กระเป๋าหนังวัวแท้ แบรนด์ “NC” แจ้งเกิดด้วยจุดขายแฮนด์เมดแสนประณีต มาพร้อมกับดีไซน์เลิศหรูเป็นสากล ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเป้าหมายอย่างสุภาพสตรีชาวต่างชาติได้อย่างดี เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของผู้ประกอบการตัวเล็กๆ ที่สร้างธุรกิจจากสองมือเปล่า จนปัจจุบันมีพื้นที่ยืนในเส้นทางอาชีพของตัวเองได้สำเร็จ
ผู้เบื้องหลังผลงาน คือ “อิทธิเดช ตันบูล” หนุ่มวัย 38 ปี พื้นเพชาวจังหวัดเชียงใหม่ แต่ย้ายเข้ามาทำมาหากินเป็นลูกจ้างร้านทำกระเป๋าหนังแห่งหนึ่งในเมืองหลวงตั้งแต่อายุประมาณ 16 ปี
อิทธิเดชใช้เวลากว่า 15 ปีในการเป็นลูกจ้าง เรียนรู้และสะสมประสบการณ์ในวิชาชีพนี้ จนกลายเป็นเดี่ยวมือหนึ่งประจำร้าน สามารถทำเองได้ทุกขั้นตอนตั้งแต่ออกแบบ ซื้อวัตถุดิบ ผลิต จนถึงขาย เมื่ออิ่มตัวในการเป็นลูกจ้าง ตัดสินใจออกมาสร้างธุรกิจผลิตและขายกระเป๋าหนังของตัวเอง เมื่อปีพ.ศ.2545
แม้จะเชี่ยวชาญทำกระเป๋าหนังได้ทุกประเภท แต่สำหรับธุรกิจของตัวเอง เลือกจะเน้นใช้วัตถุดิบ “หนังวัว” เป็นหลัก ด้วยเหตุผล ชอบความสวยงามในลวดลายของหนังวัว อีกทั้ง หนังวัวมีคุณสมบัติเหนียวแน่นแข็งแรงทนทาน อายุใช้งานมากกว่า 10 ปีขึ้นไป ขณะเดียวกันลักษณะหนังจะนิ่ม และเรียบเนียน เหมาะแก่การใช้งานของกระเป๋าหนัง
เนื่องจากวางลูกค้าเป้าหมายเป็นชาวต่างชาติที่จะชื่นชอบสินค้าแฮนด์เมด ทำจากวัตถุดิบธรรมชาติ ดังนั้น ทำเลที่เลือกเปิดร้าน เจาะจงต้องเป็นย่านนักท่องเที่ยวคึกคัก โดยลงทุนประมาณ 5-6 หมื่นบาท เช่าพื้นที่เปิดร้านเล็กๆ ในซอยรามบุตรี สามารถเดินทะลุไปถนนข้าวสารได้ ซึ่งผลตอบรับดีเกินคาด ทั้งจากลูกค้าซื้อปลีก และออเดอร์ต่างชาติ ช่วยให้คืนทุนและธุรกิจตั้งตัวได้อย่างรวดเร็ว
“ผมพยายามสร้างจุดเด่นจากแบบไม่ให้เหมือนใคร ไม่สามารถหาซื้อกระเป๋าแบบนี้ได้ตามท้องตลาดทั่วไป ประกอบกับเลือกใช้หนังวัวเกรดเอ และคุณภาพสินค้าที่ดี ทำให้ลูกค้าที่เคยซื้อไป กลับมาซื้อซ้ำอีก แถมยังช่วยไปบอกต่อด้วย”
เจ้าของสินค้า เล่าต่อว่า สิ่งสำคัญที่ช่วยให้สามารถทำกระเป๋าออกมาคุณภาพดี เกิดจากประสบการณ์ที่สะสมมายาวนาน ความรู้เหล่านี้ไม่สามารถถ่ายทอดจากคำพูดได้ จำเป็นต้องอาศัยเวลาค่อยๆ เรียนรู้ ทั้งการเลือกวัตถุดิบ การดีไซน์ให้ถูกใจลูกค้า รวมถึงทำกระเป๋าได้รูปทรงสวยงาม และแข็งแรง
ด้านการผลิตนั้น อิทธิเดชจะเป็นคนไปเลือกซื้อวัตถุดิบหนังวัวด้วยตัวเองถึงแหล่งโรงงานผลิต เพื่อคัดหนังที่ได้คุณภาพและสีสันตามต้องการ โดยใช้หนังวัวแท้ เกรดเอ ราคาซื้อขายกันเฉลี่ยประมาณ เซนติเมตรละ 5-6 บาท ส่วนการผลิตเป็นงานแฮนด์เมด เกือบ100% ยกเว้นการเย็บเท่านั้นที่ใช้จักรอุตสาหกรรม ส่วนแรงงานเป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือน มีญาติพี่น้อง 3-4 คน ช่วยกันทำ
