ขยายเวลาดำเนินการของ ศปส. ออกไปอีก 6 เดือน ช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่กำลังขาดสภาพคล่อง ป้องกันเป็นหนี้เน่า ชี้มีเอสเอ็มอีรอรับความช่วยเหลืออีกกว่า 280 ราย ระบุนับแต่เปิดศูนย์ ช่วยยุติเรื่องได้กว่า 1,656 กรณี หรือกว่าร้อยละ 89
นายสรสิทธิ์ สุนทรเกศ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้มีมติขยายเวลาของศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาการปล่อยสินเชื่อ (ศปส.) ออกไปอีก 6 เดือน หรือไปจนถึงมีนาคม 2553 เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ที่เวลานี้ยังไม่เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) แต่กำลังประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งพบว่า ขณะนี้มีเอสเอ็มอี กว่า 283 ราย มีความประสงค์จะให้ ศปส. เข้ามาช่วยประนอมหนี้ ป้องกันจะกลายเป็นหนี้เสีย
นายสรสิทธิ์ ระบุด้วยว่า นับตั้งแต่ ธปท. ดำเนินการเปิด ศปส. จนถึง 14 ตุลาคม 2552 ได้รับเรื่องรวม 1,859 เรื่อง โดยเรื่องที่มีการร้องเรียน คือ ธนาคารไม่ปล่อยสินเชื่อโดยไม่บอกสาเหตุ ขอแหล่งเงินกู้ใหม่ การรีไฟแนนซ์มีความล่าช้า มีการทวงถามหนี้จนให้เกิดความอับอาย โดย ศปส.ได้ดำเนินการประสานกับธนาคารพาณิชย์เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวแล้ว และสามารถยุติเรื่องได้ 1,656 เรื่อง หรือร้อยละ 89 ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไข
“การตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาการปล่อยสินเชื่อ หรือ ศปส.จะบรรเทาปัญหาเอ็นพีแอล ที่อาจจะสูงขึ้นในอนาคต ทำให้เอสเอ็มอีมีทางออกมากขึ้นในการผ่อนปรนเงื่อนไขชำระหนี้เพื่อให้สามารถทำธุรกิจต่อไปได้” นายสรสิทธิ์ กล่าว
สำหรับศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาการปล่อยสินเชื่อ (ศปส.) มีหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางประสานกับธนาคารพาณิชย์ ให้มีการเจรจาผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ของลูกหนี้ กลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอ ผู้ประกอบการที่ต้องการความช่วยเหลือ ติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 -283- 5900 ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.
นายสรสิทธิ์ สุนทรเกศ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้มีมติขยายเวลาของศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาการปล่อยสินเชื่อ (ศปส.) ออกไปอีก 6 เดือน หรือไปจนถึงมีนาคม 2553 เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ที่เวลานี้ยังไม่เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) แต่กำลังประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งพบว่า ขณะนี้มีเอสเอ็มอี กว่า 283 ราย มีความประสงค์จะให้ ศปส. เข้ามาช่วยประนอมหนี้ ป้องกันจะกลายเป็นหนี้เสีย
นายสรสิทธิ์ ระบุด้วยว่า นับตั้งแต่ ธปท. ดำเนินการเปิด ศปส. จนถึง 14 ตุลาคม 2552 ได้รับเรื่องรวม 1,859 เรื่อง โดยเรื่องที่มีการร้องเรียน คือ ธนาคารไม่ปล่อยสินเชื่อโดยไม่บอกสาเหตุ ขอแหล่งเงินกู้ใหม่ การรีไฟแนนซ์มีความล่าช้า มีการทวงถามหนี้จนให้เกิดความอับอาย โดย ศปส.ได้ดำเนินการประสานกับธนาคารพาณิชย์เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวแล้ว และสามารถยุติเรื่องได้ 1,656 เรื่อง หรือร้อยละ 89 ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไข
“การตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาการปล่อยสินเชื่อ หรือ ศปส.จะบรรเทาปัญหาเอ็นพีแอล ที่อาจจะสูงขึ้นในอนาคต ทำให้เอสเอ็มอีมีทางออกมากขึ้นในการผ่อนปรนเงื่อนไขชำระหนี้เพื่อให้สามารถทำธุรกิจต่อไปได้” นายสรสิทธิ์ กล่าว
สำหรับศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาการปล่อยสินเชื่อ (ศปส.) มีหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางประสานกับธนาคารพาณิชย์ ให้มีการเจรจาผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ของลูกหนี้ กลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอ ผู้ประกอบการที่ต้องการความช่วยเหลือ ติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 -283- 5900 ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.
