xs
xsm
sm
md
lg

‘บ้านปาย’ ร้านอาหารทำเลทอง เสิร์ฟเมนูนานาชาติจูงใจลูกค้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หัวใจสำคัญข้อหนึ่งของการทำธุรกิจร้านอาหารให้ประสบความสำเร็จ คือ ทำเลที่ตั้ง อย่างร้าน “บ้านปาย” คว้าโอกาสเกาะกระแสฮิตท่องเที่ยว อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เข้ายึดทำเลทองใจกลางถนนคนเดินที่ถือเป็นศูนย์รวมเศรษฐกิจในท้องถิ่น พร้อมสร้างจุดขายด้วยบริการเมนูหลากหลายกว่า 200 รายการ ไม่ว่าจะเป็นอาหารท้องถิ่นและสากล เพื่อจูงใจลูกค้าทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยว และคนในพื้นที่

ร้านแห่งนี้ ก่อสร้างเมื่อประมาณ พ.ศ.2548 ริเริ่มโดยสุริย์ลักษณ์ ติยาโคตร และภายหลังได้มีหุ้นส่วนเพิ่ม 3 ท่าน ได้แก่ ชนัชญ์ ณรงค์ทิพย์ วิริทธิ์ จุ่งสกุล และประยุทธ์ จุ่งสกุล โดยเป็นร้านสไตล์เปิดโล่ง ปรับปรุงจากบ้านเก่า อายุเกือบ 100 ปี ที่อยู่ในถนนคนเมือง อ.ปาย มาทำเป็นร้านอาหาร
ประยุทธ์ จุ่งสกุล  ชนัชญ์ ณรงค์ทิพย์  และวิริทธิ์ จุ่งสกุล (จากซ้ายมาขวา) 3 หุ้นส่วนร้าน
ชนัชญ์ เป็นตัวแทนบอกเล่าว่า พื้นฐานเคยทำงานอยู่ในแวดวงโรงแรม กับท่องเที่ยว และยังมีร้านอาหารของตัวเองอยู่ที่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ทำให้เห็นศักยภาพการท่องเที่ยว อ.ปาย ที่เชื่อว่ายังมีโอกาสเติบโตอีกสูง เมื่อได้รับการชักชวนให้มาร่วมทำร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีมากจึงเกิดความสนใจ พร้อมไปชวนเพื่อนอีก 2 ท่านมาร่วมหุ้น

“ข้อได้เปรียบประการสำคัญของร้านเรา คือ อยู่ในทำเลที่ถือว่าเป็นศูนย์กลางของปายอย่างแท้จริง โดยตั้งอยู่ใจกลางของถนนคนเดิน ซึ่งนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศเดินผ่านไปมาจำนวนมาก ดังนั้น การวางจุดขายของเรา จะเน้นความสะดวกสบายของลูกค้า ทั้งกรุ๊ปทัวร์ และนักท่องเที่ยวที่สามารถมากินอาหารที่ร้าน แล้วไปเที่ยวถนนคนเดินต่อได้ทันที” ชนัชญ์ เผย
ด้านหน้าร้าน ตั้งอยู่บนถนนคนเดิน
นอกจากนั้น ได้จัดวางเมนูให้หลากหลายที่สุด ปัจจุบันมีกว่า 200 รายการ ทั้งอาหารไทย จีน ฝรั่งเศส อิตาเลียน อเมริกัน และอาหารท้องถิ่น เป็นต้น เพื่อกระจายกลุ่มลูกค้าให้กว้างที่สุด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทย และต่างชาติ รวมถึง คนในท้องที่ และใกล้เคียง

“พวกเราตั้งใจแต่แรกว่าจะเปิดร้านอาหารให้ได้ตลอดทั้งปี ถ้าจะหวังหรือยึดติดเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ส่วนใหญ่จะมาช่วงไฮซีซั่น ประมาณเดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ ระยะเวลาจะสั้นเกินไป ไม่สามารถจะหล่อเลี้ยงธุรกิจได้เพียงพอ ดังนั้น เราจึงวางเมนูให้ครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม เพื่อรอบรับลูกค้าตลอดทั้งปี เช่น เมนูท้องถิ่นจะเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่อยากกินแบบต้นตำรับ ส่วนเมนูอาหารต่างประเทศก็จะเป็นของแปลกใหม่สำหรับคนในท้องถิ่น ช่วยให้ช่วงโลว์ซีซั่น จะได้ลูกค้าคนในปาย หรือละแวกใกล้เคียง เข้ามากินเสมอ ทำให้ร้านมีเงินสดเข้ามาหมุนเวียน ตลอดทั้งปี” เจ้าของธุรกิจ อธิบาย

