สสว. จับมือATSI หนุนผู้ประกอบการ SMEs ใช้ซอฟต์แวร์ไทยยกระดับบริหารจัดการข้อมูล เอกสาร สินค้าและการบริการให้มีมาตรฐานเทียบเท่าระบบสากล ในราคาสูงถึง 50% หวังกระตุ้นตัวเลขซื้อขายซอฟต์แวร์ฝีมือคนไทย ในปี 2553 คาดเพิ่มถึง 15% ตั้งเป้า 200 ล้านบาท
ชาญณรงค์ อร่ามกุล ผู้อำนวยการฝ่ายยุทธศาสตร์วิสาหกิจรายย่อย สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) เผยว่า สสว. ร่วมกับ สมาคมอุตสาหกรรมซอฟแวร์ไทย(ATSI) จัดทำ “โครงการส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs ด้วยซอฟต์แวร์ไทย” เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SMEs นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการข้อมูล เอกสาร สินค้า และบริการให้มีมาตรฐานสูงสุด และยังสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายและการลงทุนให้แก่ผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทย และพัฒนาวิสาหกิจ SMEs ที่ดำเนินการอยู่แล้วให้ขยายตัวเทียบเท่าระบบสากล และสามารถแข่งขันได้ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก
ทั้งนี้ วางเป้าหมายของโครงการไว้สองส่วน คือ สามารถส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ที่ใช้ซอฟต์แวร์ไทยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในขณะที่การลงทุนของผู้ประกอบการลดลงและสามารถขยายการลงทุนได้มากยิ่งขึ้น โดย สสว. ได้อนุมัติงบประมาณ จำนวน 10 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนธุรกิจ SMEs ในการลงทุนซื้อซอฟต์แวร์ไทยกับบริษัทผู้ประกอบการ 40 บริษัทที่เข้าร่วมโครงการในราคา 50%(ตามเงื่อนไขโครงการ) และผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ สามารถรับเงินส่วนต่างที่ทาง สสว.สนับสนุนทันทีที่โครงการเสร็จสิ้นลง
ในส่วนที่สอง คือ การขยายตลาดและเพิ่มตัวเลขการซื้อขายซอฟต์แวร์ไทย ในกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs มากขึ้น เพื่อเสริมสร้างระบบ SMEs ให้พัฒนาเติบโตโดยมีศักยภาพมากยิ่งขึ้นในอนาคต
“ซอฟต์แวร์ไทยจะเป็นตัวแปรที่ทำให้เกิดข้อได้เปรียบให้กับผู้ประกอบการ SMEs ไทย และการที่จะก้าวไปสู่โลกของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC (ASEAN Economic Community) ในปี 2015 ซึ่งเป็นโจทย์ที่ทางสมาคมและ สสว. ร่วมมือกันส่งเสริมศักยภาพของการพัฒนาคุณภาพซอฟต์แวร์ไทยโดยผู้ประกอบการ SMEs จะนำเอาซอฟต์แวร์ไทยเข้ามาพัฒนาธุรกิจตนเองและขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าให้ได้ใช้สินค้าที่มีคุณภาพสูงสุด ” นายชาญณรงค์ กล่าว
ด้านสมเกียรติ อึงอารี นายกสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย กล่าวว่า ทางสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทยได้วางแผนดำเนินงานของโครงการ “ส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs ด้วยซอฟต์แวร์ไทย” ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม ถึง 15 เมษายน 2553 โดยสมาคมฯ ได้คัดเลือกบริษัท จำนวน 40 ราย มานำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการซอฟต์แวร์ไทยให้กับผู้ประกอบการ SMEs ในราคาส่วนลดสูงถึง 50% ไม่เกินสองหมื่นบาท(ตามเงื่อนไขโครงการ) ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้ประกอบการ SMEs ที่จะใช้ซอฟต์แวร์ในโครงการนี้ไม่น้อยกว่า 300 ราย
สำหรับความร่วมมือกับ สสว. ในครั้งนี้ถือเป็นการเข้ามากระตุ้นตลาดในช่วงไตรมาสแรก โดยคาดว่าจะส่งผลให้ตลาดธุรกิจ SMEs ของผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทยจากกำลังซื้อที่จะเพิ่มขึ้นถึง 15% ไตรมาสแรกนี้ และจะกลับมาอยู่ที่ 10% ในไตรมาส 2-3 ซึ่งหากโครงการต่างๆ ของสมาคมฯ เป็นไปตามขั้นตอนที่วางเอาไว้ จะสามารถทำให้ยอดรวมของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย พุ่งถึง 200 ล้านบาท
