“สุขุมพันธุ์” ขู่ตัดสิทธิ์ผู้ค้าหากพบให้เช่าช่วงจตุจักรมิดไนต์ ส่วนจะให้สิทธิขยายเป็น 2 เดือนหรือไม่นั้น ขอประเมินผล 1 เดือนก่อน ขณะที่ส่ง “อรุณ” เจรจา ร.ฟ.ท.สัปดาห์หน้าหาข้อสรุปค่าเช่าที่ตลาดนัดสวนจตุจักร ผู้ว่าฯ ย้ำยึดประโยชน์ผู้ค้าเป็นหลัก
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ลงพื้นที่บริเวณหน้ากองอำนวยการตลาดนัดจตุจักร ก่อนที่จะเปิดให้ผู้ค้าที่ได้รับสิทธิจากค้าขายในโครงการจัตุจักรมิดไนต์ที่จะเริ่มศุกร์แรก 20 กุมภาพันธุ์นี้ โดยมี นายอรุณ ศรีจรูญ รักษาการผู้อำนวยการตลาดนัดกรุงเทพมหานคร ให้ข้อมูล
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากที่เปิดให้ผู้ค้าที่ได้รับสิทธิจำหน่ายไปแล้ว 1 เดือน จะมีการประเมินว่า ผลการตอบรับเป็นอย่างไรบ้างก่อนที่จะมีการพิจารณาว่าจะขยายสิทธิให้ผู้ค้าจาก 1 เดือน เป็น 2 เดือนหรือไม่ และหากพบว่ามีการให้เช่าช่วงต่อจะตัดสิทธิ์ผู้ค้ารายนั้นทันที ส่วนจะสร้างเป็นแผงค้าถาวรหรือไม่นั้น จะต้องพิจารณากันอีกครั้ง เพราะเสน่ห์ของตลาดนัดจตุจักรส่วนหนึ่ง มาจากการสัญจรไปมาที่สะดวก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ และคณะที่ปรึกษาได้ประชุมหารือกับนายอรุณ เรื่องค่าเช่าที่ดินบริเวณตลาดนัดจตุจักรกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) โดย นายอรุณ ชี้แจงในที่ประชุมว่า ร.ฟ.ท.ได้มีหนังสือมายังกองอำนวยการตลาดนัด กทม. เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา ระบุว่า ขอให้ กทม.เร่งเข้าไปเจรจาเรื่องค่าเช่าที่ดินบริเวณตลาดนัดจตุจักร จำนวน 54 ไร่ หรือกว่า 100,000 ตารางเมตร โดยตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.2551- 1 ม.ค. 2554 กทม.จะต้องจ่ายเงินเช่าที่ตารางเมตรละ 191.41 บาท ตามการเจรจาสมัยที่ นายเฉลิมชัย เขียวประดิษฐ์ ยังเป็นผู้อำนวยการตลาดนัด กทม.
ทั้งนี้ ในการจ่ายค่าเช่าที่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กองอำนวยการตลาดนัด กทม.ได้จ่ายเงินให้กับ ร.ฟ.ท.ในอัตราตารางเมตร และ 32 บาท ซึ่งทาง ร.ฟ.ท.ก็ได้รับเงินค่าเช่าดังกล่าวโดยไม่ได้มีข้อท้วงติงใดๆ
นายอรุณ กล่าวภายหลังการหารือว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้มอบหมายให้ตนไปเจรจากับผู้บริหารการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) หลังจากที่เมื่อวานนี้ ร.ฟ.ท.ได้ส่งหนังสือเร่งรัดให้ กทม.เร่งเจรจาค่าเช่าที่ตลาดนัดสวนจตุจักร โดยได้กำชับให้ตนเจรจาให้รักษาผลประโยชน์ของประชาชนให้ได้มากที่สุด และค่าเช่าจะต้องไม่ก้าวกระโดดจากอัตราเดิมมากเพราะจะเป็นการผลักภาระให้กับผู้ค้า ซึ่งคาดว่าจะสามารถเข้าเจรจาได้ในสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตาม อัตราค่าเช่าที่ ร.ฟ.ท.ตั้งไว้ คือ 191.41 บาทนั้น ผู้บริหารไม่เห็นด้วย ดังนั้น คงต้องมีการเจรจาให้ราคาต่ำกว่าราคาดังกล่าว แต่ต้องให้เป็นราคาที่ ร.ฟ.ท.และ กทม.พอใจ