ร้านบ้านปาย มีเนื้อที่ประมาณ 170 ตารางวา รองรับลูกค้าได้ทั้งสิ้น 180 ที่นั่ง ถือเป็นร้านอาหารที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดตลอดเส้นถนนคนเดิน อ.ปาย ราคาอาหารเฉลี่ยจานละ 100 กว่าบาท ใกล้เคียงกับราคาของร้านอื่นๆ ในละแวกใกล้เคียง พยายามกำหนดให้ต่อจานหลังหักต้นทุนวัตถุดิบ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ แล้ว เหลือกำไรสุทธิประมาณ 30% โดยเฉลี่ยลูกค้าที่เข้าร้านจะใช้จ่ายประมาณ 100-200 บาทต่อคน
หน้าร้าน
จากที่เคยอยู่ในวงการโรงแรมมายาวนาน ชนัชญ์ ระบุว่า ได้นำประสบการณ์มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ ทั้งด้านบริหารและตลาด กล่าวคือ คุณภาพอาหารจะปรุงโดยเชฟจากโรงแรมมีทั้งเชฟคนไทยและต่างชาติ จัดฝึกอบรมพนักงานเสิร์ฟและครัวที่มีประมาณ 20 คนให้สามารถบริการได้ใกล้เคียงมาตรฐานโรงแรม ส่วนการตลาดใช้สายสัมผัสดั้งเดิมติดต่อบริษัททัวร์และเอเยนต์นำคณะทัวร์มาลงที่ร้าน

เจ้าของธุรกิจ อธิบายต่อว่า สัดส่วนลูกค้าของร้าน ประมาณ 40% เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่จะเดินเข้ามากินด้วยตัวเอง อีก 30% เป็นคนในท้องถิ่น และที่เหลือ 30% เป็นลูกค้าคณะทัวร์ รายได้ของร้านยังไม่หักค่าใช้จ่ายต่างๆ ประมาณ 40,000-100,000 บาทต่อวัน และตั้งเป้าว่าจะยอดขายปีนี้ จะเพิ่มเป็น 60,000-120,000 บาทต่อวัน

ในส่วนปัญหาธุรกิจ แม้จะมีข้อได้เปรียบด้านทำเลอยู่จุดศูนย์กลางชุมชน แต่อีกมุมกลับเป็นข้อด้อย เพราะไม่มีที่จอดภายในบริเวณร้าน อีกทั้ง รถใหญ่ไม่สามารถขับเข้ามาที่ถนนคนเดินได้ ทำให้ลูกค้าต้องไปจอดรถค่อนข้างไกล แนวทางแก้ไขพยายามประสานขอใช้พื้นที่จากสถานที่ใกล้เคียง เพื่อจอดรถชั่วคราว รวมถึง ชี้แจงทำความเข้าใจกับลูกค้า

อีกปัญหาเกิดจากปัจจัยภายนอก ทั้งเศรษฐกิจโลกชะลอตัวและวิกฤตในประเทศ ทำให้ 1-2 ปีที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวมาปายลดน้อยลง กระทบธุรกิจขาดสภาพคล่อง อย่างไรก็ตาม ได้เข้าโครงการขอสินเชื่อเพื่อธุรกิจท่องเที่ยวจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ทำให้ได้แหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำมาเป็นทุนขับเคลื่อนและขยายธุรกิจต่อไป

“ส่วนตัวผมเชื่อว่า ปายยังมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีก เพราะปัจจุบัน การท่องเที่ยวเชียงใหม่ใกล้ถึงจุดอิ่มแล้ว นักท่องเที่ยวเริ่มทยอยไปเที่ยวจังหวัดรอบๆ ข้างแทน ซึ่งปายสามารถเดินทางได้ง่าย แค่ 2 ชั่วโมงจากเชียงใหม่ และยังมีธรรมชาติสวยงาม ซึ่งเหมาะที่จะรองรับลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ได้อีกมาก” ชนัชญ์ กล่าวในตอนท้าย

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
กำลังโหลดความคิดเห็น