ชาญณรงค์ อร่ามกุล ผู้อำนวยการฝ่ายยุทธศาสตร์วิสาหกิจรายย่อย สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) เผยว่า สสว. ร่วมกับ สมาคมอุตสาหกรรมซอฟแวร์ไทย(ATSI) จัดทำ “โครงการส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs ด้วยซอฟต์แวร์ไทย” เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SMEs นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการข้อมูล เอกสาร สินค้า และบริการให้มีมาตรฐานสูงสุด และยังสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายและการลงทุนให้แก่ผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทย และพัฒนาวิสาหกิจ SMEs ที่ดำเนินการอยู่แล้วให้ขยายตัวเทียบเท่าระบบสากล และสามารถแข่งขันได้ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก
ทั้งนี้ วางเป้าหมายของโครงการไว้สองส่วน คือ สามารถส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ที่ใช้ซอฟต์แวร์ไทยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในขณะที่การลงทุนของผู้ประกอบการลดลงและสามารถขยายการลงทุนได้มากยิ่งขึ้น โดย สสว. ได้อนุมัติงบประมาณ จำนวน 10 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนธุรกิจ SMEs ในการลงทุนซื้อซอฟต์แวร์ไทยกับบริษัทผู้ประกอบการ 40 บริษัทที่เข้าร่วมโครงการในราคา 50%(ตามเงื่อนไขโครงการ) และผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ สามารถรับเงินส่วนต่างที่ทาง สสว.สนับสนุนทันทีที่โครงการเสร็จสิ้นลง
ในส่วนที่สอง คือ การขยายตลาดและเพิ่มตัวเลขการซื้อขายซอฟต์แวร์ไทย ในกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs มากขึ้น เพื่อเสริมสร้างระบบ SMEs ให้พัฒนาเติบโตโดยมีศักยภาพมากยิ่งขึ้นในอนาคต
“ซอฟต์แวร์ไทยจะเป็นตัวแปรที่ทำให้เกิดข้อได้เปรียบให้กับผู้ประกอบการ SMEs ไทย และการที่จะก้าวไปสู่โลกของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC (ASEAN Economic Community) ในปี 2015 ซึ่งเป็นโจทย์ที่ทางสมาคมและ สสว. ร่วมมือกันส่งเสริมศักยภาพของการพัฒนาคุณภาพซอฟต์แวร์ไทยโดยผู้ประกอบการ SMEs จะนำเอาซอฟต์แวร์ไทยเข้ามาพัฒนาธุรกิจตนเองและขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าให้ได้ใช้สินค้าที่มีคุณภาพสูงสุด ” นายชาญณรงค์ กล่าว
ด้านสมเกียรติ อึงอารี นายกสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย กล่าวว่า ทางสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทยได้วางแผนดำเนินงานของโครงการ “ส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs ด้วยซอฟต์แวร์ไทย” ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม ถึง 15 เมษายน 2553 โดยสมาคมฯ ได้คัดเลือกบริษัท จำนวน 40 ราย มานำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการซอฟต์แวร์ไทยให้กับผู้ประกอบการ SMEs ในราคาส่วนลดสูงถึง 50% ไม่เกินสองหมื่นบาท(ตามเงื่อนไขโครงการ) ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้ประกอบการ SMEs ที่จะใช้ซอฟต์แวร์ในโครงการนี้ไม่น้อยกว่า 300 ราย
สำหรับความร่วมมือกับ สสว. ในครั้งนี้ถือเป็นการเข้ามากระตุ้นตลาดในช่วงไตรมาสแรก โดยคาดว่าจะส่งผลให้ตลาดธุรกิจ SMEs ของผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทยจากกำลังซื้อที่จะเพิ่มขึ้นถึง 15% ไตรมาสแรกนี้ และจะกลับมาอยู่ที่ 10% ในไตรมาส 2-3 ซึ่งหากโครงการต่างๆ ของสมาคมฯ เป็นไปตามขั้นตอนที่วางเอาไว้ จะสามารถทำให้ยอดรวมของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย พุ่งถึง 200 ล้านบาท