xs
xsm
sm
md
lg

กรมส่งออก วางเป้างาน BIG สวนกระแส ผู้ชมงานแห่หลักแสน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก
กรมส่งออก ผนึก 7 สมาคมฯ เดินหน้าจัด BIG & BIH ระหว่างวันที่ 21-26 เม.ย.นี้ คาดมีผู้เข้าชมงานกว่าแสนคน แบ่งเป็นในวันเจรจาธุรกิจ ประมาณ 18,000 คน และวันขายปลีก 90,000 คน ยังเชื่อธุรกิจของแต่งบ้านยังโตได้ เน้นกลยุทธ์การสร้างมูลค่าสินค้า กลยุทธ์ด้านการตลาดโดยการขยายการส่งออกไปตลาดใหม่ แต่ยังคงรักษาตลาดเก่าควบคู่ไปด้วย

นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า งานแสดงสินค้าของขวัญและงานแสดงสินค้าของใช้ในบ้าน เดือนเมษายน 2552 (Bangkok International Gift Fair & Bangkok International Houseware Fair : BIG & BIH April 2009) ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-26 เมษายน นี้ ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศเป็นอย่างดี โดยขณะนี้ได้มีผู้ประกอบการตอบรับเข้าร่วมแสดงสินค้าในงานแล้ว 656 ราย จำนวน 1,680 คูหา และมีผู้ประกอบการจากหลายประเทศเข้าร่วมงานด้วย อาทิ ไต้หวัน อินโดนีเซีย อิตาลี เกาหลีใต้ สิงคโปร์ กาน่า เป็นต้น ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ กรมส่งเสริมการส่งออกได้ร่วมมือกับ 7 สมาคม ได้แก่ สมาคมของขวัญของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน สมาคมอุตสาหกรรมของเล่นไทย สมาคมการค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทย สมาคมเครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงานไทย สมาคมสินค้าตกแต่งบ้าน สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ และสมาคมผู้ผลิตผลิตภัณฑ์แนวดีไซน์

ทั้งนี้ การจัดงานดังกล่าว กรมฯ ได้เตรียมความพร้อมในทุกด้านแล้ว โดยได้คัดเลือกนักออกแบบ ผู้ผลิต และผู้ประกอบการส่งออกที่มีความสามารถและเชื่อถือได้เข้าร่วมแสดงสินค้า จึงทำให้ผู้ซื้อจากต่างประเทศมั่นใจได้ว่าจะได้พบกับคู่ค้าที่ส่งเสริมให้เกิดความสำเร็จร่วมกัน นอกจากนี้ ภายในงานยังได้มีบริการอื่น ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้าชมงาน อาทิ การให้ข้อมูลทางธุรกิจ แนะแนวการทำธุรกิจแก่ผู้ประกอบการไทย ไปจนถึงการจับคู่ทางธุรกิจ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีจำนวนผู้เข้าชมงานในวันเจรจาธุรกิจ ประมาณ 18,000 คน และวันจำหน่ายปลีกประมาณ 90,000 คน และจะช่วยผลักดันให้มูลค่าการส่งออกสินค้าไลฟ์สไตล์ในปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปี 2551 ที่มีมูลค่าทั้งสิ้น 3,073.69 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการส่งออกของสินค้าไลฟ์สไตล์ในปี 2552 คาดการณ์ว่า สินค้าเฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน จะมีมูลค่าประมาณ 1,307 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ประมาณร้อยละ 5 สินค้าของขวัญ ของชำร่วยและของตกแต่งบ้าน จะมีมูลค่า 429.49 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารและในครัว 734 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 เคหะสิ่งทอ 379.52 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ของเล่น 272 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 และสินค้าเครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงาน คาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ เป็นที่ทราบการเกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ทั่วโลก ทำให้การนำเข้าของต่างประเทศลดลงและส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยเป็นอย่างมาก กรมส่งเสริมการส่งออกได้มีการจัดทำมาตรการเร่งด่วนกระตุ้นการส่งออกในปี 2552 เพื่อรับมือกับผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้น โดยในส่วนของการส่งออกสินค้าไลฟ์สไตล์ กรมฯ ได้มีแผนการส่งออกเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและกระตุ้นการส่งออกให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยเน้นกลยุทธ์การสร้างมูลค่าสินค้า กลยุทธ์ด้านการตลาดโดยการขยายการส่งออกไปตลาดใหม่ แต่ยังคงรักษาตลาดเก่าควบคู่ไปด้วย

นอกจากนี้ ยังมีแผนงานโครงการต่าง ๆ อาทิ การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ที่เป็นที่รู้จักในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก การจัดงานแสดงสินค้านานาชาติในประเทศ โดยเฉพาะงาน BIG & BIH เดือนเมษายน และเดือนตุลาคม 2552 รวมถึงการจัดคณะผู้แทนการค้าสินค้าไลฟ์สไตล์เยือนตลาดใหม่และตลาดเก่า โดยมีประเทศเป้าหมาย ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย รัสเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ออสเตรเลีย อินเดีย ยุโรปตะวันออก (สาธารณรัฐเช็ก สโลนีเวีย โครเอเชีย) จอร์เจีย ซีเรีย และโมร็อกโก รวมทั้งได้มีการพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการสินค้าไลฟ์สไตล์ การให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการในการพัฒนาสินค้าให้มีรูปแบบทันสมัย สามารถแข่งกับตลาดโลกได้ และเชิญผู้ซื้อจากต่างประเทศเดินทางมาเจรจากับผู้ส่งออกไทย ซึ่งมาตรการต่าง ๆ ที่ดำเนินขึ้นได้รับความสำเร็จด้วยดี ทำให้ประเทศไทยเพิ่มสัดส่วนการส่งออกในตลาดใหม่ ๆ ทดแทนการส่งออกไปยังตลาดหลักเดิมได้

สำหรับงาน BIG & BIH เดือนเมษายน 2552 ในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่จะทำให้ผู้ซื้อต่างชาติจากทั่วโลกได้เห็นสินค้าไทยที่มากด้วยดีไซน์ คุณภาพ และความปลอดภัยของสินค้า รวมถึงสินค้าและนวัตกรรมใหม่ที่ผู้ประกอบการเตรียมที่จะนำมาเปิดตัวภายในงาน ซึ่งเป็นจุดขายของสินค้าไลฟ์สไตล์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและรักษาตลาดให้เป็นของประเทศไทยต่อไป โดยระหว่างวันที่ 21-26 เมษายน 2552 เป็นวันเจรจาธุรกิจ 21-24 เมษายน เวลา 10.00-18.00 น. และวันจำหน่ายปลีก 25-26 เมษายน เวลา 10.00-21.00 น. ณ อาคาร 1-8 อิมแพ็ค เมืองทองธานี คาดว่า จะมีผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมงานทั้งในและต่างประเทศประมาณกว่า 100,000 คน
กำลังโหลดความคิดเห็น