สสว. จัดสัมมนาการขอรับรองมาตรฐานคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อน มุ่งให้เกิดการพัฒนาที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก สพท. โดยเชิญผู้บริหารแหล่งน้ำพุร้อนภาคใต้เข้าร่วมสัมมนาที่ The Hotspring Beach พังงา หวังเสริมศักภาพและขยายโอกาสให้ SMEs เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
นายภักดิ์ ทองส้ม รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สสว. ดำเนินโครงการอบรมและสัมมนาการขอรับรองมาตรฐานคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพประเภทน้ำพุร้อนธรรมชาติ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อนที่อยู่ในประเทศไทย ให้ได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพประเภทน้ำพุร้อนธรรมชาติ จากสำนักงานพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยว (สพท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขณะเดียวกันก็เพื่อเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาพื้นที่ให้กับผู้ประกอบการ SMEs ภายใต้การบริหารจัดการในการใช้ประโยชน์พื้นที่ให้เกิดความยั่งยืน ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมโดยรอบ และจูงใจนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้เข้ามาท่องเที่ยวต่อไป
“จุดมุ่งหมายสำคัญอีกประการหนึ่งของการอบรมสัมมนา ก็เพื่อกำหนดรูปแบบและมาตรฐานหลักของแหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อน เพื่อเป็นเกณฑ์มาตรฐานและเป็นต้นแบบในการพัฒนาพื้นที่อื่นๆ โดยใช้แหล่งน้ำพุร้อนที่ The Hotspring Beach จังหวัดพังงา เป็นพื้นที่ในการเรียนรู้เชิงปฏิบัติการในการพัฒนามาตรฐานคุณภาพของแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติ“ นายภักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ สสว. ได้จัดให้มีกิจกรรมอบรมและสัมมนา “การขอรับรองมาตรฐานคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพประเภทน้ำพุร้อนธรรมชาติ” ขึ้น เพื่อเป็นการให้ความรู้แก่หน่วยงานภาครัฐ ที่กำกับดูแลพื้นที่น้ำพุร้อน ทั้ง อบจ. อบต. เทศบาล ฯลฯ รวมทั้งภาคเอกชนที่เป็นเจ้าของพื้นที่น้ำพุร้อน ผู้ประกอบการ SMEs ในธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานที่มีความรู้ ความชำนาญในแต่ละสาขาที่เกี่ยวข้อง มาให้ความรู้ตามคู่มือการประเมินมาตรฐานคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวชิงสุขภาพประเภทน้ำพุร้อน โดยดำเนินการครั้งแรกที่จังหวัดเชียงใหม่ ครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือ และล่าสุดจัดที่จังหวัดพังงา ครอบคลุมพื้นที่ภาคใต้
“การอบรมสัมมนานี้ เป็นบูรณาการร่วมกันในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวประเภทน้ำพุร้อนธรรมชาติ ทั้งของภาครัฐและภาคเอกชนให้ได้มาตรฐาน เพื่อให้เกิดการส่งเสริมพัฒนาและเผยแพร่แหล่งท่องเที่ยวดังกล่าว ให้เป็นที่รู้จักและได้รับความเชื่อถือจากนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังเป็นการเสริมสร้างผู้ประกอบการใหม่และสนับสนุนผู้ประกอบการเดิม ให้พัฒนาศักยภาพและเป็นรากฐานสำคัญของการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศต่อไป” นายภักดิ์ กล่าว
สำหรับการดำเนินงานดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ซึ่งเป็นการส่งเสริมและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติในรูปแบบต่างๆ ให้มีการใช้ประโยชน์ในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพและมีความยั่งยืน ขณะเดียวกันยังเป็นการสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ SMEs ในธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โดยในส่วนของโครงการประเภทน้ำพุร้อนธรรมชาติ ที่ผ่านมา สสว. ได้ร่วมกับ อบจ. อบต. เทศบาล รวมทั้งผู้ประกอบการ SMEs ที่เป็นเจ้าของพื้นที่ ในการพัฒนาเพื่อเสริมศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อนมาตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งโครงการที่ได้ดำเนินการแล้ว เช่น น้ำพุร้อนป่าตึง จ.เชียงราย น้ำพุร้อนฝาง น้ำพุร้อนโป่งเดือด และน้ำพุร้อนดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ น้ำพุร้อนสวนรักษะวาริน จ.ระนอง เป็นต้น นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการประสานความร่วมมือกับเจ้าของพื้นที่ ทั้งที่อยู่ในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ อีกหลายแห่ง
