เมืองทองธานีอ้อนขอตั้งโต๊ะเจรจา 7 สมาคม กล่อมเปลี่ยนใจย้ายงาน BIG&BIH ไปไบเทค เผยที่ผ่านมาผู้บริหารไม่เคยรู้ปัญหา ด้านนายกสมาคมของขวัญฯ ระบุยังไม่ปิดโอกาส แต่วางกรอบต้องยกระดับมาตรฐานการจัดงาน และให้จัดในเวลาเดิม แย้มมติสมาชิกยังพร้อมใจย้ายไปไบเทค
นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ นายกสมาคมของขวัญ ของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน เปิดเผยว่า จากที่ 7 สมาคม ที่เป็นผู้จัดงานแสดงสินค้าของขวัญ และงานแสดงสินค้าของใช้ในบ้าน (BIG & BIH) ได้แก่ ส.ของขวัญฯ ส.อุตสาหกรรมของเล่นไทย ส.การค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทย ส.เครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงานไทย ส.สินค้าตกแต่งบ้าน ส.ผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ และส.ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์แนวดีไซน์ ได้มีมติร่วมกันที่จะขอย้ายสถานที่การจัดงาน BIG&BIH จากเมืองทองธานี ไปที่ไบเทค บางนา ในปีหน้า (2552) เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกในการจัดงานหลายด้านๆ รวมถึงเวลาการจัดงานไปข้ามเกี่ยวกับงานสถาปนิก
ทั้งนี้ หลังจากมีมติดังกล่าวออกไป ทางผู้บริหารของเมืองทองธานีได้ติดต่อเข้ามาเพื่อขอเจรจาให้ทบทวนมติอีกครั้ง โดยให้เหตุผลว่า การทำงานที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด ด้านผู้บริหารเมืองทองธานีไม่เคยรับทราบถึงปัญหาต่างๆ ดังนั้น ในวันพรุ่งนี้ (27 พ.ค.) ผู้บริหารเมืองทองจึงเชิญ 7 สมาคม เข้ามาพูดคุยถึงความเป็นไปได้เพื่อจะทบทวนมติการย้ายสถานที่จัดงาน
นายจิรบูลย์ ระบุต่อว่า การจะไปพูดคุยดังกล่าว 7 สมาคมจะไม่ปิดโอกาสให้ทางเมืองทองเสียทีเดียว แต่มีกรอบที่วางไว้ คือ ต้องให้ฝ่ายสถานที่ยกระดับการจัดงานให้เป็นมืออาชีพ แก้ปัญหาที่ผ่านมาให้ครบถ้วน อีกทั้ง ช่วงเวลาในการจัดงานต้องเป็นเวลาเดิมที่จัดในทุกๆ ปี
อย่างไรก็ตาม ในความต้องการของสมาชิกเวลานี้ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ อยากจะย้ายไปจัดที่ไบเทคมากกว่า เนื่องจากต้องการยกระดับงาน BIG&BIH ให้เป็นงานแสดงสินค้าของขวัญระดับนานาชาติ ที่ดีที่สุด สินค้าสวยที่สุด ซึ่งไบเทคมีปัจจัยพื้นฐานพร้อมกว่า ไม่ว่าจะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวก สถานที่ และที่สำคัญปีหน้า จะมีรถไฟฟ้า สะดวกต่อผู้ซื้อต่างชาติที่มาเที่ยวชมงานได้มากกว่า
นอกจากนั้น นายจิรบูลย์ เผยว่า ในวันที่ 24-27 กันยายน 2552 ทางสมาคมของขวัญ ของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน จะจัดงาน Gift& Premium ขึ้นเป็นครั้งแรก ณ เอ็มซีซีฮอลล์ เดอะมอลล์บางกะปิ เนื่องจากงาน BIG&BIH จะเน้นตลาดเพื่อการส่งออก มูลค่าตลาดรวมกว่า 62,000 ล้านบาท ในขณะที่มูลค่าตลาดในประเทศนั้น มีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท แต่ที่ผ่านมาผู้ประกอบการสินค้ากลุ่มของที่ระลึกและของพรีเมียม (Promotional Product) ยังไม่มีการรวมกลุ่มกันอย่างเข้มแข็ง ดังนั้น สมาคมฯ จะเป็นเจ้าภาพในการรวมผู้ประกอบการ ซึ่งงานนี้จะเน้นเจรจาการค้า และให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการในกลุ่มนี้ เตรียมพร้อมสำหรับการรับมือการเปิดเสรีการค้าอาเซียน ซึ่งจะมีผลตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป คาดจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 1 หมื่นคน วงเงินสะพัดในงานกว่า 300 ล้านบาท และตั้งเป้าจะยกระดับงานสู่สากลภายใน 3-5 ปีข้างหน้า