ก.พาณิชย์ เร่งผลักดันเอสเอ็มอีไทยเปิดตลาดใหม่ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มสุขภาพ ชี้โอกาสยังเปิดอีกกว้าง
นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ประเทศในตะวันออกกลาง ได้แก่ คูเวต กาตาร์ บาห์เรน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พร้อมเดินหน้าทำการค้ากับไทย โดยจะมีการจับคู่ทางธุรกิจระหว่างกัน เน้นธุรกิจสุขภาพ แฟรนไชส์ ยานยนต์และชิ้นส่วน อาหารและอาหารสำเร็จรูป ผลไม้กระป๋อง และเครื่องทำความเย็น
ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์จะมีการนำผู้ประกอบการรายใหญ่และผู้ประกอบการที่ผ่านการอบรมจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าซึ่งจะมีความแข็งแกร่ง โดยเน้นภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ไปเปิดตลาดในประเทศเหล่านี้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งแต่ละปีมูลค่าการค้าทั้งสี่ประเทศรวมกัน 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 40-50 ถือว่าน้อยมาก หากเปรียบเทียบกับโอกาสทางการตลาด และศักยภาพในการซื้อของประเทศเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม ทางพาณิชย์ได้จัดพาเอสเอ็มอีมาเยือนเพื่อเปิดตลาด โดยการเยือนครั้งล่าสุด ถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะนอกจากจะกระชับความสัมพันธ์ทางการทูตแล้ว ยังเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันให้สูงขึ้น ซึ่งโอกาสที่ไทยจะเติบโตในตลาดตะวันออกกลางยังมีอีกมาก จึงได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าไปดำเนินการขับเคลื่อนเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพเข้าไปเจาะตลาดในตะวันออกกลาง
ทั้งนี้ บางประเทศใน 4 ประเทศได้ขอให้ไทยจัดทำการค้าแบบบาร์เตอร์เทรด หรือรัฐต่อรัฐ โดยตะวันออกกลางยังต้องการสินค้าไทย เช่น ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง และอยากให้ไทยแลกเปลี่ยนสินค้า เช่น น้ำมัน แก๊ส และปุ๋ย โดยกระทรวงพาณิชย์จะเสนอแผนให้รัฐบาลพิจารณาต่อไป พร้อมกันนี้ไทยจะเดินหน้าจัดงานไทยแลนด์เอ็กซิบิชั่น และเทรดแฟร์ต่าง ๆ ในตะวันออกกลาง เพื่อให้รับรู้ว่าสินค้าไทยมีคุณภาพและหลากหลาย