สสว.เดินเครื่องโครงการพัฒนาพื้นที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ล่าสุด ผลักดันบ้านป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย สู่แหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อนในไทย หวังเป็นแหล่งสร้างขยายโอกาส กระตุ้นเศรษฐกิจแก่ผู้ประกอบการ SMEs ทั้งทางตรงและอ้อม พร้อมเชิญผู้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากญี่ปุ่นให้คำปรึกษาโครงการ
นางจิตราภรณ์ เตชาชาญ ผู้อำนวยกาสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวภายหลังการเปิดการประชุมสัมมนา Focus Group เรื่องการพัฒนาและบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อน (Hot Springs) ว่า การส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ด้านการท่องเที่ยว สสว. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพัฒนาพื้นที่ เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ SMEs ในการเข้าร่วมพัฒนาและบริหารจัดการพื้นที่ท่องเที่ยวให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยกิจกรรมล่าสุดที่ดำเนินการ คือ การจัดประชุมสัมมนา Focus Group เรื่อง การพัฒนาและบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อน (Hot Springs) เพื่อจะปูทางพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อนในไทย
“การจัดประชุมสัมมนาครั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านการพัฒนาและบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวประเภทน้ำพุร้อน ให้กับผู้ประกอบการ SMEs และผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้ที่สนใจเป็นผู้ลงทุนพัฒนาบริหารโครงการ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวน้ำพุร้อน ให้มีคุณภาพ มาตรฐาน รวมทั้งเพื่อเป็นการส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ในการขอรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย” ผอ.สสว. กล่าว
ทั้งนี้ ได้เชิญวิทยากรรับเชิญคือ Mr.Seiji Yoneda (Head Office of Yufuin Hot-Springs Tourism Association) ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาและบริหารจัดการ การให้บริการน้ำพุร้อน จากประเทศญี่ปุ่น มาถ่ายทอดความรู้และข้อเสนอแนะให้กับผู้ประกอบการ SMEs
นอกจากนี้ สสว. ยังจะเชิญ Mr.Seiji Yoneda เยี่ยมชมโครงการนำร่อง ภายใต้โครงการพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติประเภทน้ำพุร้อน เพื่อให้คำปรึกษาแนะนำทั้งในด้านการพัฒนาพื้นที่ การบริหารจัดการและด้านการตลาด ในพื้นที่ท่องเที่ยวน้ำพุร้อนแห่งต่างๆ ได้แก่ น้ำพุร้อนบ้านป่าตึง อ.แม่จัน และ น้ำพุร้อนแม่ขะจาน อ.เวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย น้ำพุร้อนที่บ้านห้วยลึก ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี และน้ำพุร้อน จ.ระนอง
ผอ.สสว. เผยต่อว่า โครงการแหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อน ได้ดำเนินโครงการแห่งแรกโดยลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับองค์การบริหารส่วนตำบลป่าตึง เมื่อปลายปี 2550 เพื่อพัฒนาพื้นที่น้ำพุร้อนป่าตึง ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัด บนเนื้อที่ 25 ไร่ จะพัฒนาเป็นจุดให้บริการอาบน้ำแร่ สปา นวดแผนไทย ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP และการให้บริการที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว
สำหรับความคืบหน้า อยู่ระหว่างดำเนินการพัฒนาพื้นที่ โดย สสว. จะเป็นผู้ประสานความร่วมมือในการเปิดรับสมัครและคัดเลือกผู้ประกอบการ SMEs ที่สนใจและมีศักยภาพ ให้เป็นผู้ลงทุนพัฒนาและบริหารโครงการ ประสานการทำ Business Matching ระหว่างผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับคัดเลือก กับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว รวมถึงประสานแหล่งเงินทุนต่างๆ เพื่อสนับสนุนด้านการเงินในการพัฒนาโครงการให้กับผู้ประกอบการ
นางจิตราภรณ์ เตชาชาญ ผู้อำนวยกาสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวภายหลังการเปิดการประชุมสัมมนา Focus Group เรื่องการพัฒนาและบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อน (Hot Springs) ว่า การส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ด้านการท่องเที่ยว สสว. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพัฒนาพื้นที่ เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ SMEs ในการเข้าร่วมพัฒนาและบริหารจัดการพื้นที่ท่องเที่ยวให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยกิจกรรมล่าสุดที่ดำเนินการ คือ การจัดประชุมสัมมนา Focus Group เรื่อง การพัฒนาและบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อน (Hot Springs) เพื่อจะปูทางพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อนในไทย
“การจัดประชุมสัมมนาครั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านการพัฒนาและบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวประเภทน้ำพุร้อน ให้กับผู้ประกอบการ SMEs และผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้ที่สนใจเป็นผู้ลงทุนพัฒนาบริหารโครงการ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวน้ำพุร้อน ให้มีคุณภาพ มาตรฐาน รวมทั้งเพื่อเป็นการส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ในการขอรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย” ผอ.สสว. กล่าว
ทั้งนี้ ได้เชิญวิทยากรรับเชิญคือ Mr.Seiji Yoneda (Head Office of Yufuin Hot-Springs Tourism Association) ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาและบริหารจัดการ การให้บริการน้ำพุร้อน จากประเทศญี่ปุ่น มาถ่ายทอดความรู้และข้อเสนอแนะให้กับผู้ประกอบการ SMEs
นอกจากนี้ สสว. ยังจะเชิญ Mr.Seiji Yoneda เยี่ยมชมโครงการนำร่อง ภายใต้โครงการพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติประเภทน้ำพุร้อน เพื่อให้คำปรึกษาแนะนำทั้งในด้านการพัฒนาพื้นที่ การบริหารจัดการและด้านการตลาด ในพื้นที่ท่องเที่ยวน้ำพุร้อนแห่งต่างๆ ได้แก่ น้ำพุร้อนบ้านป่าตึง อ.แม่จัน และ น้ำพุร้อนแม่ขะจาน อ.เวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย น้ำพุร้อนที่บ้านห้วยลึก ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี และน้ำพุร้อน จ.ระนอง
ผอ.สสว. เผยต่อว่า โครงการแหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อน ได้ดำเนินโครงการแห่งแรกโดยลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับองค์การบริหารส่วนตำบลป่าตึง เมื่อปลายปี 2550 เพื่อพัฒนาพื้นที่น้ำพุร้อนป่าตึง ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัด บนเนื้อที่ 25 ไร่ จะพัฒนาเป็นจุดให้บริการอาบน้ำแร่ สปา นวดแผนไทย ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP และการให้บริการที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว
สำหรับความคืบหน้า อยู่ระหว่างดำเนินการพัฒนาพื้นที่ โดย สสว. จะเป็นผู้ประสานความร่วมมือในการเปิดรับสมัครและคัดเลือกผู้ประกอบการ SMEs ที่สนใจและมีศักยภาพ ให้เป็นผู้ลงทุนพัฒนาและบริหารโครงการ ประสานการทำ Business Matching ระหว่างผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับคัดเลือก กับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว รวมถึงประสานแหล่งเงินทุนต่างๆ เพื่อสนับสนุนด้านการเงินในการพัฒนาโครงการให้กับผู้ประกอบการ
