กรมส่งออกเผย ยอดส่งออกปลาร้ากระป๋องไปประเทศสหรัฐฯ ของ 10 เดือนแรกปีที่แล้วกว่า 27 ลบ. ชี้ตลาดมีแนวโน้มเติบโตยิ่งขึ้น เพราะปัจจุบันชาวไทย และชาวอินโดจีนไปทำงานในแดนมะกันเพิ่มขึ้นสม่ำเสมอ ทำให้ความต้องการปลาร้าในต่างแดนสูงขึ้นตามไปด้วย แนะสร้างมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อสะดวกในการบุกตลาดส่งออก
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า ปลาหมักดอง หรือ ปลารา (Pickled Preserved Fish) จากประเทศไทย ในช่วง 10 เดือนของปี 2552 ที่ผ่านมา ประเทศสหรัฐอเมริกา (มกราคม-ตุลาคม) มีการนำเข้าเปนมูลคาประมาณ 0.84 ลานสหรัฐฯ (ประมาณ 27 ลานบาท)
ทั้งนี้ การบริโภคปลาหมักดองของผู้บริโภคชาวสหรัฐฯ ไม่แพร่หลายมากนัก แต่กลุ่มผู้บริโภคปลาหมักดอง/ปลาร้าในสหรัฐฯ ที่สำคัญ คือ คนไทยที่ไปทำงานสหรัฐฯ รวมถึง กลุ่มผู้อพยพชาวอินโดจีน ได้แก่ ชาวลาว ชาวเขมร และชาวเวียดนาม ที่กระจัดกระจายทั่วประเทศสหรัฐฯ โดยมลรัฐแคลิฟอร์เนียเป็นพื้นที่ผู้บริโภคอินโดจีนอาศัยอยู่มากที่สุด และมลรัฐเท็กซัสมากเป็นอันดับที่สอง ซึ่งกลุ่มลูกหลานของผู้อพยพอินโดจีนที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯส่วนใหญ่ยังคงไม่ละทิ้งอาหารประจำชาติ และรักษาขนบธรรมเนียมการบริโภคอาหารของชาติตนเอง อีกทั้งผู้บริโภคในกลุ่มนี้มีการขยายตัวจำนวนประชากรในอัตราสูงและต่อเนื่อง จึงแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มความต้องการบริโภคและการขยายตลาดปลาหมักดองหรือปลาร้าของไทยเพิ่มมากขึ้นในอนาคตในตลาดสหรัฐฯ
นอกจากนั้น ปัจจุบันเทคโนโลยีและเครื่องมือเครื่องจักรทันสมัยได้เข้ามามีบทบาทในการพัฒนารูปแบบ การผลิตปลาหมักดองให้มีคุณภาพ ถูกสุขลักษณะ ผ่านการฆ่าเชื้อ (pasteurize) เพื่อรักษาคุณภาพ รสชาติ และมีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น ทำให้ตลาดการบริโภคปลาหมักดอง (ปลาร้า) มีแนวโน้มสดใส ในสหรัฐอเมริกา และมีโอกาสขยายตัวได้อีกมากในอนาคต
นางศรีรัตน์ กล่าวต่อว่า ปลาหมักดองหรือปลาร้าเป็นสินค้าที่มีอัตราความปลอดภัยต่ำ และถูกตรวจสอบในการนำเข้าอย่างเข้มงวด ดังนั้น ผู้ผลิต/ส่งออก สมาคม และภาครัฐที่เกี่ยวข้อง จะต้องหันมาร่วมมือและช่วยกันยกระดับอุตสาหกรรมการผลิตปลาร้าของไทยให้มีมาตรฐานสุขลักษณะสูงขึ้น(Sanitation Standard) รวมไปถึงการจัดทำระบบการผลิตให้ตรงตามมาตรฐาน HACCP ซึ่งเป็นระบบการจัดการและควบคุมกระบวนการผลิตให้ผลิตภัณฑ์อาหารปลอดภัย ปราศจากอันตรายจากจุลินทรีย์และสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ตามมาตรฐานสากล และเป็นข้อกำหนดสำคัญของสหรัฐฯ ซึ่งกำหนดโรงงานผลิตสินค้าปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อสนับสนุนการส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารไทยไปยังสหรัฐฯ
“ผู้ผลิต/ผู้ส่งออกไทยที่ต้องการขยายตลาดปลาร้าในสหรัฐฯควรมุ่งไปยังกลุ่มผู้อพยพอินโดจีนและครอบครัวที่อาศัยในรัฐแคลิฟอเนีย รัฐเท็กซัส และรัฐมินเนโซต้า เป็นสำคัญ โดยติดต่อไปยังผู้นำเข้าอาหารเอเซียในรัฐแคลิฟอร์เนียหรือรัฐนิวยอร์ก ซึ่งจะเป็นผู้นำเข้าและกระจายสินค้าไปอีกทอดหนึ่ง ในกรณีที่ผู้ส่งออกไทยมีคำถามและข้อสงสัยในการส่งออกปลาหมักดอง/ปลาร้า สามารถสอบถามได้ยังหน่วยงาน FDA สหรัฐฯที่รับผิดชอบได้โดยตรงทาง LACF@FDA.HHS.GOV” นางศรีรัตน์ กล่าว