นายภักดิ์ ทองส้ม รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สสว. ดำเนินโครงการอบรมและสัมมนาการขอรับรองมาตรฐานคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพประเภทน้ำพุร้อนธรรมชาติ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อนที่อยู่ในประเทศไทย ให้ได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพประเภทน้ำพุร้อนธรรมชาติ จากสำนักงานพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยว (สพท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขณะเดียวกันก็เพื่อเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาพื้นที่ให้กับผู้ประกอบการ SMEs ภายใต้การบริหารจัดการในการใช้ประโยชน์พื้นที่ให้เกิดความยั่งยืน ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมโดยรอบ และจูงใจนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้เข้ามาท่องเที่ยวต่อไป
“จุดมุ่งหมายสำคัญอีกประการหนึ่งของการอบรมสัมมนา ก็เพื่อกำหนดรูปแบบและมาตรฐานหลักของแหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อน เพื่อเป็นเกณฑ์มาตรฐานและเป็นต้นแบบในการพัฒนาพื้นที่อื่นๆ โดยใช้แหล่งน้ำพุร้อนที่ The Hotspring Beach จังหวัดพังงา เป็นพื้นที่ในการเรียนรู้เชิงปฏิบัติการในการพัฒนามาตรฐานคุณภาพของแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติ“ นายภักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ สสว. ได้จัดให้มีกิจกรรมอบรมและสัมมนา “การขอรับรองมาตรฐานคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพประเภทน้ำพุร้อนธรรมชาติ” ขึ้น เพื่อเป็นการให้ความรู้แก่หน่วยงานภาครัฐ ที่กำกับดูแลพื้นที่น้ำพุร้อน ทั้ง อบจ. อบต. เทศบาล ฯลฯ รวมทั้งภาคเอกชนที่เป็นเจ้าของพื้นที่น้ำพุร้อน ผู้ประกอบการ SMEs ในธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานที่มีความรู้ ความชำนาญในแต่ละสาขาที่เกี่ยวข้อง มาให้ความรู้ตามคู่มือการประเมินมาตรฐานคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวชิงสุขภาพประเภทน้ำพุร้อน โดยดำเนินการครั้งแรกที่จังหวัดเชียงใหม่ ครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือ และล่าสุดจัดที่จังหวัดพังงา ครอบคลุมพื้นที่ภาคใต้
“การอบรมสัมมนานี้ เป็นบูรณาการร่วมกันในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวประเภทน้ำพุร้อนธรรมชาติ ทั้งของภาครัฐและภาคเอกชนให้ได้มาตรฐาน เพื่อให้เกิดการส่งเสริมพัฒนาและเผยแพร่แหล่งท่องเที่ยวดังกล่าว ให้เป็นที่รู้จักและได้รับความเชื่อถือจากนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังเป็นการเสริมสร้างผู้ประกอบการใหม่และสนับสนุนผู้ประกอบการเดิม ให้พัฒนาศักยภาพและเป็นรากฐานสำคัญของการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศต่อไป” นายภักดิ์ กล่าว
สำหรับการดำเนินงานดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ซึ่งเป็นการส่งเสริมและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติในรูปแบบต่างๆ ให้มีการใช้ประโยชน์ในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพและมีความยั่งยืน ขณะเดียวกันยังเป็นการสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ SMEs ในธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โดยในส่วนของโครงการประเภทน้ำพุร้อนธรรมชาติ ที่ผ่านมา สสว. ได้ร่วมกับ อบจ. อบต. เทศบาล รวมทั้งผู้ประกอบการ SMEs ที่เป็นเจ้าของพื้นที่ ในการพัฒนาเพื่อเสริมศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อนมาตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งโครงการที่ได้ดำเนินการแล้ว เช่น น้ำพุร้อนป่าตึง จ.เชียงราย น้ำพุร้อนฝาง น้ำพุร้อนโป่งเดือด และน้ำพุร้อนดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ น้ำพุร้อนสวนรักษะวาริน จ.ระนอง เป็นต้น นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการประสานความร่วมมือกับเจ้าของพื้นที่ ทั้งที่อยู่ในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ อีกหลายแห่ง