซึ่งสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) อยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำ ได้กำหนดทิศทางเน้นต่อยอดและประยุกต์ใช้องค์ความรู้ นวัตกรรม รวมทั้งแนวคิดเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ เพื่อให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ และเพิ่มศักยภาพให้กับ SMEs ไทยให้เติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืน เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทย
ทั้งนี้ อาจกล่าวได้ว่า SMEs ในภาคการผลิตเกือบทั้งหมดจะเป็นกลุ่มรับจ้างผลิตส่วนประกอบในรูปแบบ OEM (Original Equipment Manufacturer) ให้บริษัทขนาดใหญ่ แต่ในปัจจุบัน SMEs ของไทยหลายกลุ่มได้พัฒนาตัวเองจนสามารถสร้างมูลค่าให้สินค้าและบริการของไทย เช่น ผู้ผลิตสินค้า OTOP สร้างรายได้ด้วยการนำเอาภูมิปัญญาและวัฒนธรรมของไทยมาประยุกต์ผสมผสานกับผลิตภัณฑ์และบริการจนเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศจำนวนมาก ดังนั้น ประเทศไทย ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องทุนทางวัฒนธรรมและ ภูมิปัญญาซึ่งมีอยู่ในทุกพื้นที่ และจะสามารถเป็นจุดขายสำคัญที่เอามาต่อยอดเข้ากับทั้งสินค้าและบริการได้อย่างดียิ่ง
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยเริ่มกระบวนการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับใหม่ ซึ่งได้มีการพิจารณาถึงแนวทางการลงทุนที่จะสนับสนุนเพื่อปรับทิศทางของเศรษฐกิจไทยด้วยแนวคิดเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ด้วยการวางยุทธศาสตร์ระยะกลางและระยะยาว เพื่อสร้างมูลค่าการผลิตสินค้าและบริการให้เพิ่มสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และได้กำหนดนโยบายในการขยายฐานบริการในโครงสร้างการผลิตของประเทศ และเชื่อมโยงธุรกิจภาคบริการ อุตสาหกรรม และเกษตรเข้าด้วยกันให้เป็นกลุ่มสินค้า เช่น ธุรกิจสุขภาพ อาหารและการท่องเที่ยว รวมทั้งสินค้าบริการที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ บนพื้นฐานวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย ที่เชื่อมโยงกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ อีกทั้ง รัฐบาลจะผลักดันให้เกิดวิสาหกิจเพื่อสังคม เพื่อการพัฒนา SMEs อย่างยั่งยืน และลดการเหลี่ยมล้ำในสังคม
สำหรับงาน Thailand SME Expo 2011 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-13 มีนาคม ณ ชาเลนเจอร์ 2 เมืองทองธานี
