จากผู้ที่คุ้นเคยรสมือขนมหวานของคุณย่า ทำให้เมื่อโตขึ้น และได้มีโอกาสคลุกคลีในแวดวงของอาหารมาตั้งแต่เกิด ทำให้ทายาทธุรกิจโคคาสุกี้เจนเนอเรชั่นที่ 3 ของตระกูล “พันธุ์เพ็ญโสภณ” ต้องการให้ผู้อื่นได้ลิ้มรสชาติขนมของคุณย่าบ้าง จึงผุดไอเดีย“ ร้านเลขที่ 8” ชื่อที่สื่อถึงความเป็นมงคลของชาวจีน ถ่ายทอดรสชาติขนมหวานสไตล์จีนโบราณสู่ผู้บริโภค
แม้ขณะนี้ผู้ที่ผุดไอเดียร้าน “ร้านเลขที่ 8” คือ นัฐธารี พันธุ์เพ็ญโสภณ ทายาทคนโตของภัตตาคารสุกี้โคคา กำลังศึกษาต่อด้านอาหารที่ประเทศอังกฤษ แต่ก็ได้มอบหมายให้ นายอดินันท์ มานะสุขเจริญพร ผู้จัดการร้านเลขที่ 8 ดูแลคอนเซ็ปต์ร้าน และรสชาติอาหารให้ถูกปากผู้บริโภค ตามสูตรดั้งเดิมของคุณย่า ซึ่งนายอดินันท์ เล่าว่า ร้านเลขที่ 8 ในปีนี้ได้ย่างเข้าขวบปีที่ 2 แล้ว มีเพียงสาขาเดียวคือ ที่สาขาโคคาสุกี้ ซอยทานตะวัน ย่านสุรวงศ์ เน้นการออกแบบตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นไชนีส (Modern Chinese) ภายใต้คอนเซ็ปต์ “รำลึกถึงความหลังผ่านขนมหวานของจีน” ที่นับวันหารับประทานได้ยากเต็มที
ร้านเลขที่ 8 ถือเป็นร้านที่ได้รวบรวมขนมหวานสูตรคุณย่า คือ ปัทมา พันธุ์เพ็ญโสภณ ผู้บุกเบิกสุกี้โคคารุ่นแรกนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นงาดำร้อน ถั่วแดงกวนใส่แปะก๊วย ขนมไข่มังกร บัวลอยน้ำขิง และทาร์ตไข่สไตล์ฮ่องกง ซึ่งหน้าตาอาจไม่เหมือนทาร์ตไข่ที่หลายคนคุ้นเคย เพราะได้รับเอาวัฒนธรรมจากประเทศโปรตุเกสมาผสมผสานชวนให้ลิ้มลอง
“ขนมของทางร้านฯ จะพยายามเป็นขนมที่รับประทานง่าย ไม่ยุ่งยาก เสิร์ฟทั้งเมนูขนมหวานทั้งร้อนและเย็น รับประทานคู่กับชาจีนดอกไม้ ที่เข้ากันได้ดีกับขนมหวาน ซึ่งชาวจีนเชื่อว่าชาจีนร้อนจะช่วยละลายไขมันจากอาหารหรือขนมที่มีขนมผสมอยู่ และช่วยให้ทานขนมได้คล่องคอขึ้น ภายใต้บรรยากาศที่อบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน ด้วยราคาที่ไม่สูงมากนัก โดยเจาะกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น และคนวัยทำงาน ในขณะที่รสชาติก็ได้ปรับให้มีความหวานน้อยลง หวังเอาใจลูกค้าในยุคนี้ที่เอาใจใส่ในเรื่องสุขภาพมากขึ้น”
สำหรับการตกแต่งร้านที่คงคอนเซ็ปต์เหมือนอยู่บ้านแล้ว นัฐธารี ยังเป็นผู้เลือกเฟอร์นิเจอร์ รูปภาพพู่กันจีน ล้วนมาจากไอเดียของนัฐธารีทั้งสิ้น ซึ่งถือว่าร้านเลขที่ 8 เป็นร้านที่สื่อความเป็นตัวตนของเจ้าของร้านได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโซฟา เก้าอี้ อุปกรณ์ในการรับประทานอาหาร อย่างถ้วยที่ใส่ขนมเป็นถ้วยกระเบื้องลายผักชีที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 50 ปี รวมถึงภายในร้านยังจัดมุมในการตั้งโหลแก้ว บรรจุขนมหวานเมื่อครั้งวัยเยาว์ให้ลูกค้าเลือกซื้อด้วยในราคาขีดละ 30 บาท และขนมพุดดิ้ง เช่น รสชาไทย น้ำเต้าหู้ ใบเตย และนมเย็น จะนำใส่โหลขนาดเล็กแบบโบราณ เพื่อให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ของทางร้านที่ต้องการให้เป็นขนมหวานที่ระลึกถึงความหลัง
นอกจากขนมหวานที่ทำให้หลายคนนึกถึงรสชาติในอดีตได้แล้ว อาหารคาวรสชาติก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน เพราะทุกเมนูทางร้านทำสดใหม่วันต่อวัน ซึ่งอาหารที่ขึ้นชื่อคือ ติ่มซำ ที่ทำสดใหม่ ไม่ใช่แบบแช่แข็ง สุกี้ที่สั่งตรงจากครัวของโคคาสุกี้ สาขาสุรวงศ์ที่อยู่ในพื้นที่เดียวกัน ข้าวหน้าเป็ด และเมนูอาหารจานด่วนที่ปรับเปลี่ยนทุกวัน (Special of the Day) ในช่วงมื้อกลางวัน เอาใจพนักงานออฟฟิศที่มีเวลาไม่มากนัก เช่น ข้าวน่องไก่โปรตุเกศ ข้าวอบหนำเลียบ ข้าวแกงเขียวหวานเสวย เป็นต้น ซึ่งเมนูต่างๆ เหล่านี้เสริฟพร้อมชาจีน และของหวาน
ปัจจุบัน ณัฐธารี กำลังศึกษาต่อทางด้านโภชนาการ เพื่อนำองค์ความรู้ด้านอาหารมาปรับใช้กับร้านเลขที่ 8 ที่มุ่งมั่นให้สาขาที่สุรวงศ์เป็นร้านต้นแบบเพื่อในอนาคตตั้งใจจะขยายร้านเลขที่ 8 ตามแหล่งชุมชนอื่นๆ รวมถึงในห้างสรรพสินค้า และสถาบันการศึกษา ซึ่งที่ผ่านมาร้านเลขที่ 8 เป็นที่รู้จักของลูกค้ามากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยยอดลูกค้าเพิ่มขึ้นประมาณ 10% ซึ่งตรงตามแผนธุรกิจที่ได้วางไว้ แต่อย่างไรก็ตามการขยายสาขาต้องขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจ
***สนใจติดต่อ 08-1459-7363***