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ลงพื้นที่บริเวณหน้ากองอำนวยการตลาดนัดจตุจักร ก่อนที่จะเปิดให้ผู้ค้าที่ได้รับสิทธิจากค้าขายในโครงการจัตุจักรมิดไนต์ที่จะเริ่มศุกร์แรก 20 กุมภาพันธุ์นี้ โดยมี นายอรุณ ศรีจรูญ รักษาการผู้อำนวยการตลาดนัดกรุงเทพมหานคร ให้ข้อมูล
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากที่เปิดให้ผู้ค้าที่ได้รับสิทธิจำหน่ายไปแล้ว 1 เดือน จะมีการประเมินว่า ผลการตอบรับเป็นอย่างไรบ้างก่อนที่จะมีการพิจารณาว่าจะขยายสิทธิให้ผู้ค้าจาก 1 เดือน เป็น 2 เดือนหรือไม่ และหากพบว่ามีการให้เช่าช่วงต่อจะตัดสิทธิ์ผู้ค้ารายนั้นทันที ส่วนจะสร้างเป็นแผงค้าถาวรหรือไม่นั้น จะต้องพิจารณากันอีกครั้ง เพราะเสน่ห์ของตลาดนัดจตุจักรส่วนหนึ่ง มาจากการสัญจรไปมาที่สะดวก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ และคณะที่ปรึกษาได้ประชุมหารือกับนายอรุณ เรื่องค่าเช่าที่ดินบริเวณตลาดนัดจตุจักรกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) โดย นายอรุณ ชี้แจงในที่ประชุมว่า ร.ฟ.ท.ได้มีหนังสือมายังกองอำนวยการตลาดนัด กทม. เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา ระบุว่า ขอให้ กทม.เร่งเข้าไปเจรจาเรื่องค่าเช่าที่ดินบริเวณตลาดนัดจตุจักร จำนวน 54 ไร่ หรือกว่า 100,000 ตารางเมตร โดยตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.2551- 1 ม.ค. 2554 กทม.จะต้องจ่ายเงินเช่าที่ตารางเมตรละ 191.41 บาท ตามการเจรจาสมัยที่ นายเฉลิมชัย เขียวประดิษฐ์ ยังเป็นผู้อำนวยการตลาดนัด กทม.
ทั้งนี้ ในการจ่ายค่าเช่าที่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กองอำนวยการตลาดนัด กทม.ได้จ่ายเงินให้กับ ร.ฟ.ท.ในอัตราตารางเมตร และ 32 บาท ซึ่งทาง ร.ฟ.ท.ก็ได้รับเงินค่าเช่าดังกล่าวโดยไม่ได้มีข้อท้วงติงใดๆ
นายอรุณ กล่าวภายหลังการหารือว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้มอบหมายให้ตนไปเจรจากับผู้บริหารการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) หลังจากที่เมื่อวานนี้ ร.ฟ.ท.ได้ส่งหนังสือเร่งรัดให้ กทม.เร่งเจรจาค่าเช่าที่ตลาดนัดสวนจตุจักร โดยได้กำชับให้ตนเจรจาให้รักษาผลประโยชน์ของประชาชนให้ได้มากที่สุด และค่าเช่าจะต้องไม่ก้าวกระโดดจากอัตราเดิมมากเพราะจะเป็นการผลักภาระให้กับผู้ค้า ซึ่งคาดว่าจะสามารถเข้าเจรจาได้ในสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตาม อัตราค่าเช่าที่ ร.ฟ.ท.ตั้งไว้ คือ 191.41 บาทนั้น ผู้บริหารไม่เห็นด้วย ดังนั้น คงต้องมีการเจรจาให้ราคาต่ำกว่าราคาดังกล่าว แต่ต้องให้เป็นราคาที่ ร.ฟ.ท.และ กทม.พอใจ