หลังธุรกิจร้านเติบโตได้ดีต่อเนื่อง ราวปีพ.ศ. 2550 ได้ขยับขยายร้านให้ใหญ่ขึ้น ลงทุนประมาณ 3 แสนบาท ย้ายมาเปิดร้านบริเวณถนนพระอาทิตย์ ซึ่งอยู่มาถึงปัจจุบัน รวมถึง เพิ่มสาขาที่ตลาดนัดสวนจตุจักร โครงการ7 ซอย 4 นอกจากนั้น ได้จดเครื่องหมายการค้าในชื่อ “NC” ย่อมาจาก North City หรือเมืองเหนือ สื่อถึงตัวเขาเป็นชาวจังหวัดเชียงใหม่นั่นเอง
อิทธิเดช เผยว่า กลุ่มลูกค้าหลักของร้านกว่า 80% จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวตะวันตก โดยเฉพาะสุภาพสตรี ดังนั้น กระเป๋าส่วนใหญ่จะเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์ลูกค้ากลุ่มนี้เป็นหลัก โดยออกแบบเป็นกระเป๋าใบใหญ่ ใช้งานได้แทบทุกโอกาส ดีไซน์มีความเป็นสากลสูง ส่วนลูกค้าชาวไทย แทบทุกคนที่เข้าร้านจะชื่นชมในความสวยงาม แต่ติว่าราคาค่อนข้างสูงเกินไป
ทั้งนี้ ราคาขายกระเป๋าหิ้วสตรี เริ่มต้นที่ประมาณใบละ 1 พันบาทถึงสูงสุด 4.5 พันบาท ทั้งหมดมีกระเป๋าให้เลือกกว่าร้อยแบบ นอกจากนั้น เพื่อเพิ่มความหลากหลาย ยังทำสินค้าเครื่องหนังอื่นๆ ด้วย เช่น กระเป๋าสตางค์ เข็มขัด กระเป๋าใส่โน้ตบุ๊ค รองเท้า พวงกุญแจ ซองใส่โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
ด้านการออกแบบ เจ้าของร้าน เล่าว่า จะพยายามตามติดเทรนด์แฟชั่นของโลกตลอดเวลา ผ่านการดูนิตยสารต่างประเทศแล้วนำมาประยุกต์เป็นสไตล์ของตัวเอง เฉลี่ยแล้วร้านจะเปลี่ยนสินค้าทุกๆ 3 เดือน เพื่อรองรับลูกค้าขาประจำที่จะกลับมาซื้อซ้ำอีกครั้ง
เนื่องจากลูกค้าสำคัญของร้าน คือ นักท่องเที่ยวต่างชาติ เมื่อเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ประกอบกับความวุ่นวายทางการเมืองของไทย ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวน้อยลง อีกทั้ง พฤติกรรมการซื้อเน้นประหยัดขึ้น กระทบกับธุรกิจของร้านเป็นอย่างมาก ในอดีตยอดขายเฉลี่ยร้อยชิ้นต่อเดือน แต่ในช่วงรอบปีที่ผ่านมา ลดลงเหลือไม่ถึงครึ่งจากเดิม
อย่างไรก็ตาม พยายามปรับตัวโดยลดต้นทุนทุกๆ ด้านให้มากที่สุด เช่น สต๊อกสินค้าเท่าที่จำเป็น รวมถึง นำเศษหนังเหลือทิ้ง มาทำเป็นสินค้าที่ระลึกชิ้นเล็กๆ เช่น พ่วงกุญแจ และที่ห้อยโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น เพื่อลดเศษวัตถุดิบเหลือทิ้ง แถมยังช่วยเสริมรายได้อีกทาง
อิทธิเดช ทิ้งท้ายว่า ความฝันสำหรับคนทำธุรกิจเล็กๆ เช่นเขา ขอแค่ได้ทำงานที่ตัวเองรัก และสินค้าขายได้ดีไปเรื่อยๆ เท่านี้ก็มีความสุขเพียงพอแล้ว
********************************
โทร.08-9885-3381 , 08-9207- 1207